‘สุวรรณภูมิ’แจงผู้โดยสารแออัดจุดนัดหมาย–โรงแรมภายในเทอร์มินัล เผยเกิดขึ้นระยะสั้นช่วงเวลาพีค ตี 5-7 โมงเช้า และเที่ยง–บ่าย 3 หลังเที่ยวบินขาเข้าหนาแน่น ล่าสุดขยายพื้นที่บริการ–เพิ่มเคาน์เตอร์ พร้อมปรับรูปแบบการเรียงลำดับรายชื่อโรงแรม ยันรองรับผู้โดยสารขาเข้าไฟลต์อินเตอร์ชั่วโมงละ 3 พันคน
11 เม.ย.2565-นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้เผยแพร่ภาพการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นความแออัดและไม่ได้รับความสะดวก ณ จุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้านั้น ขอเรียนชี้แจงว่าความแออัดดังกล่าวเกิดขึ้นในบางช่วงที่เที่ยวบินมีความหนาแน่น (Peak) ประกอบกับในช่วงนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศโดยยกเว้นการตรวจ RT-PCR ที่ต้นทาง ทำให้จำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 6,000-7,000 คน เป็นวันละ 9,000-10,000 คนจึงส่งผลให้บางช่วงเวลาเกิดความคับคั่งบริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตามโดยอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00-07.00 น. และ 12.00-15.00 น. ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1,500-2,000 คนต่อชั่วโมง ขณะที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,000 คนต่อชั่วโมง ตามมาตรการการคัดกรองด้านสาธารณสุขในปัจจุบันอย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการบูรณาการการให้บริการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) และทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการปรับการบริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์ พร้อมทั้งกำหนดให้ติดป้ายแสดงชื่อโรงแรมเรียงตามตัวอักษรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเข้ารับบริการของผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เพิ่มช่องทางออกจากห้องสายพานรับกระเป๋าขาเข้าจากจุดตรวจศุลกากรจากเดิม 1 ช่องทาง เป็น 2 ช่องทาง รวมถึงขอความร่วมมือโรงแรมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และรถรับส่งผู้โดยสารที่จะต้องนำไปตรวจ RT-PCR และรอผลที่โรงแรม ให้มีจำนวนเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการการให้บริการที่สอดคล้องกับแนวคิดการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข COVID-Free Setting อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ยังสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พร้อมกับการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงต้องเข้มงวดทั้งนี้ผู้โดยสารที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยังไม่สำนึก! แก๊งเด็กหญิงรุมทำร้าย 'น้อง ม.2' เจอ 3 ข้อหาหนัก
จากเหตุการณ์ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียน ม.2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.กันตัง จ.ตรัง ถูกเพื่อนร่วมห้อง และรุ่นพี่ โรงเรียนเดียวกัน และเพื่อนต่างโรงเรียนเพศหญิงรวม 5 คน รุมทำร้าย
‘สุริยะ‘ ชูมาตรการ Visa Free หนุนไฟล์ทบินขาเข้าแตะวันละ 1,040 เที่ยวบิน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางตรวจติดตามความคืบหน้าตามข้อสั่งการในการเตรียมพร้อมการให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน และการแก้ไขปัญหาความหนาแน่นในการรอคิวตรวจหนังสือเดินทางรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ชุมชนเอื้ออาทรผวาสุนัขจรจัดไล่กัด ผงะมีถึง 300 ตัว
จากกรณีกล้องวงจรปิดภายในชุมชนเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1 หรือเอื้ออาทรวัดศรี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ขณะที่มีเด็กหญิงวัย 6 ขวบ
สุวรรณภูมิ แจงจัดระเบียบพื้นที่จุดนัดพบของบริษัททัวร์
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงประเด็นการบริหารจัดการพื้นที่จุดนัดพบของบริษัททัวร์ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารรองรับผู้ใช้บริการหนาแน่นขึ้น