‘ครม.’ ไฟเขียว ธอส. ปรับวงเงินปล่อยกู้โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านบาท จากเดิมที่ 1.2 ล้านบาท ด้านบอร์ด ธอส. สั่งขยายวงเงินปล่อยกู้บ้านเต็มสตรีม 110% หวังช่วยคนไทยมีบ้านเป็นของตัวเอง
7 มิ.ย. 2565 – นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2565 มีมติเห็นชอบให้ ธอส. ปรับปรุงการกำหนดราคาซื้อ – ขาย / ค่าก่อสร้าง และปรับวงเงินกู้โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 สูงสุดต่อรายต่อหลักประกัน เพิ่มจากเดิมไม่เกิน 1,200,000 บาท เป็นไม่เกิน 1,500,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการหาซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
โดยโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้เริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับรหัสสำหรับเข้าร่วมโครงการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 6 มิ.ย. 2565 มีลูกค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 94,000 ราย ในจำนวนนี้มีลูกค้าที่มีความพร้อมและยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อแล้วจำนวน 17,000 ราย วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท และ ธอส. ได้อนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 16,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวม 13,500 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ธนาคารจะประสานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับการส่งเสริมการลงทุนให้วงเงินสอดคล้องกันต่อไป
ทั้งนี้ ธอส. จัดทำโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เพื่อช่วยประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น ด้วยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก( 7 ปี ) ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียม(ห้องชุด) ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือสอง (รวมถึงบ้านมือสองของ ธอส.) เพื่อปลูกสร้าง หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม และยังยกเว้นค่าธรรมเนียมให้กับผู้กู้ 2 ประเภท 1.ค่าประเมินราคาหลักประกัน และ 2.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการทาง Mobile Application : GHB ALL ยืนคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ธอส. ได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารปรับเพดานสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) สำหรับลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสัญญากู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 1 ที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ให้อยู่ที่ 100% ของมูลค่าหลักประกัน พร้อมให้เงินกู้เพิ่มเพื่อซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยอีก 10% (รวมวงเงินให้กู้สูงสุด 110% ของมูลค่าหลักประกัน) เพื่อช่วยให้ประชาชนที่ต้องการมีบ้านและมีความต้องการวงเงินกู้เพิ่มในระดับที่สอดคล้องกับรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายในด้านการซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย
โดยขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ของกลุ่มลูกค้าที่จะสามารถได้รับวงเงินกู้สูงสุด 110% ของมูลค่าหลักประกัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ประชาชนยื่นกู้ตามเพดาน LTV ใหม่อย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนมิ.ย. 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุด 0.25%
ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดร้อยละ 0.25 พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่งเสริมวินัยการออม
'ธอส.' ปล่อยกู้คนอยากมีบ้านดอกเบี้ยถูก 1.90%
ธอส. จัดทำ 6 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เอาใจคนอยากมีบ้านเป็นของตนเองเริ่มต้นเพียง 1.90% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวด 3,000 บาท เท่านั้น!!
ธอส. โชว์ปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.4 แสนล้านบาท
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองวันคล้ายวันสถาปนาธนาคารอาคารสงเคราะห์ครบรอบ 71 ปี ในการเป็นสถาบันการเงินของรัฐ