นิคมฯ อัจฉริยะเฮ ! BOI ไฟเขียวสิทธิประโยชน์เพิ่ม เว้นภาษี 8 ปี กำหนดลงทุนในเขตอีอีซี จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคลเพิ่ม 50% เป็นระยะ 5 ปี หวังหนุนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงมาบริหารจัดการในนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
21 มิ.ย. 2565 – นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.มุ่งผลักดันให้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart IE) ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการในนิคมอุตสาหกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบกิจการ โดย กนอ.ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ศึกษาเพื่อจัดทำสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนให้กับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ และพื้นที่ประกอบการอัจฉริยะในนิคมอุตสาหกรรม (Smart IZ)
โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ด บีโอไอ ได้เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนกิจการนิคมหรือเขตอุสาหกรรมอัจฉริยะ โดยต้องจัดให้มีบริการระบบอัจฉริยะ 5 ด้าน ได้แก่ Smart Facilities , Smart IT, Smart Energy, Smart Economy และบริการระบบอัจฉริยะด้านอื่นๆ อย่างน้อยอีก 1 ใน 3 ด้าน คือ Smart Good Corporate Governance, Smart Living และ Smart Workforce พร้อมทั้งยกเลิกเงื่อนไข ห้ามตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นอกจากนี้ โครงการที่ได้รับการส่งเสริมอยู่เดิม ทั้งที่ยังไม่สิ้นสุดหรือสิ้นสุดแล้ว และโครงการที่ไม่เคยได้รับการส่งเสริม สามารถขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม หรือขอรับการส่งเสริมเพื่อยกระดับเป็นนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมอัจฉริยะได้เช่นกัน รวมทั้งยังได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคล 8 ปี หากตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี จะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นระยะเวลา 5 ปีเพิ่มเติม
สำหรับระบบอัจฉริยะด้านต่างๆ ประกอบด้วย Smart Facilities คือ การนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมาใช้ติดตาม ควบคุม บริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพระบบสาธารณูปโภคต่างๆ , Smart IT คือ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกการดำเนินงานของผู้ประกอบกิจการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างทั่วถึง , Smart Energy คือ การใช้พลังงานโดยมีค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือ มีการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่การเป็นอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ , Smart Economy คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักการของ BCG
รวมถึง Smart Good Corporate Governance คือ การพัฒนากำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบรรษัทภิบาล โดยมีการสื่อสารและเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลภายนอกเป็นไปอย่างเหมาะสม เท่าเทียมกัน ทันเวลา และใช้ช่องทางที่เหมาะสม Smart Living และ Smart Workforce คือ การพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ตลอดจนเปิดกว้างสำหรับความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพของแรงงานเข้าสู่ 4.0 และยกระดับคุณภาพของชุมชนอย่างมีส่วนร่วม
“การปรับปรุงหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์ในครั้งนี้ จะช่วยให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ และพื้นที่ประกอบการอัจฉริยะในนิคมอุตสาหกรรม สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของบีโอไอได้ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากจะสอดคล้องกับเป้าหมายของ กนอ.ในการผลักดันให้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไปสู่นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะแล้ว ยังเป็นการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และอำนวยความสะดวกต่อการประกอบกิจการในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ การเจรจาให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนแต่ละรายจะมุ่งเน้นกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเป้าหมาย”นายวีริศ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘วีริศ’ ลุยงานตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟสายอีสาน
‘วีริศ’ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมรับรับฟังความคืบหน้าโครงการ ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ มอบผู้บริหารร่วมกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ให้คุ้มค่าสูงสุด ย้ำเร่งผลักดันอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน
'กนอ.'โชว์ยอดขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมฯ สร้างสถิตินิวไฮ 2 ปีติด
“วีริศ” โชว์ยอดขายและเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม ทุบสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มั่นใจประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เชื่อแคมเปญ “NOW Thailand” ตอกย้ำศักยภาพประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
'พิมพ์ภัทรา' นำทีมบุกญี่ปุ่น ศึกษาโมเดล 'นิคมอุตสาหกรรม Circular' มาปรับใช้กับไทย
“พิมพ์ภัทรา”นำทีมเยือนญี่ปุ่น 21 - 27 กรกฎาคม 2567 ปักหมุดดูงานพัฒนาการจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรม Circular” พร้อมหารือกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของไทย ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน และความเป็นกลางทางคาร์บอน