ชี้คว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลปั่นป่วนตลาดเงินโลกรอบใหม่

แฟ้มภาพ

นักวิชาการ ชี้ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้รัสเซียในช่วง 1 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้น จะสร้างผลกระทบต่อสถาบันการเงินในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนของตลาดการเงินโลกรอบใหม่

20 มี.ค.2565 – รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต กล่าวว่า แม้นว่า ธนาคารกลาง และ กระทรวงการคลังรัสเซียจะสามารถจัดการชำระหนี้จำนวน 117 ล้านดอลลาร์หรือ 3,800 ล้านบาทได้ในวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่ธนาคารต่างประเทศโดยเฉพาะธนาคารยุโรปและสหรัฐอเมริกาลงทุนในพันธบัตรรัสเซียกว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์หรือ 3.9 ล้านล้านบาท มีหนี้ก้อนใหญ่สกุลเงินต่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดปัญหาชำระหนี้เฉพาะหน้าได้ในต้นเดือนเมษายน จำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์หรือ 66,000 ล้านบาท และ มีดอกเบี้ยที่ต้องชำระประมาณ 448 ล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งข้างหน้า

รศ. ดร. อนุสรณ์  กล่าวว่า ซึ่งความจริงแล้วมูลค่าไม่มากแต่รัสเซียถูกอายัดเงินสกุลต่างประเทศเอาไว้  บริษัทจัดอันดับเครดิตอย่าง S&P ได้ลดอันดับเครดิตพันธบัตรรัสเซียจาก CCC เป็น CC ซึ่งหมายถึง สถานะความสามารถในการชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ เป็นตราสารที่มีความเสี่ยงในการผิดนักชำระหนี้สูงมากนั่นเอง ถือเป็นพันธบัตรขยะหรือพันธบัตรสำหรับเก็งกำไร รัสเซียมีพันธบัตรที่ต้องชำระหนี้คืนอีกจำนวนมากในหนึ่งปีข้างหน้า

” เมื่อการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในระบบการชำระเงินระหว่างประเทศเกิดขึ้นหลังเดือนพฤษภาคมอย่างเต็มรูปแบบย่อมทำให้ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นอีก หากนักลงทุนถือตราสารรัสเซียสกุลเงินต่างประเทศแต่ได้รับชำระเงินเป็นเงินสกุลเงินรูเบิลที่มูลค่าดิ่งลงย่อมเท่ากับการผิดนัดชำระหนี้เช่นเดียวกัน ” รศ. ดร. อนุสรณ์

รศ. ดร. อนุสรณ์ ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้รัสเซียจะสร้างผลกระทบต่อสถาบันการเงินในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนของตลาดการเงินโลกรอบใหม่ โดยที่ระดับความรุนแรงไม่มากเท่าวิกฤติหนี้สินยูโรโซน และ วิกฤติหนี้ซับไพร์ม ปัญหาจะสามารถยุติได้อย่างรวดเร็วหากสงครามยุติเนื่องจากรัสเซียมีทุนสำรองระหว่างประเทศมากถึง 6.4 แสนล้านดอลลาร์ แต่ถูกอายัดทรัพย์สินในสกุลเงินตราประเทศไว้จำนวน 3 แสนล้านดอลลาร์ ทางการรัสเซียได้กล่าวว่า หากรัสเซียไม่สามารถชำหนี้ได้หรือผิดนัดชำระหนี้ถือว่าเป็น “Artificial Default” หรือการผิดนัดชำระหนี้แบบเทียม ต้องติดตามต่อไปว่า พันธมิตรชาติตะวันตกจะใช้วิธีอะไรกดดันจีนเพื่อจำกัดรัสเซียไม่ให้เข้าถึงเงินสำรองที่เป็นเงินหยวน

“ข้อมูลล่าสุดพบว่า สถานะของทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย มีสัดส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์คิดเป็น 16.4% ของเงินสำรองทั้งหมด ส่วนเงินยูโร คิดเป็น 32.2% และเงินหยวน คิดเป็นสัดส่วน 13.1% การผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซียในเดือนเมษายนหากเกิดขึ้นยังคงมีผลกระทบต่อภาคการเงินไทยในวงจำกัดเนื่องจากสถาบันการเงินและนักลงทุนไทยไม่ได้มีธุรกรรมกับรัสเซียมากนัก อย่างไรก็ตาม การผิดนัดชำระหนี้ในเดือนเมษายนหากเกิดขึ้นจะส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนต่อตลาดการเงินโลกไม่น้อยและอาจทำให้ฐานะของสถาบันการเงินขนาดใหญ่บางแห่งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอ่อนแอลงได้” รศ. ดร. อนุสรณ์ ระบุ

ดร. อนุสรณ์ อธิบายว่า แม้นสงครามรัสเซียยูเครนยุติลง แล้ว เศรษฐกิจรัสเซียและยูเครนจะถอยหลังไปไม่ต่ำกว่า 15-20 ปี และ บรรษัทข้ามชาติตะวันตกได้ทยอยถอนการลงทุนออกจำนวนมาก และ เงินลงทุนเหล่านี้จำนวนหนึ่งจะไหลมาลงทุนในอาเซียนและประเทศไทย สงครามยืดเยื้อในยูเครน ฉากทัศน์นี้เป็นไปได้มากที่สุดเหมือนสถานการณ์สู้รบในซีเรียและอัฟกานิสถาน กองทัพรัสเซียสามารถยึดครองพื้นที่บางส่วนของยูเครนได้ รัฐบาลยูเครนยังคงบริหารประเทศได้ในบางพื้นที่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปจะรุนแรงและยืดเยื้อรวมทั้งมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมีจำกัด แต่สงครามยืดเยื้อในยูเครนจะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนระหว่างระบอบอำนาจนิยม กับ ระบอบเสรีประชาธิปไตย กลายเป็นสงครามเย็นรอบใหม่ 

“ระบบการเงิน ระบบการชำระเงิน ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบสื่อสังคมออนไลน์และแพลตฟอร์มต่างๆ ระบบโลจีสติกส์ทางเรือและอากาศปั่นป่วนกระทบการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนระหว่างประเทศ ต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากไม่ใช่ปัญหาราคาพลังงานและน้ำมันแพงอย่างเดียว แต่เป็นผลจากค่าระวางเรือสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าเรือรัสเซียปิดต้องย้ายการจัดส่งสินค้าผ่านท่าเรือในยุโรปแทน เส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือหลายเส้นทางถูกปิดหรือมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น” รศ. ดร. อนุสรณ์

 รศ. ดร. อนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้การขนส่งสินค้าไปสหรัฐอเมริกาก็เกิดปัญหาติดขัดการขนของออกจากท่าเรืออีกเนื่องจากปัญหาการแออัดของท่าเรือขนส่งสินค้าพร้อมใช้เวลาขนถ่ายยาวนานกว่าเดิมมาก มีปัญหาความหนาแน่นภายในท่าเรือประเทศปลายทาง ประกอบการประเทศจีนมีการล็อกดาวน์จากปัญหาโควิด ราคาพลังงานทรงตัวในระดับสูงจากสงครามรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อและโอเปคไม่เพิ่มกำลังการผลิต สหภาพยุโรปอาจประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนการผลิตสินค้าเกือบทุกประเภทรวมถึงต้นทุนการขนส่งที่ต้องปรับตัวสูงขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัวทั่วโลก มีความไม่สมดุลในตลาดแรงงาน ภาคการผลิตบางส่วนขาดแคลนแรงงานต่อเนื่อง ขณะที่บางกิจการยังมีเลิกจ้างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน อาทิ เซมิคอนดักเตอร์, เหล็ก, คาดว่า อัตราการขยายตัวของภาคส่งออกลดลงไม่ต่ำกว่า 30-50%.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง