ชัชชาติ บุก ส.อ.ท. ร่วมผนึกกำลังปั้นชุมชนคลองเตยเป็นต้นแบบบีซีจี เน้นนำพื้นที่เปล่ามาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมลุยเนรมิตคลองหัวลำโพง หวังพัฒนาเป็นเวนิสตะวันออก
22 มิ.ย. 2565 – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครว่า ได้มีการหารือกันประเด็นการขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร โดยจะนำโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี เป็นตัวนำร่อง เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจะนำสมาชิกส.อ.ท. ทั้งหมดมามีส่วนร่วม และช่วยกันลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การผลักดันโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร หรือโครงการไซ โดยจะเลือกพื้นที่นำร่อง คือ ชุมชนคลองเตย นำพื้นที่เปล่าในกรุงเทพมหานครมาใช้ประโยชน์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถขอใบอนุญาตโรงงานได้ เนื่องจากติดผังเมือง รวมถึงขาดมาตรการจูงใจ ทางกทม.จะไปดูในเรื่องนี้
นอกจากนี้จะนำขยะหรือของเหลือใช้มาเพิ่มคุณค่า มาสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ และลดขยะโดยการนำของเหลือใช้หมุนวนนำกลับมาผลิตใหม่ แต่ปัญหา คือ ขยะยังขาดการคัดแยกที่ถูกวิธี ต้นทุนกาผลิตก็ยังสูง และยังขาดการส่งเสริมอย่างเป็นระบบ กทม.จะไปจัดการกับขยะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะสนับสนุนให้โรงงานในเขตกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมโรงงาน เชื่อมโยงเศรษฐกิจให้กับชุมชน และส่งเสริมระบบซิมไบโอซิส การอยู่ร่วมกันระหว่างโรงงานหรือระหว่างโรงงานและชุมชน ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่โรงงานด้วย จะช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ได้ด้วย
“หากเอกชนยินยอมให้นำพื้นที่มาพัฒนาตามโครงการไซ จะสามารถลดอัตราการเสียภาษีให้น้อยลงได้ และในภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานในสกรุงเทพมหานครสามารถใช้ผลผลิตที่ได้จากในพื้นที่มาบริโภค และสามารถสร้างรายให้กับชุมชม ซึ่งครั้งนี้เป็นการหารือในเบื้องต้น หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนของกรุงเทพมหานคร (กรอ.กทม.) คาดว่า จะเริ่มประชุมกันได้ภายในเดือนหน้า”นายเกรียงไกร กล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แผนที่พัฒนาแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองที่เชื่อมต่อ ให้เป็นแซนบ็อคของ กทม. โดยเลือกคลองหัวลำโพง ระยะทาง 1 กม. ที่ปัจจุบันมีปัญหาความไม่สะอาดและมีกลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรง ซึ่งจะใช้เป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยจะดึงสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ส.อ.ท. เพื่อมีเป้าหมายพัฒนาคลองหัวลำโพง ให้เป็นเวนิสตะวันออก จากทั้งหมด 1,126 คลองทั่วกรุงเทพฯ
พร้อมทั้งให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานครที่มีทั้งหมดกว่า 5,000 โรง ต้องมีความโปร่งใส มีมาตรฐานและดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ให้กระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมไปถึงการลดขั้นตอนการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับ กทม. ให้เป็นแบบวัน สตอป เซอร์วิส โดยกทม.ยกให้ภาคเอกชนมีบทบาทดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่กรุงเทพมหานครหลังการฟื้นตัวของโควิด เช่น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นตัวสรน้าวงรายได้ ซึ่งการหารือทั้งหมดภายใต้โครงการที่ทำงานร่วมกันจะเห็นผลภายใน 1-2 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' คุย กกร. ชื่นมื่น! ปลื้มอวย 'พ่อนายกฯ' แก้เศรษฐกิจเก่งสุด
นายกฯ คุย ‘กกร.’ รับข้อเสนอแก้เศรษฐกิจ จับมือเอกชนหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ด้าน ‘สนั่น’ เชื่อมั่นรัฐบาลอิ๊งค์ พร้อมช่วยดันจีดีพีโต ชมเปาะ 'ทักษิณ' เก่งสุด
เอกชนยังอุ่นใจ ได้รบ.พรรคเดิม สานต่อนโยบาย
ประธาน ส.อ.ท.เทียบ "ชัยเกษม-เเพทองธาร" เด่นคนละแบบ ชี้ "ชัยเกษม" มีความเก๋าทางการเมือง "แพทองธาร" เป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจวัยรุ่น