ส่งออกไทยยังพุ่ง เม.ย. 65 ทำมูลค่า 23,521 ล้านเหรียญ โชว์ 4 เดือนโต 13.7%

ส่งออกเม.ย.65 ยังขยายตัวได้ดี ทำได้มูลค่า 23,521.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9.9% ยอดรวม 4 เดือน บวก 13.7% ระบุสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรม โตต่อเนื่อง ส่วนค้าชายแดน ลด เหตุส่งออกผ่านแดนไปจีน เวียดนามลด จากนโยบายซีโร่โควิด

27 พ.ค. 2565 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.2565 แม้เจอหลายวิกฤตซ้อนกัน ทั้งโควิด-19 เศรษฐกิจ สงครามการค้า และรัสเซีย-ยูเครน แต่การส่งออกของไทยยังทำได้มูลค่า 23,521.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นบวก 9.9% หรือคิดเป็นเงินบาทมูลค่า 782,146 ล้านบาท ทำให้การส่งออก 4 เดือน ม.ค.-เม.ย.2565 มีมูลค่า 97,122.8 เพิ่ม 13.7% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 3,183,591 ล้านบาท

สำหรับสินค้าส่งออก สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 3% ขยายตัว 2 เดือนต่อเนื่อง สินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 49.5% ข้าว เพิ่ม 44% โดยข้าวหอมมะลิ เพิ่มถึง 102.3% ข้าวนึ่ง เพิ่ม 45.3% ปลายข้าว เพิ่ม 27.9% ข้าวขาว เพิ่ม 14.5% ข้าวเหนียว เพิ่ม 11.9% ทำให้แนวโน้มการส่งข้าวปีนี้จะเกินเป้า 7-8 ล้านตัน จากที่ตั้งเป้า 6.1 ล้านตัน และผลไม้ที่ส่งออกเพิ่ม เช่น เงาะสด เพิ่ม 240% มังคุดสด เพิ่ม 95.8% มะม่วงสด เพิ่ม 14% เป็นต้น สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 22.8% เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 87.9% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 24.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 8.9%และ สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 8.3% เช่น ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม เพิ่ม 53.2% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 48.5% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 25.6% และแผงวงจรไฟฟ้า เพิ่ม15.3%
โดยตลาดที่ขยายตัวสูง 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 392.2% 2.เอเชียใต้ เพิ่ม 33.9% 3.อาเซียน (5) เพิ่ม 26.9% 4.ตะวันออกกลาง เพิ่ม 25.4% 5.แคนาดา เพิ่ม 22.5% 6.ไต้หวัน เพิ่ม 19.3% 7.แอฟริกา เพิ่ม 14.9% 8.สหรัฐฯ เพิ่ม 13.6% 9.เกาหลีใต้ เพิ่ม 11.5% 10.ฮ่องกง เพิ่ม 10.6%

ปัจจัยที่เป็นบวกสำหรับการส่งออกในเดือนเม.ย.2565 และในอนาคต มีหลายปัจจัย ได้แก่ ความสำเร็จจากการเร่งรัดการส่งออกข้าว ทำให้มีความต้องการซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้น การขยายความร่วมมือตลาดใหม่ เช่น สมุนไพรและยาแผนโบราณไปภูฏาน การลงนาม Mini FTA กับเตลังคานา ไห่หนาน กานซู่ มีผลกระตุ้นส่งออก การแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ผ่านแดนจากเวียดนามไปจีน การเจรจาผลักดันส่งออกไปเปรู ฮ่องกงเพิ่ม การเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ช่วยเพิ่มยอดส่งออก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการซื้อเพิ่มขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลดีต่อการส่งออก

นายจุรินทร์กล่าวว่า ทางด้านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวเลขส่งออก ช่วง 4 เดือนปี 2565 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่า 313,882 ล้านบาท ติดลบ 0.04% แต่เป้าของการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ตั้งเป้าเป็นบวกที่ 5% จะทำตัวเลขให้ได้ 1,082,897 ล้านบาท ซึ่ง 4 เดือนของปีนี้ทำได้แล้ว 313,882 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 30% ยังเหลือเวลาอีก 8 เดือน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำได้ตามเป้า

ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือน เม.ย. ที่ขยายตัวลดลง มาจากการส่งออกไปจีนลบ 45% เวียดนาม ลบ 24.73% เพราะเวลาส่งสินค้าไปจีนต้องผ่านเวียดนาม โดยได้รับผลกระทบจากนโยบายซีโร่โควิด-19 ของจีน ทำให้มีการปิดด่าน แต่กระทรวงพาณิชย์ได้แก้ปัญหาหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศมากขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้ และทำให้ส่งออกภาพรวมดีขึ้น

รายงานข่าวกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ตัวเลขส่งออกชายแดนและผ่านแดน เดือนเม.ย.2565 มีมูลค่า 74,243 ล้านบาท ลด 15.68% โดยส่งออกชายแดนไปมาเลเซีย ลด 10.32% กัมพูชา เพิ่ม 31.36% เมียนมา เพิ่ม 16.07% สปป.ลาว เพิ่ม 5.77% และผ่านแดนไปจีน ลด 45% เวียดนาม ลด 24.73% สิงคโปร์ เพิ่ม 5.94%

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' รับลูก 'เศรษฐา' ดึงเจ้าสัวช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย

“ภูมิธรรม”รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท. ซีพี ไทยเบฟ ห้าง ปั๊มน้ำมัน ช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายหรือนำไปทำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกร 

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ตั้ง“จ.อ.ยศสิงห์”เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ รมช.สุชาติ ช่วยดูแลปากท้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ/เห็นชอบแต่งตั้ง ข้าราชการและข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง หลายกระทรวงนั้น