รฟม. ร่ายยาวชี้แจงเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ‘บางขุนนนท์-มีนบุรี’เปิดกว้างเอกชนเข้าร่วมประมูลได้หลายราย ย้ำทุกขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายมีผู้สังเกตการณ์คอยจับตา
1 มิ.ย.2565 – รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงกรณี ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กในหัวข้อ “บีทีเอส” ส่อ “วืด” ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม “รอบ 2 ว่า รฟม. ยืนยันว่าการกำหนดเงื่อนไขการคัดเลือก คุณสมบัติด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานของผู้เข้ายื่นข้อเสนอตามประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(PPP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน เป็นการกำหนดที่เปิดกว้าง ทำให้มีผู้ที่สามารถเข้าร่วมการคัดเลือกได้มากราย เกิดการแข่งขันที่โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชน
นอกจากนี้ในกระบวนการพิจารณาจัดเอกสารสำหรับคัดเลือกเอกชน มีคณะผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ตามข้อตกลงคุณธรรมเข้าร่วมประชุมตลอดทุกขั้นตอนด้วย อย่างไรก็ตามการจัดทำเอกสารสำหรับคัดเลือกครั้งนี้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผู้ยื่นข้อเสนอที่มีประสบการณ์ สามารถก่อสร้างโครงการฯ ให้แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ตามแผนการดำเนินการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชน โดยได้กำหนดเงื่อนไขของการคัดเลือก คุณสมบัติด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานของผู้เข้ายื่นข้อเสนอโดยเปิดกว้าง ดังนี้
การกำหนดคุณสมบัติทางด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานเดินรถ ผู้ยื่นข้อเสนอสามารถใช้ผลงานเดินรถจากทั่วโลกได้ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ในไทย และในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอเป็นกลุ่มนิติบุคคล ผู้นำกลุ่มจะมีผลงานก่อสร้างงานโยธา หรือผลงานเดินรถก็ได้ ทำให้เอกชนผู้เดินรถทั้งไทย และต่างชาติ และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาสามารถเป็นผู้นำกลุ่มได้จำนวนมากราย โดยจะมีผู้นำกลุ่มไทยอย่างน้อย 4-5 ราย และต่างชาติอีกจำนวนมาก
การกำหนดคุณสมบัติทางด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานการก่อสร้างงานโยธา ให้ใช้ผลงานที่แล้วเสร็จและเป็นผลงานที่ดำเนินการในไทย เนื่องจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกฯ เป็นโครงสร้างอยู่ใต้ดินทั้งหมด การก่อสร้างมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ และมีเส้นทางผ่านโบราณสถาน และสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงยังเป็นโครงการที่รัฐให้เอกชนลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธาไปก่อน แล้วจึงชำระคืนภายหลัง เสมือนรัฐเป็นผู้ลงทุนเอง จึงต้องคำนึงถึงความสำเร็จของโครงการ อีกทั้งยังสอดคล้องกับการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ที่ รฟม. ใช้ประมูลงานก่อสร้างโยธาล่าสุดด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นของ รฟม. พบว่า มีผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาที่มีผลงานกับรัฐบาลไทยอย่างน้อย ดังนี้ งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินด้วยหัวเจาะ ต่างชาติ 5 ราย และในประเทศ 5 ราย, งานออกแบบและก่อสร้างสถานีใต้ดิน หรือยกระดับของระบบขนส่งมวลชน ต่างชาติ 6 ราย และในประเทศ 3 – 4 ราย และงานออกแบบและก่อสร้างทางวิ่งพร้อมรางที่สาม แบบไม่ใช้หินโรยทางสำหรับงานระบบราง ต่างชาติ 1 ราย และในประเทศ 4 ราย ซึ่งทำให้มีทางเลือกที่หลากหลาย และเปิดกว้างในการรวมกลุ่มนิติบุคคล เพื่อให้ผลงานก่อสร้างงานโยธาครบถ้วน
อย่างไรก็ตามในการยื่นข้อเสนอ ผู้ยื่นข้อเสนอสามารถใช้ผลงานก่อสร้างงานโยธาของผู้รับจ้างมาใช้เป็นผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอได้ เนื่องจากประกาศเชิญชวนไม่ได้กำหนดว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวเท่านั้นที่มีผลงานก่อสร้างงานโยธากับรัฐบาลไทยครบทั้ง 3 งาน ส่วนผู้ยื่นข้อเสนอที่มีผลงานเฉพาะงานเดินรถ สามารถใช้ผลงานของผู้รับจ้างงานโยธาได้มากราย โดยไม่จำเป็นต้องมาร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ยื่นข้อเสนอ ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกในการรวมกลุ่ม และเกิดการแข่งขัน ทั้งนี้บริษัทที่ไม่มีผลงานทั้งงานโยธา และงานเดินรถ แต่มีเงินทุน ก็สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ยื่นข้อเสนอได้ สอดคล้องกับแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ให้กำหนดขอบเขตของงานที่เปิดโอกาสให้เอกชนสามารถเข้าร่วมลงทุนได้ โดยมีการแข่งขันอย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และเป็นธรรม
การกำหนดเกณฑ์คะแนนด้านเทคนิคเป็น 85% ในแต่ละหัวข้อ และ 90% สำหรับคะแนนรวมนั้น เนื่องจากงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกฯ เป็นงานก่อสร้างที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ และมีเส้นทางผ่านโบราณสถานและสถานที่สำคัญหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องมั่นใจว่าจะได้ผู้ยื่นข้อเสนอที่มีความรู้ ความเข้าใจและมีประสบการณ์ สามารถก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ตามแผนงาน
ทั้งนี้ในการจัดทำข้อเสนอทางด้านเทคนิค ได้กำหนดรายละเอียดความต้องการ วิธีการประเมิน และการให้คะแนนอย่างละเอียดไว้ในเอกสารสำหรับคัดเลือกเอกชนแล้ว ดังนั้นเอกชนที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ ย่อมสามารถเสนอข้อเสนอที่ดีมีคุณภาพ และตรงตามข้อกำหนด และสามารถผ่านการประเมินได้ ดังเช่นในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ที่ผู้ชนะการประมูลในแต่ละสัญญาได้คะแนนมากกว่า 90% และ 4. สำหรับระยะเวลาในการจัดทำข้อเสนอที่กำหนดไว้ 64 วันนับจากประกาศเชิญชวนนั้น สอดคล้องตามประกาศคณะกรรมการนโยบายฯ ที่กำหนดให้ประกาศเชิญชวนไม่น้อยกว่า 60 วันก่อนวันเปิดรับซองข้อเสนอ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร(กม.) แบ่งเป็น ส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กม. 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กม. 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
20 บาทตลอดสายส่งผล ผู้โดยสารรถไฟฟ้าพุ่ง
รฟม. เผยครบรอบ 1 ปี นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผลดีเกินคาด ทำยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
'สามารถ' หนุนซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืน คุมค่าโดยสาร
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เอาเลย ! ซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืน
อดีตบิ๊กปชป. : ไปเป็น รมต. เลย ถ้าคิดว่าทำงานเก่ง
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ไปเป็น รมต. เลย ถ้าคิดว่าทำงานเก่ง” ระบุ
เฮ! ดร.สามารถ แจ้งข่าวดี กรมทางหลวงไม่ขยายสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เฮ ! ทล. “ไม่ขยายสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์”
ดร.สามารถ คลี่ปมปริศนาขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช!
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้