'อาคม'ยันไม่กู้เพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ

“อาคม” ยันไม่กู้เงินเพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจโต แจงกู้เกินตัวทำต่างชาติมองไม่ดี กระทบต้นทุนกู้เงินภาครัฐ-เอกชนทันที พร้อมถก ธปท. ประเมินกรอบเงินเฟ้อทั้งปี เชื่อไตรมาส 4/65 ราคาน้ำมันทุเลา ช่วยลดความร้อนแรงเงินเฟ้อได้

1 เม.ย. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2565 ลดลงเหลือ 3.2% จาก 3.4% และปี 2566 ลดลงเหลือ 4.4% จากเดิม 4.7% ว่า ไม่ได้หมายความรัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้เท่าเดิมเสมอไป และเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาท ก็ยังเหลืออยู่ 5-7 หมื่นล้านบาท ที่ยังเพียงพอดูแลเศรษฐกิจ

“การกู้เงินเกินตัวไม่จำเป็น เป็นความเสี่ยงทำให้ต่างชาติมองประเทศไทยไม่ดี และลดเครดิตของประเทศไทย ทำให้ต้นทุนการกู้เงินของเอกชนและรัฐบาลแพง ได้รับผลกระทบมากขึ้นไปอีก” นายอาคม กล่าว

นายอาคม กล่าวอีกว่า ได้หารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า แล้ว เรื่องที่นายกรณ์เสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งได้ชี้แจงว่าการกู้เงินต้องคำถึงวินัยการเงินการคลังในภาพรวมด้วย ซึ่งนายกรณ์ ก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี

“ตอนนี้เศรษฐกิจขยายตัวได้แล้ว ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการเริ่มกลับมาดำเนินการได้ ถึงแม้ว่ายังไม่เหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้รัฐบาลต้องลดการออกมาตรการช่วยเหลือที่เป็นภาระกับเงินกู้ลง” นายอาคม กล่าว

นายอาคม กล่าวอีกว่า เรื่องกรอบอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะเกิน 1-3% หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่จะต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อน ว่า ราคาน้ำมันและราคาอาหารที่แพงขึ้น จะส่งผลกระทบยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน หรือเป็นภาวะชั่วคราว ซึ่งก็อาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีไม่เกิน 3% ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปรับกรอบเป้าหมายของเงินเฟ้อ โดยในระยะสั้นรัฐบาลได้มีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพ การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ช่วยจ่ายค่าน้ำมันเบนซินให้กับวินมอเตอร์ไซค์เป็นเวลา 3 เดือน น่าจะช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนไม่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ทั้งปีเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบอยู่

“ในช่วงสั้นบางเดือนอัตราเงินเฟ้ออาจจะสูงเกินกรอบบน 3% ไปบ้าง แต่ทั้งปีต้องดูระยะยาวว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีการหารือกับ ธปท. เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบกับอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าราคาน้ำมันยังส่งผลกระทบกับเงินเฟ้อไทยในไตรมาส 2 ส่วนไตรมาส 3 ยังไม่แน่ใจ แต่ไตรมาส 4 คาดว่าจะทุเลาลง ซึ่งเรื่องสงครามเป็นเรื่องที่ประเมินยาก” นายอาคม กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อาคม' แจงยังไม่ต้องขยายเพดานวงเงิน มาตรา 28 แม้มีเงินเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท

“อาคม” ชี้ยังไม่จำเป็นต้องขยายเพดานมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง สั่ง สศค. ไล่เช็คบิลหน่วยงานเร่งปิดโครงการคืนยอดเพื่อให้มีวงเงินนอกงบใช้จ่ายมากขึ้น

'คลัง' การันตีเศรษฐกิจไทยแกร่งแจงบาทอ่อนหนุนส่งออก

“คลัง” การันตีเนื้อแท้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง มองบาทอ่อนช่วยหนุนมูลค่าส่งออก พร้อมเกาะติดตลาดการเงินโลก ชี้หากสัญญาณออกมาดีเป็นผลบวกกับไทย กำชับตลาดทุนดูแลคริปโตฯ เดินเครื่องคุย กฟผ. เล็งขายบอนด์อุ้มโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลก

'อาคม' เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ

“อาคม” เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ ยันนักลงทุนมั่นใจเสถียรภาพการเงิน-การคลังประเทศ ชูเป้าลงทุนชัดเจน โยนเคาะงบประมาณปี 67 พร้อมจี้ทำนโยบายการคลังแบบมุ่งเป้า เน้นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน

'อาคม' การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้นยันฐานะการเงิน-คลังยังแจ่ม!

“อาคม” การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้น ฟุ้งจัดเก็บรายได้ 5 เดือนทะลุเป้า การันตีฐานะการเงิน-การคลังประเทศยังแกร่ง จับตาสถานการณ์แบงก์ต่างชาติล่มใกล้ชิด พร้อมแจงให้รอดูไปก่อน หลังพรรคการเมืองลุยออกนโยบายโหมใช้เงินเกินเบอร์

'คลัง' ยกเครื่องรีดรายได้มั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โตทะลุ4%

“คลัง” มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2566 โตทะลุ 4% เร่งเครื่องลงทุนภาครัฐ ลุ้นส่งออกตีปีก จับตาปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-วิกฤติแบงก์ทั่วโลก พร้อมกาง 5 ปัจจัยท้าทาย ยกเครื่องรีดรายได้ ลดกู้หวังหดงบขาดดุลต่ำกว่า 3% ต่อจีดีพี