สงครามยังพ่นพิษ ส.อ.ท. หวั่นชิปวัตถุดิบผลิตรถยนต์ขาดรุนแรง กระทบหนักทั่วโลก พร้อมจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด ยอมรับอาจกระทบการส่งออก รอประเมินอีก 1-2 เดือนข้างหน้าว่าจะคงเป้าหมายการผลิตปี 65 ที่ 1.8 ล้านคันได้หรือไม่
17 มีนาคม 2565 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ทางกลุ่มฯ กำลังติดตามสถานการณ์ภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์(ชิป) ที่จะกระทบต่อการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและไทยอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิปรุนแรงขึ้น ทั้งนี้เพราะยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์ 70% ให้กับทั่วโลกเพื่อแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์เพื่อใช้ผลิตชิป
“ก่อนหน้านี้ปัญหาการขาดแคลนชิปก็มีอยู่แล้วแต่คิดว่าน่าจะทยอยดีขึ้นพอมีปัญหานี้เข้ามาก็ทำให้ภาวะการขาดแคลนยิ่งเพิ่มไปใหญ่มองว่าภาวะขาดแคลนจะยาวไปถึงสิ้นปี 2566 เป็นอย่างน้อย ขณะเดียวกันผลพวงดังกล่าวทำให้ราคาก๊าซนีออนสูงขึ้นมากก็เป็นปัจจัยทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะสูงขึ้น โดยคงจะต้องติดตามว่าสถานการณ์สู้รบจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใดหากยืดเยื้อก็จะยิ่งกระทบมากขึ้น”นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ปัญหาชิปขาดยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกโดยล่าสุดค่ายรถบางยี่ห้อในญี่ปุ่นได้ประกาศลดการผลิตลง 20% ในช่วงเดือนเม.ย. พ.ค.และมิ.ย. 65 นี้ ส่วนประเทศอื่นๆ รถยนต์บางรุ่นต้องใช้เวลารอนานนับปี อย่างไรก็ตามการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนไม่เพียงกระทบต่อชิป หากแต่วัตถุดิบต่างๆ โดยเฉาะเหล็กก็มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึง พลาสติก ที่มาจากปัญหาราคาน้ำมันแพง เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นทำให้บางประเทศเริ่มมีการปรับราคารถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ส่วนไทยนั้นยอมรับว่าขณะนี้การแข่งขันค่อนข้างรุนแรงมีทั้งลด แลก แจก แถม การปรับราคาอาจไม่ง่ายแต่หากต้นทุนขยับสูงมากที่สุดก็ต้องพิจารณาเช่นกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ปี 2565 กลุ่มฯได้วางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไว้ทั้งหมด 1.8 ล้านคันแบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคันผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคันจากปี 2564 ที่ผลิตได้ 1.68 ล้านคันยอมรับว่าคงจะต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยและโลกใกล้ชิดเนื่องจากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันต่อเศรษฐกิจโดยรวม หากยืดเยื้อและยิ่งบานปลายไปยังพื้นที่อื่นก็จะยิ่งส่งผลกระทบหนักขึ้น ดังนั้นคงจะต้องติดตามสถานการณ์ภาพรวมอีก 1-2 เดือนหรือตัวเลขมี.ค.-เม.ย.ก็คงจะเห็นภาพชัดเจนถึงแนวโน้มการผลิตรถยนต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไปไม่ถึง ส.อ.ท. ยอมหั่นเป้าผลิตรถยนต์เหลือ 1.85 ล้านคัน ชี้ไฟแนนซ์เข้มปล่อยสินเชื่อ
ส.อ.ท.ยอมปรับเป้าการผลิตรถยนต์เหลือ 1.85 ล้านคัน ลดจากปีก่อน 1.78% เผยสาเหตุสถาบันการเงินยังเข้มอนุมัติสินเชื่อ กดดันการจำหน่ายในประเทศ แต่ยังลุ้นยอดส่งออกแตะเป้า 1.05 ล้านคัน
ส.อ.ท.โอดยอดผลิตรถยนต์ในประเทศหด ส.ค.ตกรูด 12%
ส.อ.ท.โอดยอดผลิตรถยนต์ในประเทศหด งวดเดือนส.ค. ลดลง 12.27% จากปีก่อน พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ลั่นอีก 1 เดือนหากยังไม่กระเตื้อง ส่อปรับประมาณการหลุดเป้า 1.9 ล้านคัน
ส.อ.ท. หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 66 ลง 5 หมื่นคัน เหตุสินเชื่ออนุมัติยาก
ส.อ.ท.หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 2566 ลง 5 หมื่นคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน สะท้อนการผลิตงวด มิ.ย.2566 ลดลงจากปีก่อน 2.01% เผยสาเหตุสินเชื่อรถยนต์อนุมัติยากจากหนี้ครัวเรือนพุ่ง ค่าครองชีพทะยานคนใช้จ่ายอย่างระวัง