'บินไทย' จับมือ 'ททท.' ปักธงดึงตลาดอินเดียกระตุ้นท่องเที่ยว

“การบินไทย และไทยสมายล์” จับมือ ททท.เดินหน้าดึงนักท่องเที่ยวจากอินเดียเข้าไทย ชู 7 เส้นทางบินเจาะหัวเมืองศักยภาพ คาดหลัง เม.ย.นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มั่นใจยอดเดินทางไม่ต่ำ 1.3 หมื่นคนต่อเดือน

9 เม.ย. 2565 – นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent-LOI) ระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท การบินไทยฯ และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด พร้อมระบุว่า ตลาดอินเดียเป็นตลาดศักยภาพขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียใต้ ทั้งจำนวนขนาด Market Size และผู้ที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย หลายประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวก็ต้องการพึ่งพิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากอินเดียเป็นเป้าหมายหลักเช่นกัน

สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีต่อการตลาดเชิงรุกหลังการบรรลุข้อตกลงเรื่องการทำ Air Travel Bubble Arrangement ระหว่างสองประเทศ จึงมั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จในการผลักดันการฟื้นคืนของตลาดอินเดียให้กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย จากสถิติปี 2562 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าไทย 1,995,516 คน ขยายตัว 24.85% สร้างรายได้กว่า 86,372.01 ล้านบาท ขยายตัว 27.45% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และคาดว่าภายหลังความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นระหว่างสายการบินไทย ไทยสมายล์ และ ททท.จะทำให้ตลาดอินเดียกลับมาฟื้นตัวหลังชะลอตัวจากผลกระทบโควิด-19

ด้านนายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้โดยสารมีความต้องการการเดินทางมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวไทย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้ การบินไทย ไทยสมายล์ และ ททท. จึงร่วมกันลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง เพื่อวางกลยุทธ์และดำเนินกิจกรรมการตลาด เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวของตลาดอินเดียร่วมกัน

“การบินไทยและไทยสมายล์จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Joint Promotion) และสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวในเส้นทางเดินทางดังกล่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยกับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวพักผ่อน กลุ่มนักกอล์ฟกลุ่มแต่งงาน กลุ่มเยี่ยมญาติ เป็นต้น ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”นายสุวรรณนะ กล่าว

ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารตลาดอินเดียในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านคน สร้างรายได้ให้การบินไทยกว่า 8,500 ล้านบาท การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ให้ฟื้นตัวและขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามโดยปัจจุบันการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ ทำการบินเส้นทางระหว่างอินเดียมายังประเทศไทย ดังนี้1.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นิวเดลี ทำการบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน2.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน3.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจนไน ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน4.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เบงกาลูรู ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน5.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัลกัตตา ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)6.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)
นอกจากความร่วมมือในเส้นทางตลาดอินเดียดังกล่าว การบินไทยยังได้เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ ในตารางบินฤดูร้อน ปี 2565 เพิ่มมากขึ้นกว่า 34 เส้นทางบิน ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย ผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางบินสู่เมืองต่างๆ อย่างสะดวกสบายด้วยสายการบินไทยสมายล์ และสายการบินพันธมิตร รวมทั้ง จะมีการพิจารณาเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อไปในอนาคตตามนโยบายของภาครัฐต่อไป

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ กล่าวว่า ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารตลาดอินเดียที่เดินทางผ่านสายการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ พบว่าขณะนี้เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต – มุมไบ มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้น แฟกเตอร์) สูง 80 – 90% สำหรับความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คาดหวังว่าจะเป็นเหมือนจุดสตาร์ทการฟื้นตัวของผู้โดยสารระหว่างประเทศ

ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวทางการส่งเสริมตลาดอินเดียว่า เพื่อให้สอดรับกับแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2565 “Visit Thailand Year 2022” ททท. จะมุ่งเน้นส่งเสริมตลาดอินเดีย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มความสนใจพิเศษที่มีการใช้จ่ายสูง

ทั้งนี้ หากประเมินจากเคบิ้นแฟกเตอร์ของการบินไทยและไทยสมายล์ ตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป คาดว่าประเทศไทยจะสามารถนำชาวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13,000 คนต่อเดือน ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผู้เดินทางจากสายการบินอื่น และคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 80,000 คนต่อเดือน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ท่องเที่ยว' นำร่อง 'แอ่วเหนือคนละครึ่ง' แพจเกจกระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางตรวจเยี่ยม พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ระหว่างวันที่ 11-12 ต.ค.67 ในสถานที่ท่องเที่ยว

เซเว่นฯ เปิดตัว แสตมป์เสน่ห์ไทย ให้ลูกค้าสะสม

เซเว่นฯ จับมือ ททท. สร้างปรากฎการณ์ “แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” ผ่านแคมเปญสุดจึ้งแห่งปีโดยมี “โดราเอมอน” มาสร้างความสนุก ผสมผสานความเป็นไทยครั้งแรก!!! จัดใหญ่ทั่วไทย…แจกใหญ่ทั่วถึงสะสมได้ทั้งรูปแบบดวงแสตมป์ และ M-Stamp บน 7 App ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม ถึง 15 ธันวาคม 2567