ขนส่งฯแจงกม.บังคับใช้ 'คาร์ซีท' อยู่ในกำกับตำรวจ เล็งนำข้อกังวลถกหาทางออก

ขนส่งฯ แจงบังคับใช้คาร์ซีทเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก อยู่ในกำกับตำรวจ ย้ำดูแลเฉพาะ พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พร้อมนำข้อห่วงใยประชาชน หารือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หาทางออกต่อไป

16 พ.ค. 2565 – นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีการบังคับใช้คาร์ซีทในเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หากฝ่าฝืนจะมีค่าปรับ 2,000 บาท ซึ่งกฎหมายจะมีผลบังคับใช้วันที่ 5 ก.ย.นี้ ว่า กรณีดังกล่าว ขบ. ขอเรียนว่า การบังคับใช้คาร์ซีทดังกล่าว อยู่ในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 โดยเนื้อหาเกี่ยวกับคาร์ซีทจะอยู่ในมาตรา 123 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนบนรถจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ และสำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี

ทั้งนี้จะกำหนดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งไม่ได้บังคับเด็ดขาดว่าจะต้องใช้เพียงที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีทเท่านั้น ในการป้องกันอันตรายสำหรับเด็ก นอกจากติดตั้งคาร์ซีทแล้วยังสามารถใช้วิธีการอื่น ๆ เช่น จัดหาที่นั่งสำหรับเด็กให้เด็กสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้งในรถยนต์ได้ หรืออาจใช้วิธีการป้องกันอื่น ๆ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด เพื่อให้เด็กมีความปลอดภัยในการโดยสาร ซึ่งการออกประกาศดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีการประชุมหารือกับนักวิชาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า โดย ขบ. จะนำปัญหาและข้อห่วงใยของประชาชน เกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่าย เข้าร่วมหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณากรณีการบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ไม่สร้างภาระให้กับประชาชนที่ยังไม่มีความพร้อมในการจัดหาคาร์ซีท แต่ยังคงหลักการให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทั้งนี้ การแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบกดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความปรารถนาดี ห่วงใยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีเจตนารมณ์ที่จะลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุและยกระดับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล

นายจิรุตม์ กล่าวว่า กรมขนส่งทางบก มีภารกิจในการกำกับดูแลเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัยของตัวรถ อุปกรณ์และส่วนควบของรถที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ได้กำหนดให้รถยนต์ทุกชนิดต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ (Three-point belt) หรือแบบรัดหน้าตัก (Lap belt) สำหรับคนขับรถและผู้โดยสารทุกที่นั่ง ซึ่งสอดคล้องกับการบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบกดังกล่าว โดยยกเว้นรถบางประเภทไม่ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย เช่น รถสองแถว และรถโดยสารประจำทางในเขตเมือง ซึ่งรถที่ไม่ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยก็ได้ยกเว้นการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัยด้วย

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพื่อลดการบาดเจ็บ และการสูญเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือมีเหตุฉุกเฉิน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้นระทึก!ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถก ปมคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกให้ออกจากราชการ

ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด

อธิบดีกรมขนส่งฯ ขึงขังขีดเส้น 2 สัปดาห์คุ้ยวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ!

'อธิบดีกรมขนส่งฯ' เผยตั้ง คคก.ชุดพิเศษ สอบหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติของ จนท. ตรวจสภาพรถ-ถังแก๊ส ถูกต้องหรือไม่ขีดเส้น 2 สัปดาห์

เดือด!รุมซักอธิบดีกรมขนส่งฯ ปมตรวจทิพย์-การนับอายุรถบัส

'อธิบดีกรมขนส่งฯ' พร้อมคณะ เข้าแจงกรณีรถบัสไฟไหม้ 'กมธ.คมนาคม' รุมซัก 'ชัชวาล' ถามตรวจทิพย์หรือไม่ ด้าน 'พีระเดช' งงนับอายุรถตั้งแต่ปีไหน

‘ขนส่ง’ สั่งเด้ง 2 นายช่างตรวจสภาพรถเปิดทางสอบสวนข้อเท็จจริงส่างปมรถบัสไฟไหม้

‘ขนส่งทางบก’ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีไฟไหม้รถบัสนักเรียน สั่งย้าย 2 ข้าราชการฝ่ายตรวจสภาพรถจังหวัดสิงห์บุรี ชี้หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุด