การรถไฟฯ พร้อมเปิดให้บริการขบวนรถทางไกลเพิ่มเติม 6 ขบวน และขยายเส้นทางอีก 4 ขบวน รวมวันละ 194 ขบวน รองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่มีมากขึ้น เริ่ม 1พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
29 เม.ย.2565-นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดรับฟังความเห็นของประชาชนเพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเดินรถนั้น ล่าสุด การรถไฟฯ มีความพร้อมในการเปิดเดินรถเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่ประชาชนเพิ่มในหลายเส้นทาง
ทั้งนี้ประกอบด้วย การเพิ่มขบวนรถเชิงพาณิชย์ (รถทางไกล) เส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ จำนวน 6 ขบวน การขยายปลายทางขบวนรถบริการเชิงสังคม (รถระยะสั้น) อีก 4 ขบวน ซึ่งสามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่จะมีมากขึ้นทั้งในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ดังนี้
สายเหนือ จำนวน 2 ขบวน ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพ – เชียงใหม่ เปิดให้บริการวันที่ 1 พฤษภาคม 2565,ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ – กรุงเทพ เปิดให้บริการวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 2 ขบวน,ขบวนรถเร็วที่ 141 กรุงเทพ – อุบลราชธานี เริ่มให้บริการวันที่ 1 พฤษภาคม 2565,ขบวนรถเร็วที่ 142 อุบลราชธานี – กรุงเทพ เริ่มให้บริการวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
สายใต้ จำนวน 2 ขบวน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพ – สุไหงโกลก เริ่มให้บริการวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 สุไหงโกลก – กรุงเทพ เริ่มให้บริการวันที่ 13 พฤษภาคม 2565
สำหรับขบวนรถที่ขยายสถานีต้นทาง/ปลายทาง จำนวน 4 ขบวน ขบวนรถธรรมที่ 233 ขยายต้นทางปลายทางเป็น กรุงเทพ – สุรินทร์ – กรุงเทพ เริ่มให้บริการวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ขบวนรถธรรมที่ 234 ขยายต้นทางปลายทางเป็น กรุงเทพ – สุรินทร์ – กรุงเทพ เริ่มให้บริการวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ,ขบวนรถชานเมืองที่ 379 ขยายต้นทางปลายทางเป็น กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา เริ่มให้บริการวันที่ 16 พฤษภาคม 2565,ขบวนรถชานเมืองที่ 380 ขยายต้นทางปลายทางเป็น ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ เริ่มให้บริการวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
นายเอกรัช กล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ ยังมีแผนทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรวมขบวนรถที่จะเปิดให้บริการอีก 6 ขบวน ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะทำให้มีขบวนรถที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 194 ขบวนต่อวัน แบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 54 ขบวน ขบวนรถเชิงสังคมเปิดให้บริการ 140 ขบวน และแบ่งตามเส้นทางได้เป็นสายเหนือ 36 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 46 ขบวน สายใต้ 50 ขบวน สายตะวันออก 24 ขบวน สายมหาชัย 34 ขบวน และสายแม่กลอง 4 ขบวน
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังมีแผนทยอยปรับเพิ่มการเดินรถอย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับความต้องการเดินทางของประชาชนที่มีมากขึ้นในอนาคต โดยอยู่ระหว่างเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อดำเนินการจัดหาหัวรถจักรและตู้โดยสารใหม่ ตลอดจนให้ฝ่ายการช่างกลเร่งปรับปรุงหัวรถจักร และตู้โดยสาร เพื่อนำมาเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ
สำหรับการปรับเพิ่มขบวนรถในครั้งนี้ การรถไฟฯ ยังให้ความสำคัญต่อมาตรการเฝ้าระวังและป้องกัน
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขควบคู่กัน โดยได้กำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชันไทยชนะก่อนและหลังใช้บริการ หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะ ให้กรอกข้อมูลการเดินทางแทน โดยผู้ที่ต้องการเดินทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'มท.2' ควงอธิบดีที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทกับ รฟท.
'มท.2' ควงอธิบดีกรมที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทที่ดิน รฟท. ชาวบ้าน 2 ตำบล โชว์เอกสารสิทธินส.3 หลักฐานยันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เรียกร้องความยุติธรรม
บอร์ด รฟท. เคาะจัดซื้อรถโดยสาร 182 คัน ปักหมุดใช้ล็อตแรกพ.ค.71
บอร์ด รฟท. เคาะจัดซื้อรถโดยสาร 182 ตู้ 14 ขบวน 1.05 หมื่นล้าน อัพเกรดชั้น 3 ติดแอร์ขบวนแรกในไทย หวังนำมาวิ่งทดแทนรถเก่าใช้งานมากว่า 50 ปี วิ่งให้บริการ 5 เส้นทาง ชี้เป็นรถชั้น 3 แอร์ชุดแรก เล็ง เสนอ ครม. ขอกู้เงิน มี.ค.ปีหน้า ปักธงรับมอบขบวนรถล็อต 2 ขบวน พ.ค.71
'สุริยะ' ย้ำที่เขากระโดงเป็นของรฟท. ส่วนที่ดินอัลไพน์ ยันไม่ผิดกฎหมาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภายหลังการรถไฟ
‘วีริศ’ ลุยงานตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟสายอีสาน
‘วีริศ’ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมรับรับฟังความคืบหน้าโครงการ ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ มอบผู้บริหารร่วมกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ให้คุ้มค่าสูงสุด ย้ำเร่งผลักดันอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน