ความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565
29 เม.ย. 2565 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 พบว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 28 เมษายน 2565 ณ เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการ รวม 40.95 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 70,069 ล้านบาท
โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.37 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 7,891.7 ล้านบาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.31 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 699.5 ล้านบาท
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มเดิมฯ) จำนวน 25.46 ล้านราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 59,667.6 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนกลุ่มใหม่ฯ) จำนวน 8.05 แสนราย ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1,810.20 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 26.27 ล้านราย และยอดการใช้จ่ายรวม 61,477.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 31,305.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 30,172.1 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 25,630.1 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 10,664.3 ล้านบาท ร้าน OTOP 2,812.9 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 21,153.3 ล้านบาท ร้านบริการ 1,100.2 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 117 ล้านบาท สำหรับประชาชนที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 26.38 ล้านราย เป็นประชาชนกลุ่มเดิมฯ ที่กดยืนยันสิทธิและมีการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 25.46 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และในส่วนของผู้ประกอบการ มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 1.36 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.98 หมื่นราย
สำหรับข้อมูลการใช้จ่ายสะสมผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีการใช้จ่ายสะสม 1,827 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 952 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 875 ล้านบาท และในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม มีจำนวน 9.48 หมื่นราย
โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเน้นย้ำว่า ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวข้างต้นจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เมษายน 2565 จึงขอให้ประชาชนที่ยังมีสิทธิเหลืออยู่วางแผนการใช้จ่ายก่อนวันสิ้นสุดโครงการด้วย โดยขณะนี้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 1,200 บาท ประมาณ 13.53 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 51 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด ในขณะที่จำนวนผู้ใช้สิทธิใกล้ครบจำนวน 1,200 บาท ประมาณ 10.77 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 41 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมดและยังมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิที่ยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิประมาณ 1.2 แสนราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตขุนคลัง' กังขาแจกเงินสดเข้าข่าย 'สัญญาว่าจะให้' ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติซ้ำ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
กลุ่มเปราะบางดีใจ ลุ้น 'เงินดิจิทัล' เข้าลอตแรกเร็วๆนี้ หวังได้เป็นเงินสดยิ่งดี
กลุ่มเปราะบางดีใจ หลังรัฐบาลระบุว่า เงินดิจิทัลจะเข้าลอตแรกเร็วๆนี้ พร้อมบอกว่าถ้าได้เป็นเงินสดยิ่งดี เพราะทุกคนต้องการเงินสดสามารถใช้จ่ายได้ทุกอย่าง
ครม.อนุมัติงบกลาง 3,500 ล้านบาท เติมกองทุน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ'
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
'คลัง' ยัน 'เศรษฐา-พิชัย' ไม่ได้ทำผิด พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ขอชี้แจงกรณีข้อกล่าวหารัฐบาลปล่อยกู้โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (สินเชื่อซอฟท์โลน) โดยใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) สองมาตรฐาน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย