ครม.ไฟเขียว บสข.เพิ่มภารกิจการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อหารายได้เพิ่มนอกเหนือการการขนส่งผู้โดยสาร รวมถึงชดเชยรายได้จากธุรกิจเดินรถโดยสารประจำทางที่ บขส มีรายได้ลดลง
8 มิ.ย. 2565 – นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มีภารกิจการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพิ่มจากการที่ขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียวเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการการขนส่งสินค้าและบรรจุภัณฑ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และชดเชยรายได้จากธุรกิจเดินรถโดยสารประจำทางที่ บขส มีรายได้ลดลง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสภาพปัญหาในการดำเนินธุรกิจรถประจำทาง ต้องการการขนส่งสินค้าและการขนส่งพัสดุภัณฑ์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับองค์การรับสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งรับภาระเดินรถเฉพาะขนส่งสินค้าจากบ้านถึงบ้าน หรือ Door-to-Doo ได้มีการยกเลิกไปแล้วและยังไม่มีการมอบหมายให้หน่วยงานใดภายใต้รัฐมาดำเนินการในธุรกิจดังกล่าว
ดังนั้น บขส จึงได้เริ่มดำเนินการธุรกิจรับขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เป็นธุรกิจเสริมเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2551 โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่นรถประจำทาง ,ศูนย์สาขาในการรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ,บุคลากรและสถานีเดินรถซึ่งสามารถใช้เป็นจุดกระจายสินค้าได้ โดยมีเป้าหมายหลักคือลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ไปทั่วประเทศ หรือลักษณะเฉพาะเช่นสินค้าทางการเกษตร
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา บขส.มีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้นแต่ยังไม่สามารถที่จะดำเนินงานให้อย่างมีประสิทธิภาพได้จึงต้องขอทบทวนมติ ครม ดังกล่าว เพื่อให้ภารกิจงานมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นและสามารถพัฒนาและขยายธุรกิจเพื่อประโยชน์ขององค์กรได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่าที่ผ่านมากระทรวงฯได้เร่งรัดให้มีการแก้ไขมติ ครม.เมื่อปี 2502 ที่กำหนดเพียงให้ บขส. มีหน้าที่ในการขนส่งเฉพาะผู้โดยสาร เพื่อปรับให้ บขส.สามารถขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและพัสดุภัณฑ์ในคราวเดียวกันได้ อันเนื่องมาจากศักยภาพของการขนส่งของ บขส.ที่มีอยู่นั้น สามารถดำเนินการในลักษณะดังกล่าวได้เป็นอย่างดี หาก บขส.ได้รับอนุมัติให้สามารถดำเนินการสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้อย่างเป็นทางการ จะส่งผลบวกต่อองค์กรให้สามารถหารายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีข้อบังคับให้ขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก แต่พบว่าปัจจุบันความต้องการของการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ อีกทั้ง บขส.ยังมีจุดแข็งในด้านของเส้นทางเดินรถที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และสามารถตอบสนองความต้องการในการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้
ทั้งนี้ปัจจุบัน บขส.มีรายได้การขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ 200 ล้านต่อปี ขณะที่อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าโตเฉลี่ย 50% ต่อปี หากได้รับการอนุมัติให้เข้ามาดำเนินธุรกิจส่วนนี้ และเราสามารถดำเนินการแบบครบวงจรได้ตามแผน ก็มีเป้าหมายเพิ่มรายได้สินค้าและพัสดุภัณฑ์ 15% ต่อปี และโตต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คารม' ชวนแอ่วเหนือลอยกระทงบอก บขส.ลดค่าโดยสาร 10%
'คารม' เชิญชวน ปชช. นั่งรถทัวร์เที่ยวงาน 'ลอยกระทง ลงแอ่วเหนือ' ลดค่าโดยสาร 10% หนุนนโยบายรัฐบาลโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในประเทศ
'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร
'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%
ครม. ตั้ง 'ไตรศุลี ไตรสรณกุล' นั่งเลขาฯรมว.มหาดไทยภาคสอง สานงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชน
ครม.เห็นชอบตามที่ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เสนอแต่งตั้ง ข้าราชการการเมืองสังกัดกระทรวงมหาดไทย
โฆษกมหาดไทยเผย 24 ต.ค. นี้ โอนเงินช่วยน้ำท่วมล็อตใหญ่ 8 จังหวัด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหา