'ไก่ไทย' เตรียมส่งออกไปซาอุดิอาระเบียล็อตแรกสัปดาห์หน้า

“จุรินทร์”เผย “ไก่ไทย” เตรียมส่งออกไปซาอุดิอาระเบียล็อตแรกสัปดาห์หน้า สั่งทำแผนจัดคณะผู้แทนการค้าลุยขายของ 3 เมืองเป้าหมาย พร้อมให้เร่ง Mini FTA จ่อลงนาม 4 ฉบับ กำลังเจรจา 4 ฉบับ บรรจุเข้าแผนใหม่ 1 แห่ง ระบุจะเดินหน้าดึงเรือใหญ่เข้าเทียบท่า เอื้อส่งออก เร่งแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ไปจีน ดันเปิดด่านชายแดน 15 แห่ง และแก้ปัญหาการค้ากับอียิปต์

25 มี.ค. 2565 -นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าการผลักดันการค้าไทยกับซาอุดิอาระเบีย โดยสัปดาห์หน้า จะมีการส่งไก่ล็อตแรกไปยังซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้อนุญาตให้ 11 โรงงานของไทยส่งออกไก่ได้ และยังได้เห็นตรงกันกับภาคเอกชนที่จะนำคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปขยายการค้าในซาอุดิอาระเบีย มีเป้าหมาย 3 เมือง คือ เจดดาห์ ริยาด และดัมมัม มีสินค้าเป้าหมายที่จะผลักดัน คือ ยานยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหาร เสื้อผ้า สินค้าอุปโภคบริโภค และอื่น ๆ รวมทั้งจะเร่งจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-ซาอุดิอาระเบียขึ้นมาโดยเร็ว และใช้เป็นเวทีในการเจรจาการค้าในรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนการค้า จะเร่งเดินหน้าทำ Mini FTA ตั้งเป้าไว้ 11 ฉบับ ลงนามแล้ว 2 ฉบับ คือ ไห่หนาน ของจีน กับโคฟุ ของญี่ปุ่น โดยมี 4 ฉบับที่กำลังนัดหมายลงนาม ประกอบด้วยรัฐเตลังกานา ของอินเดีย วันที่ 11 เม.ย.2565 กานซู ของจีน ซึ่งเป็นตลาดฮาลาล ช่วงปลายเดือนเม.ย.2565 คยองกี ของเกาหลี รอกำหนดวันลงนาม หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ และปูซาน ของเกาหลี ที่เจรจาจบแล้ว รอยืนยันการลงนาม และมีที่ต้องเจรจาต่อ 4 ฉบับ คือ 1.รัฐกรณาฏกะ 2.รัฐมหาราษฏระ 3.รัฐเกรละ ของอินเดีย และ 4.เซินเจิ้น ของจีน แต่เอกชนเสนอให้เพิ่มอีก 1 ฉบับ ซึ่งได้รับเข้าแผนแล้ว คือ มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นมณฑลใหญ่ และรถไฟลาว-จีน จะไปจบที่มณฑลยูนนาน เส้นทางเชียงของ ด่านโม่ฮาน ก็มณฑลยูนนาน เส้นทางเชียงแสน ทางเรือ มณฑลกวนเหล่ย ก็มามณฑลยูนนาน ถ้าได้ทำ Mini FTA จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาติดขัดทางการค้า ได้มีการหารือเรื่องการถ่ายลำ โดยต้องการให้เรือขนาดใหญ่เข้ามาจอดเทียบท่าในไทย และขนสินค้าบางอย่างผ่านเขตพิเศษบริเวณท่าเรือได้ และเอาสินค้าไทยขึ้นเรือได้ เอกชนเห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับการจูงใจให้เรือเข้ามา จะได้ตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย.2565 โดยได้มอบเป็นนโยบายว่าสินค้าที่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่เห็นด้วยที่จะนำมาพักในบริเวณท่าเรือเพื่อการถ่ายลำ เช่น มันสำปะหลัง ให้เอาออก แต่สินค้าอื่นที่เห็นพ้องต้องกัน ก็เอาไว้

ส่วนเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ มีการประเมินว่าสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้น เดิมก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประเมินว่ากลางปี 2565 สถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่เมื่อเกิดสภาวะสงคราม ก็อาจจะมีปัญหา และถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะร่วมกันแก้ปัญหาในรูปของ กรอ.พาณิชย์ ต่อไป

สำหรับการส่งออกผลไม้ไปจีน มีมาตรการที่จะดำเนินการ คือ การใช้มาตรการเชิงรุก 17+1 ที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า และมาตรการ 8 ข้อใหม่ ที่จะเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ โดยเฉพาะตลาดใหญ่ที่สุด คือ จีน ที่ยังมีปัญหาใหญ่อยู่ที่ด่านทางบก ซึ่งเอกชนต้องการให้จีนขยายเวลาเปิดด่าน อำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้นำเข้าผลไม้จีนและผู้ส่งออกผลไม้ไทยได้รับความสะดวกร่วมกัน และให้ผู้บริโภคจีนได้รับผลไม้ที่สดใหม่ที่สุดจากเมืองไทย โดยได้มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และเอกอัครราชทูตไทย ช่วยกันเจรจากับทางการจีน

นอกจากนี้ จะเดินหน้าการเร่งรัดการเปิดด่านชายแดน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน โดยจะเร่งรัดการเปิดด่าน 15 ด่าน ที่เป็นทางเป้าหมาย ซึ่งด่านมาเลเซีย 2 ด่านเปิดแล้ว คือ ด่านตากใบและด่านบูเก๊ะตา ส่วนสปป.ลาว 9 ด่าน กัมพูชา 2 ด่าน เมียนมา 2 ด่าน กำลังเร่งดำเนินการ และจะเตรียมการใช้ประโยชน์จากรถไฟลาว-จีน ซึ่งด่านเวียงจันทน์เปิดให้บริการแล้ว แต่ด่านรถไฟโม่ฮาน ที่จะนำเข้าผลไม้ไทยได้ ยังสร้างไม่เสร็จ ต้องรอประมาณเดือนมิ.ย.2565 จึงได้เตรียมแผนรองรับการส่งออกผลไม้ทางเรือกับทางอากาศไว้ และได้เตรียมเจรจากับทางการจีน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก

ขณะเดียวกัน ได้เร่งติดตามปัญหาการค้าไทย-อียิปต์ ที่แบงก์ชาติอียิปต์ได้กำหนดให้ผู้นำเข้าของอียิปต์จะต้องรับเฉพาะ Letters of Credit (L/C) ที่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ต้องใช้เวลา และค่าธรรมเนียม ซึ่งทูตพาณิชย์ไทยประจำอียิปต์จะเป็นผู้ประสานและเป็นศูนย์กลางในการประสานให้ผู้ส่งออกไทยได้ทราบถึงกฎระเบียบ รายละเอียดต่าง ๆ รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพิ่มเติม และกระทรวงพาณิชย์จะมีสายด่วนและเว็บไซต์แจ้งเตือนถ้ามีปัญหาหรือกฎระเบียบใหม่เพิ่มเติม โดยสินค้าที่ไทยส่งไปอียิปต์ เช่น อาหารทะเลกระป๋อง รถยนต์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ซึ่งอียิปต์เป็นตลาดที่มีสัดส่วนการส่งออกของไทยในตลาดโลกที่ 0.43%