กฟผ. เตรียมเปิดลงทะเบียน “ล้างแอร์ฟรี – ส่วนลดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5” รวม 20,000 สิทธิ์ เริ่ม เม.ย. นี้ ชวนคนไทยร่วมใจประหยัดพลังงานรับมือวิกฤตราคาพลังงานขาขึ้น
23 มี.ค. 2565 – นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานโลกยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม กฟผ. ได้จัดแคมเปญ “Save Energy for ALL ร่วมใจประหยัดพลังงาน ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน” เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชนจะสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 1.3 ล้านหน่วยต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 804 ตันต่อปี โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ
ล้างแอร์ช่วยชาติ (Clean your air, Clean your life) กฟผ. ร่วมกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยให้บริการล้างแอร์แก่ประชาชนทั่วประเทศฟรีจำนวน 10,000 สิทธิ์ จำกัดครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ต่อการล้างแอร์ฟรี 1 เครื่อง โดยต้องเป็นแอร์แบบติดผนังขนาดไม่เกิน 24,000 บีทียู เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านทาง www.egat.co.th ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 เป็นต้นไป การล้างแอร์ทุก 6 เดือน สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 10%
ส่งเสริมการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง กฟผ. ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีก มอบส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 มูลค่า 1,000 บาท ขึ้นไป จำนวน 10,000 สิทธิ์ เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ จุดขายในร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม และแสดงหลักฐานการเพิ่มเพื่อนใน LINE@EGAT หรือ Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565
ทั้งนี้ การปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้ายังสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น อาทิ เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทันทีเมื่อเลิกใช้งาน เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของห้อง ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น หรือไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส สวมใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีแทนการสวมเสื้อสูท ลดการเปิด-ปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินความจำเป็นและไม่ใส่ของแน่นเกินไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากแคมเปญดังกล่าวแล้ว กฟผ. ยังได้บริหารจัดการเชื้อเพลิงอื่นในการผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่มีราคาสูง อาทิ ปรับการเดินเครื่องโดยใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลแทนก๊าซฯ เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหิน เพื่อลดผลกระทบค่าไฟฟ้าของประชาชนและรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างเพียงพอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริ่มวันแรก! เปิดลงทะเบียน 'คุณสู้ เราช่วย' ปลดหนี้ 3 แสนล้าน
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
กฟผ. เตรียมจัด '70 พรรษา 7 โครงการเฉลิมพระเกียรติ' สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 ถือเป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2568 กฟผ. จึงจัดทำโครงการ “70 พรรษา 7 โครงการเฉลิมพระเกียรติ” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
'โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ' แบตเตอรี่ยักษ์กักเก็บพลังงานสะอาด
ความท้าทายในการก้าวข้ามขีดจำกัดของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่กำลังมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในระบบไฟฟ้าเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ คือ การบริหารจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงบางช่วงเวลา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
'โรงไฟฟ้า SMR' ตัวเปลี่ยนเกมพลังงานสะอาด
ภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องและแรงกดดันจากมาตรการทางการค้าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้ทั่วโลกพยายามดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือของ กฟผ. ในระดับสากลที่ระดับ 'BBB+'
บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ประกาศผลการทบทวนการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของ กฟผ. ในระดับสากลที่ระดับ “BBB+” ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่ากับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และให้มุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ของ กฟผ. อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable)
“สวนผักทางไฟ” พลิกพื้นที่แห้งแล้งใต้แนวสายส่งไฟฟ้าสู่แหล่งอาหารบ้านโนนยาง
“เคล” ราชินีแห่งผักใบเขียว หรือคะน้าใบหยิก ที่กำลังเตรียมตัดขายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เป็นภาพที่เกษตรกรบ้านโนนยาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด