'เศรษฐา' จี้คลังหั่นดอกเบี้ยนอนแบงก์เหลือ 10% ชี้ทำประชาชนเดือดร้อน

“บิ๊กอสังหาฯ” กระทุ้งคลังชงหั่นดอกเบี้ยนอนแบงก์เหลือ 10% หวังช่วยลดภาระประชาชน แจงเป็นเรื่องที่ต้องเสียสละ พร้อมแนะรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน-ความเหลื่อมล้ำ ระบุหากไม่สบายรักษาหมอเดิม 8 ปีไม่หาย ต้องเปลี่ยนหมอ แต่ไม่ขอเป็นหมอเอง!

25 มี.ค. 2565 -นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเจอปัญหาสำคัญ ทั้งการถดถอย และผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งภาคอุตสาหกรรมของไทยต้องปรับตัวด้วยความรวดเร็ว เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนตลอดเวลา ขณะเดียวกันเห็นว่าประเทศไทยยังมี 2-3 เรื่องที่ต้องเร่งแก้ปัญหา เรื่องแรกคือ ภาระหนี้สิน และปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก

ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับ รมว.การคลัง และได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ผมได้ชี้แจงไปว่าดีมานด์อยู่ในเกณฑ์ดี แต่เหนื่อย เพราะความสามารถในการจ่ายหนี้ของคนไม่มี คนไปกู้ธนาคารแล้วถูกปฏิเสธเยอะ เพราะสภาพหนี้สูง ตรงนี้ทำให้จำกัดกำลังซื้อ และเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องเร่งแก้ไข

“การที่รัฐบาลทำนโยบายแบบประชานิยม เอาเงินใส่เป๋าประชาชนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การใช้จ่ายส่วนตัวของประชาชนก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เงินในกระเป๋าลดลง มีรายจ่ายด้านการศึกษา ดอกเบี้ยนอนแบงก์ซึ่งสูงมากกว่า 20% ผมอยากถามว่าต้องทำธุรกิจอะไรถึงจะจ่ายดอกเบี้ยได้มากกว่า 20% ตรงนี้ถือเป็นวงเงินที่สูงมาก ผมเสนอไป เป็นข้อเสนอที่ตรงไปตรงมา แต่ต้องการการตัดสินใจที่เฉียบพลัน ให้ลดเพดานดอกเบี้ยนอนแบงก์จากที่มากกว่า 20% เหลือ 10% และหากไปดูจะพบว่านอนแบงก์ที่ทำธุรกิจแบบนี้กำไรสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ในช่วงปีที่ผ่านมาประชาชนเดือดร้อนจากโควิด-19 มาก แต่บริษัทเหล่านี้กลับกำไรสูงมาก ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ และอาจต้องมีการเสียสละกันหน่อย” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่เป็นปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ความเหลื่อมล้ำ ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนรุ่นใหม่หมดกำลังใจ รู้สึกอยากย้ายถิ่นฐาน ย้ายประเทศ ตรงนี้ไม่ใช่การพูดเพื่อด้อยค่ารัฐบาล แต่เป็นเรื่องจริงของความรู้สึก และคนรุ่นผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูดว่าใครไม่รักชาติออกไป แต่ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องพยายามทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ ไม่ว่าจะในมิติของความเท่าเทียม ความเสมอภาค หรือนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวก็ตาม

“ไม่ใช่ว่าจะต้องไปขึ้นเวทีแล้วพูดว่า 40 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่กลับต้องมีแผนที่ชัดเจนว่าประเทศไทยในอีก 2 ปี หรือ 4 ปี จะเป็นอย่างไร คนในวัยเจริญพันธุ์ไม่อยากมีลูก สะท้อนจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่ประชากรไทยลดลง ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เราต้องดูว่าจะทำไงให้คนมั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศนี้ต่อไปแล้วอนาคตเขาจะเป็นอย่างไร มีความเท่าเทียมอย่างไร ขณะเดียวกันหากถามว่าผมไม่สบาย และรักษากับหมอคนหนึ่งมาเป็นเวลา 8 ปีแล้วไม่หาย ผมจะทำอย่างไร ผมตอบได้เลยว่า ผมจะเปลี่ยนหมอรักษา แต่ยืนยันว่าผมจะไม่เป็นหมอเอง” นายเศรษฐา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 นายกฯ 'อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา' ร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำ

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

เปิดคำวินิจฉัยส่วนตน ประธานศาลรธน. 1 ใน 4 ตุลาการ : ความเป็นรมต.ของ 'เศรษฐา' ไม่สิ้นสุดลง

สืบเนื่องจาก ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพา