'ธนกร' ชู 'ประยุทธ์' ให้ความสนใจพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งบก-ราง-น้ำ-อากาศ

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' ให้ความสำคัญพัฒนาโครงข่ายพื้นฐานคมนาคม ทั้งทางบก-ราง-น้ำ-อากาศ หวังรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะยาว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

23 มี.ค.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงสร้างขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โครงข่ายด้านการสื่อสาร ระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางราง ทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ รวมถึงการเกิดของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการลงทุนทั้งจากในและต่างประเทศ

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปในทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบขนส่งทางราง (รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง) การเปิดประมูลและให้บริการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ การพัฒนาโครงข่ายถนน เช่น การสร้างมอเตอร์เวย์ การพัฒนาท่าเรือ รวมถึงการพัฒนาท่าอากาศยาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) โดยออกพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปี 2561 เพื่อรองรับการดำเนินการที่สำคัญในอนาคต เช่น เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมเป้าหมาย เมืองใหม่อัจฉริยะน่าอยู่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยมีความสุข อยู่ดี กินดี สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม รัฐบาลได้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดโครงข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ในประเทศและเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งโครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก หลายโครงการเป็นการลงทุนต่อเนื่อง เมื่อโครงการต่าง ๆ แล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศกับนานาประเทศได้ และประชาชนคนไทยจะได้รับประโยชน์จากแผนการการลงทุนด้านคมนาคม โดยเฉพาะในเชิงเศรษฐกิจจากเม็ดเงินการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม

นายธนกรกล่างอีกว่า ในปี 2565 ประเทศไทยจะมีโครงการลงทุนทั้งทางบก ทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ในวงเงินสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่ได้ลงนามสัญญาแล้ว 516,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ 974,000 ล้านบาท ด้วยวงเงินการลงทุนที่สูงนี้ มีการคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 154,000 ตำแหน่ง และมีส่วนที่จะต้องจัดหาวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องจักรและยานพาหนะต่าง ๆ ประมาณ 1.24 ล้านล้านบาท จะทำให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณประมาณ 4 แสนล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 2.35% ของจีดีพี

"รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นจักรกลที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากช่วยยกระดับความสามารถ เพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมการผลิตในรูปแบบเดิม เพิ่มระดับในขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ รวมถึงซัพพลาย เชนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้เติบโตตามมา เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ และการคมนาคมขนส่ง โดยรัฐบาลได้ดำเนินการปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ในการประกอบกิจการ เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท" นายธนกรกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน