พลังงานวิ่งเต้นหารือทุกหน่วยงานคุม ราคาน้ำมัน หน้าโรงกลั่น เผยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หวั่นผิดกฎการค้าเสรี พร้อมลั่นต่ออายุส่วนลดค่าไฟ สำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 300 หน่วยถึงสิ้นปี
10 มิ.ย. 2565 -นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานกิจกรรม Kick off เปิดตัวการใช้งาน Sensor for All ที่ดำเนินการโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ว่ารัฐบาลกำลังศึกษาแนวทางดูแลราคาพลังงานเพิ่มเติม โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สบค.) และกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเพื่อศึกษาแนวทางลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น หรือการลดค่าการกลั่นน้ำมันลง โดยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะลดได้กี่บาท ซึ่งทางฝั่งโรงกลั่นก็ต้องใช้เวลาในการวางแผน โดยเกณฑ์ราคาที่เหมาะสมจะต้องเป็นธรรมกับผู้บริโภคแน่นอน
“ตอนนี้กระทรวงพลังงานก็เร่งหารืออยู่ ซึ่งทางโรงกลั่นเค้าต้องใช้เวลาทำใจนิดนึง และวางแผนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจ ลำพังอำนาจของกระทรวงพลังงานก็ทำได้ระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเพราะเกี่ยวข้องกับการค้าแบบตลาดเสรี ซึ่งต้องต้องศึกษาในแง่มุมของกฎหมาย ผสมกับการขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่ดูแลทั้งหมด เพราะหากไปบังคับอย่างเดียวก็อาจจะผิดกฎการค้าเสรีได้ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วง 15-20 ปีก่อน แต่ไม่เคยกินระยะเวลายาวนานขนาดนี้”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล 50% ไม่ให้เกินเพดาน 35 บาทต่อลิตรระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ เม.ย. 65 และจะสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ ว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานได้หารือร่วมกับ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) เพื่อติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอีกมากแค่ไหน รวมถึงติดตามกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะสามารถมีงบดูแลราคาน้ำมันได้ถึงตอนไหน ทั้งนี้ถ้าหากกระทรวงพลังงานมีนโยบายตรึง แต่กระทรวงการคลังไม่พร้อมที่จะดูแลก็ไม่สามารถดำเนินมาตรการต่อได้ แต่มั่นใจว่าในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้จะมีมาตรการใหม่ออกมาดูแลแน่นอน
สำหรับค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 65 ยืนยันว่ารัฐบาลยังคงดูแลผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ซึ่งเป็นกลุ่มผูมีรายได้น้อย หรือกลุ่มเปราะบาง ไปถีงสิ้นปี โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(FT) ที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย
“กระทรวงพลังงานกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะหาแนวทางดูแลค่าไฟงวดปลายปีได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยืนยันว่าหากมีการปรับขึ้นแล้ว จะต้องไม่ปรับขึ้นอีก เพื่อดูแลประชาชนในทุกกรณี โดยเฉพาะดูแลสภาพคล่องของ กฟผ. ให้สามารถมาดูแลด้านราคาค่าไฟได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กฟผ.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถจะขอกรอบวงเงินกู้ ภายใต้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)รัฐวิสาหกิจ เพิ่มเติมได้”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน กฟผ.ได้แบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงค่าก๊าซธรรมชาติที่นำมาผลิตไฟฟ้า แทนผู้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่งวดก.ย. – ธ.ค. 2564 จนถึงปัจจุบันมีภาระหนี้อยู่ประมาณ 80,193 ล้านบาท ซึ่งหากมีการอนุมัติให้กู้เงินจาก พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ จากมติเดิมนั้นจะมีการอนุมัติกู้เพียง 25,000 ล้านบาท ซึ่งจำเป็นจะต้องขยับวงเงินขึ้น และปัจจุบันอยู่ภายใต้การหารือร่วมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานสัมมนา The Annual Petroleum Outlook Forum
'วัชระ' ล่าชื่อปชช. เตือน 'นายกฯ-ครม.' บ้าจี้ให้ยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ จะยื่นป.ป.ช.สอบทันที
'วัชระ' ส่งรายชื่อประชาชน 207 คน ที่คัดค้านการยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ จ.สุราษฎร์ธานี ขู่ ครม.แพทองธาร อนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้ยุบเลิกและไปยกให้บริษัทเอกชนสร้างที่จ.ราชบุรี จะยื่นเรื่องร้องเรียนให้สำนักงาน ป.ป.ช. สอบสวนทันที