รอเลย 'คลัง' ปักหมุด ก.ค.-ส.ค. นัดลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ยันคัดกรองเข้ม

“คลัง” นัด ก.ค.-ส.ค. 2565 ดีเดย์เปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ชูดึงเทคโนโลยีเสริมแกร่ง เชื่อมโยงข้อมูลตรวจสอบถี่ยิบ โวคัดกรองสุดเข้มข้น

10 มี.ค. 2565 -นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้ลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 (บัตรคนจน) ได้ประมาณเดือน ก.ค.- ส.ค. 2565 ซึ่งขณะนี้คลังได้จัดทำหลักเกณฑ์การเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดลงทะเบียนในรอบนี้จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งเรื่องการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน

นอกจากนี้ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบต่าง ๆ เช่น ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม กรมที่ดิน กระทรวงหมาดไทย สถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นตั้ง ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการเชื่อมโยงระบบทั้งหมดจะนำมาใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตน เพื่อให้การคัดกรองเป็นไปอย่างถูกต้องและตรงกลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของโครงการมากที่สุด

“ตอนนี้กระทรวงการคลังมีความพร้อมและอยู่ระหว่างการเตรียมเรื่องการรับลงทะเบียน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. นี้ โดยจุดรับลงทะเบียนจะมีทั้งในท้องถิ่น การใช้ระบบออนไลน์ ทั้งการลงทะเบียนผ่านระบบโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและป้องกันการระบาดของโควิด-19” นายสันติ กล่าว

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การคัดกรองผู้ที่จะได้รับสิทธิในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 นั้น จะมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยจะมีการนำเกณฑ์เรื่องจำนวนครัวเรือน รายได้ ทรัพย์สิน รวมทั้งราคาของบ้าน ที่ดิน รถยนต์ สลากออมทรัพย์ เป็นต้น มาพิจารณาด้วย และจะมีการอัพเดทข้อมูลของผู้ได้สิทธิทุกปี เช่น ปีนี้ได้รับสิทธิ เพราะรายได้ลดเนื่องจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 แต่ปีถัดไปสถานการณ์ดีขึ้น รายได้มากขึ้นจนเกินเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะถูกตัดสิทธิ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มตกหล่นให้สามารถเข้าถึงโครงการได้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 20 ล้านคน (ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม และผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่)

สำหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน มีดังนี้ผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ต้องไม่เป็นภิกษุ ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐ, รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี และรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี และผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ เช่น วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้นและไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการฯ กำหนด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอ๊ะยังไง! 2 สัปดาห์ ชื่อ 'กิตติรัตน์' ประธานบอร์ด ธปท. ยังไม่ถึงมือขุนคลัง

'พิชัย' บอกยังไม่ได้รับรายงาน ผลการเลือก 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' คาดติดช่วงวันหยุด ชี้ช่วยค่าเกี่ยวข้าวชาวนาไร่ละ 500 บาท ขอฟังความเห็นที่ประชุม นบข.