หืดจับ! ‘คลัง-พลังงาน-สภาพัฒน์’ จับเข่าถกหาทางปล่อยกู้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 3 หมื่นล้านบาท ชี้ทางออกดิ้นใช้งบกลางอุ้มพอได้ ด้านเอกชนเสี่ยงอ่อยแจงรับได้หากดีเซลจ่อพุ่งแตะเพดาน 35 บาทต่อลิตร แต่ขอทยอยปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป
7 มิ.ย. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ อยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับแนวทางการให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้เงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) จำนวน 3 หมื่นล้านบาท โดยตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือ ยังไม่ได้ข้อยุติ
‘ยังไม่รู้ว่าทางออกของการกู้เงินให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้ เพราะยังอยู่ระหว่างการหารือ และต้องหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาก่อนถึงสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ว่าสามารถที่จะกู้เงินได้หรือไม่’ นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวอีกว่า สำหรับช่องทางที่รัฐบาลจะใช้งบกลางในการอุดหนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็สามารถทำได้ โดยกระทรวงพลังงานต้องพิจารณาและดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องหาวิธีการในการช่วยเหลือตัวเองให้เต็มที่ก่อน เพราะตอนนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ยังสามารถบริหารสภาพคล่องได้อยู่ แม้ว่าจะมีการติดลบกว่า 8 หมื่นล้านบาท เพราะยังมีรายได้เข้ามาจากเงินนำส่งน้ำมันเบนซิน
ส่วนเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่สามารถปรับขึ้นได้ถึง 35 บาทต่อลิตรนั้น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ต้องพิจารณาดูหากเงินกู้เข้ามาไม่ทัน ก็ต้องหามาตรการอื่น ๆ เช่น การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพื่อลดภาระกองทุนฯ เพราะยังมีช่องที่สามารถปรับขึ้นได้อยู่
‘ผมเข้าใจว่าตอนนี้ราคาน้ำมันดีเซลล่าสุดอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ก็ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่าจะยันไว้ได้แค่ไหน’ นายอาคม กล่าว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพดานราคาน้ำมันดีเซลที่ 35 บาทนั้น ภาคเอกชนยังรับได้ เพราะเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน ถือว่าราคาดีเซลของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงค่อย ๆ ทยอยปรับราคาดีเซลขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าการเพิ่มขึ้นของราคาดีเซลกระทบต่อค่าครองชีพและการขนส่ง อยากให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรตามที่ได้บอกไว้ เพราะว่าเข้าใจรัฐบาลว่าการบิดเบือนราคาขายปลีกน้ำมันในภาวะที่ตลาดโลกปรับสูงขึ้นเป็นไปได้ยาก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้หามาตรการรองรับในกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นทุก 1 บาทจะทำอย่างไร เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น โดยสิ่งที่กังวลตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของแพง แต่เป็นเรื่องของขาดตลาดมากกว่า เพราะว่าของแพงแต่ก็ยังส่งออกได้ แต่ถ้าของขาดจะกระทบมากกว่า
‘ตอนนี้ผู้ประกอบการต้องสร้างสมดุลระหว่างต้นทุน และสินค้าไม่ให้ขาดตลาด ให้สามารถส่งออกได้ต่อเนื่อง ส่วนสิ่งที่เป็นความท้าทายคือ เรื่องสงคราม ที่ส่งผลกระทบทำให้ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก นำมาซึ่งความกังวลว่าสินค้าจะขาดตลาด มากกว่าสินค้าแพง’ นายเกรียงไกร กล่าว
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องยอมรับความจริงว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นไปที่ 110 ดอลล่าร์ต่อบาเรลมานานแล้ว ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอยากให้กองทุนน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง หน่วงเวลาการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลไปชนเพดานที่ 35 บาทต่อลิตรให้ช้าที่สุด และให้ปรับเป็นขั้นบันได ส่งสัญญาณให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาปรับตัว ลดต้นทุนการผลิตในด้านอื่น ๆ รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือกมาชดเชย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานสัมมนา The Annual Petroleum Outlook Forum