นายกฯ สั่งคลังจัดงบประมาณอุดหนุนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว

รัฐบาลผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง นายกฯ มอบกระทรวงการคลังพิจารณาจัดงบประมาณสนับสนุนมาตรการกระตุ้น

09 มิ.ย.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของการท่องเที่ยวทั้งส่วนของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศนั้น นายกฯ ได้มอบหมายกระทรวงการคลังให้พิจารณาจัดงบประมาณสนับสนุนตามความเหมาะสม จัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายงบประมาณกับการดูแลประชาชนในโครงการอื่นๆ นอกจากนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีกิจกรรมเพื่อสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ลดการออกไปเที่ยวต่างประเทศ ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศและช่วยดูแลไม่ให้เงินไหลออกจากประเทศด้วย ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ตามแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” มีกลยุทธ์แบบพุ่งเป้าสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ, เทรนดี้ C2ภาคกลาง, สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก, หลงรักแผ่นดินอีสาน และหรอยแรงแหล่งใต้

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า จากที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ต่อเนื่อง คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2564 ได้อนุมัติหยุดราชการปี 2565 เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่วันศุกร์ที่ 15 ก.ค., วันศุกร์ที่ 29 ก.ค., วันศุกร์ที่ 14 ต.ค. และ วันศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 2565 เพื่อให้มีวันหยุดยาวเชื่อมโยงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

“นายกฯ ย้ำกับทุกหน่วยงานว่า การผลักดันฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่เมืองรอง ผลักดันการท่องเที่ยวชุมชน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ความเข้มแข็งเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับฐานรากของเศรษฐกิจ” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ ปี 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตั้งเป้าส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวทั่วประเทศในปีนี้ 160 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 6.56 แสนล้านบาท โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 26.69 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 2.03 แสนล้านบาท ภาคกลาง 19.02 คน-ครั้ง รายได้ 2.98 หมื่นล้านบาท ภาคตะวันตก 23.86 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 6.11 หมื่นล้านบาท ภาคตะวันออก 17.99 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 8.74 หมื่นล้านบาท ภาคใต้ 22.14 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 1.05 แสนล้านบาท ภาคเหนือ 20.66 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.10 แสนล้านบาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26.62 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5.88 หมื่นล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

ททท. เปิดตัวกิจกรรม อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ชวนร่วมสร้างคอนเทนต์ส่งแรงบันดาลใจท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Amazing Thailand Passion Ambassador ขานรับนโยบายจาก นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ททท. จับมือ ฮาล์ฟ โทสท์ ชวนฟินกับเทศกาล 'เขา มันส์ ได้!' ที่สวนผึ้ง

Why Festival Carnival Charity เทศกาล “เขา มันส์ ได้” เทศกาลดนตรีสุดฟินที่จะพาคุณไปอินกับเสียงเพลง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขา อัดแน่นด้วยกิจกรรมเพื่อคนรุ่นใหม่ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศ

'คารม' แจงยิบยัน 'กยศ.' คิดดอกเบี้ยอัตรา 1%

'คารม' ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect