“อาคม” ปักหมุดจีดีพีไทยปีนี้โตไม่ต่ำ 1% หวังอานิสงส์เปิดประเทศบูมท่องเที่ยวคึกคัก พ่วงส่งออก-ราคาพืชผลเกษตรดีต่อเนื่อง พร้อมอัดงบประมาณ 2565 จี้เดินหน้าโครงการลงทุนขนาดเล็กเต็มสูบ แทงกั๊กฟื้นช้อปดีมีคืน ระบุขอหารือก่อน ปิดดีลคนละครึ่ง 28 ล้านสิทธิ์ ไม่ขยายเพิ่ม
27 ต.ค. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 1% จากที่คลังคาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตได้ 1.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยประเมินว่าในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 6 ล้านคน
“ภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการเปิดเมืองที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น แต่อีกส่วนก็ต้องขึ้นอยู่กับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยด้วย ที่เชื่อว่าเมื่อมีการเปิดเมือง การเดินทางจะสะดวกสบายมากขึ้นก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวได้ดีขึ้น” นายอาคม กล่าว
นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออก ราคาพืชผลทางการเกษตรที่มีทิศทางขยายตัวได้เป็นอย่างดี ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันงบประมาณปี 2565 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้และมีการเบิกจ่ายแล้ว ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่มีระยะเวลาดำเนินการ 3-6 เดือน จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ทิศทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2564 ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 2%
นายอาคม กล่าวอีกว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมามีข้อเสนอให้มีการดำเนินโครงการช้อปดีมีคืนนั้น คงต้องขอหารือและพิจารณาในรายละเอียดก่อน โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งอนุมัติเติมเงินโครงการคนละครึ่งเพิ่มอีก 1,500 บาท ซึ่งจะช่วยทำให้การจับจ่ายใช้สอยคึกคักต่อเนื่อง อีกทั้งกระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง จากปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ์ครบแล้ว 28 ล้านคน
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น เป็นช่วงขาขึ้นของทุกปี ที่ปลายปีเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว มีความต้องการใช้ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลอยู่ เป็นกลไกที่จะเข้ามาดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำมาทุกรัฐบาล และยังไม่มีการพูดถึงการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 รมว.การคลัง ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมการลงทุนและบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการผลักดันให้เกิดธุรกรรมทางการเงินที่จะเป็นเครื่องมือส่งเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษบกิจในพื้นที่อีอีซี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
'อิ๊งค์' คุย กกร. ชื่นมื่น! ปลื้มอวย 'พ่อนายกฯ' แก้เศรษฐกิจเก่งสุด
นายกฯ คุย ‘กกร.’ รับข้อเสนอแก้เศรษฐกิจ จับมือเอกชนหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ด้าน ‘สนั่น’ เชื่อมั่นรัฐบาลอิ๊งค์ พร้อมช่วยดันจีดีพีโต ชมเปาะ 'ทักษิณ' เก่งสุด