นายกฯ พร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางด้านทันตกรรม

นายกฯ พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติด้านทันตกรรม (Dental Hub) พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

12 มิ.ย. 2565 – นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติด้านทันตกรรม (Dental Hub) โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข รับลูกเดินหน้า โดยจะใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง เชื่อมั่นสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งรัดให้ด้านนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้จากการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ยกระดับเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติด้านทันตกรรม (Dental Hub) อย่างเต็มรูปแบบ กำหนดวางแนวทางให้นำบริการทันตกรรมที่มีศักยภาพสูงของไทยมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว และได้กำหนดพื้นที่นำร่องคลินิกทันตกรรมในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการรับบริการด้านสุขภาพในโอกาสเดียวกับมาท่องเที่ยวจากทั่วโลกมารับบริการจาก Dental Hub ของไทยได้ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการแพทย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้ว ยังเพิ่มการจ้างงาน และเชื่อมโยงไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ การเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ และศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็น 1 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ของไทยที่มีศักยภาพ (New S-curve) ได้แก่ 1. กลุ่มหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 2. อุตสาหกรรมการบิน 3. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 4. อุตสาหกรรมดิจิตอล และ 5. อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร นอกจากนี้สถานพยาบาลของไทยยังได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในด้านการบริการ ด้านคุณภาพมาตรฐานเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความพร้อมที่จะพัฒนาและยกระดับ รวมทั้งมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นและเป็นเทรนด์ที่จะสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการแพทย์ของโลกในอนาคต

โดยแนวทาง Dental Hub จะเน้นรูปแบบบริการทันตกรรมเพื่อความงาม ที่กำหนดอัตราค่าบริการเป็นราคาเดียว (One Price Policy) ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกัน อีกทั้งในโอกาสเดียวกัน จะมีการพัฒนาศูนย์ล่ามและระบบไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท รวมถึง จัดทำระบบ Payment Mechanism และพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกด้านการตรวจตราชาวต่างชาติ โดยคาดว่าจะเปิดให้คลินิกทันตกรรมที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2565 นี้

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไทย โดยใช้การแพทย์ที่ไทยมีศักยภาพ พร้อมขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมดำเนินการกำหนดแนวทาง ความคิดความเห็นที่เป็นประโยชน์ ร่วมพัฒนาต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญ การลงทุนอย่างบูรณาการ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมต่อไป” นายธนกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ยินดี สว.ใหม่ หวังทำหน้าที่ยึดประโยชน์ประเทศ เชื่อมีอิสระไร้การเมืองเบื้องหลัง

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่แล้วว่า ต้องขอขอบคุณสว.ชุดเก่า 250 ค

นายกฯ ลงภูเก็ต ติดตามก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด และปัญหาดินสไลด์ จากเหตุการณ์น้ำท่วม

เรือประมงอับปาง! ห่างสะพานสารสิน 9 ไมล์ทะเล

นาวาเอกพิเชษฐ์ซองตัน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต

นายกฯอารมณ์ดี บอกลงภูเก็ตพรุ่งนี้ ดูปัญหาน้ำท่วม ดินสไลด์ สนามบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดภูเก็ต ไปตรวจดูเรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน

รทสช. ดี๊ด๊า ‘นิด้าโพล’ เผยคะแนนนิยม ‘พีระพันธุ์’ มาอันดับ 4 ลั่นDNAลุงตู่สู้ทุกปัญหา

‘ธนกร’ ปลื้ม นิด้าโพลเผยเสียงประชาชนไว้วางใจ ‘รทสช.-พีระพันธุ์’ ความนิยมมาอันดับ 4  ชี้ 10 เดือนร่วมรัฐบาล ลุยทำงานเต็มที่ ตอกย้ำ อุดมการณ์DNA ลุงตู่ สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง เชื่อ พลังเงียบจับตาผลงานจ่อเทคะแนนให้