“อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ” สับรัฐอัดนโยบายประชานิยม ใช้จ่ายหนักมือ ทำงบประมาณแบบขาดดุลยาวนาน กระทบฐานะการคลังระยะยาว บีบเศรษฐกิจตกเหว ย้ำ ธปท. ต้องทำนโยบายการเงินแบบเข้มงวด ใจแข็ง เป็นด่านสุดท้ายป้องเศรษฐกิจ
4 เม.ย. 2565 – นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา “เหลียวหลัง แลหน้า กับผู้ว่าการ ธปท.” ในโอกาสครบรอบ 80 ปี ธปท.ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องการทำนโยบายการคลังของประเทศ หากมองอย่างเป็นกลาง ภาครัฐตอนนี้อยู่ในฐานะที่น่าเป็นห่วง เพราะมีการทำงบประมาณแบบขาดดุลติดต่อกันมานานเหลือเกิน ขณะเดียวกันหนี้สาธารณะของประเทศก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สมัยก่อนพูดการคลังยั่งยืน ถ้าถึงจุดหนึ่งต้องรีบแก้ไข
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ทำนโยบายต่าง ๆ ต่อเนื่องมาจนทำให้ประชาชนรู้สึกว่านโยบายประชานิยมเป็นเรื่องธรรมดา มีอะไรก็ใช้จ่ายไป ส่งผลให้ฐานะการคลังซ่อนสิ่งที่เป็นปัญหาในระยะยาวไว้เยอะมาก และหากเมื่อไหร่นโยบายการคลังไม่สามารถดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ภาระในการดูแลเศรษฐกิจก็จะตกมาอยู่ที่การทำนโยบายการเงิน จึงเห็นว่าถ้าเมื่อใด ธปท.จำเป็นต้องทำนโยบายเข้มงวด ที่คนอื่นไม่ชอบ ก็ต้องใจแข็งที่จะทำ เพราะถ้าไม่มีเราเป็นด่านสุดท้ายเศรษฐกิจก็ไม่รู้จะตกเหวไปอยู่ที่ไหน
“ผู้ว่า ธปท. คนปัจจุบัน บอกผมหลายเรื่อง ว่าปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้น มีต้นเหตุจากภาคเศรษฐกิจจริง และสุดท้ายก็มาโผล่ปลายเหตุว่าการเงินไม่มีเสถียรภาพ ทำให้เราก็ต้องรับภาระอยู่คนเดียว ก็ต้องออกแรง แม้ว่าจะเสนออะไร ซึ่งส่วนมากเขาไม่ค่อยฟัง แต่ก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ผู้ว่า ธปท. กล่าวว่า การทำนโยบายการคลังขณะนี้ เหมือนไม่มีนโยบาย เป็นการใช้เงินไปเรื่อย ๆ ไม่เคยคิดว่าจะขาดดุลเท่าไหร่ และขาดดุลงบประมาณควรมีน้ำหนักแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ฉะนั้นประเทศชาติตอนนี้ ต้องเน้นเรื่องการมีนโยบายการคลังที่จริงจัง ขณะที่การทำนโยบายการเงิน ต้องเน้น กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อต่อไป แต่ต้องสนับสนุนเศรษฐกิจการให้เติบโตพอสมควร เพื่อให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้
“คนดำเนินนโยบายการคลัง ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ เรื่องนี้อยู่ที่ผู้นำ หรือรัฐบาลมากกว่าว่าจะคิดหรือไม่คิด” ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า อยากเห็น ธปท.เน้นเรื่องอิสระ ทำให้ที่ตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าจะสร้างความพอใจให้ผู้มีอำนาจ นักการเมือง แต่ก็ไม่ใช่ไม่ฟังใคร ธปท.ต้องฟังความหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ และประสานงานกับกระทรวงการคลัง และ รมว.การคลัง ไม่ทำตัวเหนือหรือไม่ตาม รมว.การคลัง ขณะเดียวกัน ต้องดูแลธนาคารพาณิชย์เหมือนลูก ไม่ใช่ศัตรู เพราะธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่สำคัญในการช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ
นายประสาร ไตรรัตน์ อดีตผู้ว่า ธปท. กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ เป็นเรื่องการบริหารจัดการ หรือธรรมาภิบาลของประเทศ เป็นเรื่องระบบยุติธรรม ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อย เชื่อว่าธรรมาภิบาลไม่ดี จึงเกิดการขัดขวาง ไม่เห็นด้วย (Discourage) เช่น กรณีเมืองไทย มีคนบอกว่าขาดคนที่เก่งความรู้เทคโนโลยี ซึ่งเด็กรุ่นใหม่เก่งมาก แต่เลือกไปทำงานที่ต่างประเทศ มันเป็นเรื่องที่กว้างกว่าเศรษฐกิจจริง ไม่ใช่เรื่องนโยบายการเงินการคลัง แต่ต้องจำเป็นต้องมีการปรับวิธีการคิด (Rethink) หรือปรับรูปแบบ (Reform) การบริหารราชการใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อัษฎางค์' ยกตัวออย่างเห็นภาพแทรกแซงธนาคารกลาง = หายนะ
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก #ประชานิยม + #การแทรกแซงธนาคารกลาง = #หายนะ เมื่อฝ่ายการเมืองคิดจะใช้นโยบายประชานิยม
'อดีตสว.' เตือนแจกเงินหมื่นภาษีคนไทยทุกคนแบกหนี้ จี้ยกเลิกส่วนที่เหลือก่อนล้มละลาย
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แจกเงินหมื่น #ภาษีของคนไทยทุกคน รัฐบาล สส นักการเมืองอย่าริฉวยเอาหน้า
อดีตผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ค้านเปิดกาสิโน ชี้เป็นนโยบายฉาบฉวย ผลข้างเคียงสังคมเยอะ
นโยบายกาสิโนอาจจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจให้มีรายได้ มีคนเข้ามาเล่น แต่ผมว่า เป็นนโยบายที่ฉาบฉวย คือไม่ได้เป็นนโยบายที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชนในภาพใหญ่
ห่วง ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’! คลังส่งคนคุมฝ่ายบริหาร จี้ ‘พิชัย’ นึกถึงประโยชน์ชาติ
อดีตรองอธิการบดี มธ.บอกห็นข่าวว่า รัฐบาลเตรียมจะส่งคุณ กิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วรู้สึกเป็นห่วงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและทีมบริหารของท่านเป็นอย่างยิ่ง
นางโพยคนที่2! ชำแหละ ‘อุ๊งอิ๊ง’ มะม่วงบ่มแก๊ส 5 เรื่องสำคัญบ่งชี้ยังขาดวุฒิภาวะ
คุณอุ๊งอิ๊งเสียรังวัด แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะการจะเป็นผู้นำของประเทศในอนาคตว่า มีความไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ถ้านักการเมือง มีอำนาจสั่ง ‘ผู้ว่าธปท.’ ได้ ความ ‘ฉห.’ บังเกิดแน่
ธปท.ไม่ต้องตามใจนักการเมืองอยู่แล้ว ถ้าเป็นเรื่องแจกเงินดิจิตอล ถามกฤษฏีกาแล้วมิใช่หรือ หากมั่นใจว่าทำได้ ไม่ผิดกฏหมาย มีเงินพร้อมที่จะแจก แจกเลย