
“สุริยะ”เผยผลิตภาพอุตฯไทยยังแข็งแกร่ง ฝ่าผลกระทบแรงจากโควิด-19 ย้ำผนึกกำลังทุกภาคส่วนเดินหน้ายกระดับผลิตภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน หวังเพิ่มศักยภาพและการแข่งขัน
4 พ.ค. 2565 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของผลิตภาพการผลิตอย่างใกล้ชิด โดยจากการสำรวจข้อมูลประจำปี 2564 ได้นำแบบแจ้งข้อมูลการประกอบกิจการโรงงานรายปี (ร.ง.9) มาวิเคราะห์ความสามารถในการผลิตและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการภาคอุตสาหกรรม พบว่า ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ผลิตภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังมีความแข็งแกร่งจากคุณภาพปัจจัยทุนและการบริหารจัดการที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 0.34% และ 1.70% ต่อปี ตามลำดับ
สะท้อนถึงคุณภาพปัจจัยทุนและการบริหารจัดการที่เป็นภูมิคุ้มกันหลักให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดได้ภายใต้สถานการณ์ที่ยากจะควบคุมของผลกระทบห่วงโซ่การผลิตโลกที่หยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการที่จะรักษาความสามารถในการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลก โรคระบาด หรือสงครามระหว่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ จำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งในด้านประสิทธิภาพและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมี 5 กลไกสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง
คือ 1. การพัฒนาทักษะแรงงาน 2. การใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ/ กึ่งอัตโนมัติ 3. การบริหารจัดการด้านต้นทุนและการเงิน 4. การยกระดับการผลิตไปสู่รูปแบบการผลิตแบบรับจ้างออกแบบพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ (ODM) และการออกแบบพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของผู้ประกอบการ (OBM) ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น และ 5. การลงทุนด้านเทคโนโลยีและวิจัยพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การจัดการ และการสร้างนวัตกรรมในสินค้า มีการจดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตรต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงมากให้กับสินค้าและเศรษฐกิจของประเทศ
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า สำหรับในปี 2565 สศอ.ได้วางแผนรองรับและจัดทำโครงการเพื่อสนับสนุนส่งเสริมผลิตภาพการผลิต และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม โครงการสร้างนักพัฒนาผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ควบคู่กับการพัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อยกระดับข้อมูลสารสนเทศด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมให้ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ปัจจัยสำคัญที่ประเทศไทยต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องคือการเพิ่มศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการยกระดับมูลค่าเพิ่มในการผลิต และการปรับปรุงการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีต่ำไปสู่การใช้เทคโนโลยีสูง รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถของกำลังแรงงาน รองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ควบคู่กับการลงทุนทรัพยากรทุนและบุคลากร ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิมและเชื่อมโยงกับการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อเป้าหมายพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายทองชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดขุมทรัพย์ แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ‘จุลพันธ์’ 86 ล้าน ‘สุริยะ’ รวยจริง 1.6 พันล. ซื้อเครื่องบิน 30 ล้าน
-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ
พท. ตีปี๊บ! 'ยศชนัน' เรตติ้งพุ่ง นำทัพ กทม. สมัคร 27 ธ.ค.
'ประเสริฐ' เชื่อ 'ยศชนัน' ดึงคะแนนคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้ เตรียมเปิดตัว สส. ทั้ง 500 คน 25 ธ.ค. เคลียร์ปม 'จาตุรนต์' ลาออกปธ.ยุทธศาสตร์
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม
'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' หอบลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย แต่ไม่เอา 'แจ้'
'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' นำลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย เสริมแกร่งโคราช 3 เขต เผยกำลังวางยุทธการให้ 'ยศชนัน' ลงปาร์ตี้ลิสต์หรือไม่
รบ.ตีปี๊บ 11 เดือนปี 2568 ธุรกิจใหม่จดทะเบียนกว่า 8 หมื่นราย
รองโฆษกรัฐบาล เผยธุรกิจใหม่ยังเดินหน้า! 11 เดือน ปี 2568 จดทะเบียนบริษัทกว่า 80,000 ราย สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย
รัฐบาลเตือนผู้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัสกว่า 14 ล้านรีบใช้สิทธิให้หมดในสิ้นปี!
รัฐบาลย้ำเตือนได้รับสิทธิ์ 'คนละครึ่งพลัส' กว่า 14 ล้านคน รีบใช้สิทธิใช้จ่ายเงินผ่านโครงการฯ ให้หมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ เชิญชวนร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่งพลัส รีบพัฒนาทักษะสำเร็จ ภายใน 19 ธ.ค.นี้

