ยกแรก The Battle ฝ่ายค้านVSรัฐบาล มิ่งขวัญลาออก-จะไปอยู่พรรคไหน?

ผ่านไปแล้วสำหรับแมตช์แรกสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ. และจะมาต่อกันแมตช์ที่ 2 วันสุดท้าย ศุกร์ที่ 18 ก.พ.

การประชุมที่ดำเนินมาต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็นของวันที่ 17 ก.พ. ภาพรวมก็เป็นอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์คือ เพราะเป็นการ อภิปรายทั่วไป ไม่ใช่ ศึกซักฟอก-อภิปรายไม่ไว้วางใจ         

ดังนั้นแม้ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านจะโหมโรงเรียกน้ำย่อยว่าการอภิปรายครั้งนี้จะ เข้มข้น-เปิดแผล รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ยังไงดีกรีความเข้มข้นย่อมน้อยกว่าศึกซักฟอกแน่นอน

ผนวกกับฝ่ายค้านเองก็เพิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ตอนนี้ผ่านมาแค่ 4 เดือนกว่า ขนาดศึกซักฟอกรอบที่แล้วยังไม่ค่อยมีประเด็นอะไรเปิดแผลรัฐบาลจนเป็นแผลอักเสบ จึงทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลประเมินไว้ก่อนแล้วว่า ภาพรวมการอภิปรายคงไม่ได้ส่งผลสะเทือนรัฐบาลถึงกับทำให้สั่นคลอน

ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด เพราะภาพรวมการอภิปรายหลายชั่วโมงที่ผ่านไปเมื่อ 17 ก.พ. ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพูดถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่ฝ่ายค้านพยายามบอกว่า "รัฐบาลผิดพลาดบกพร่องในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ-สาธารณสุข-สังคม จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน" รวมถึงพยายามจะบอกว่า การที่พลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกฯ อยู่ต่อไป มีแต่จะสร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมือง

อันเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านต้องอภิปรายไปในแนวทางนี้ ที่ต้องยอมรับว่าก็มี ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนอภิปรายภาพรวมได้ค่อนข้างดี แม้จะพบว่าก็ไม่ได้มีข้อมูล-ประเด็นอะไรใหม่ ยังเป็นเรื่องเดิมๆ ที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายหรือออกมาแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ไปแล้ว

ไฮไลต์สำคัญๆ ของการอภิปรายที่ผ่านไปวันแรก ก็มีอย่างเช่น การเปิดหัวการประชุมด้วยการอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุตอนหนึ่งว่า ญัตตินี้เป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนทั้งแผ่นดิน พังทั้งแผ่นดิน สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง เข้าทำนองข้าวของแพง ค่าแรงถูก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวผิดพลาดในทุกด้านของรัฐบาลนี้

"เชื่อว่านายกฯ รักประชาชน ขอให้เอาหัวใจมามองสิ่งดีๆ เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อมี ครม.ใหม่ หรือประกาศยุบสภา มอบอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ" ผู้นำฝ่ายค้านระบุทิ้งท้าย

ส่วนการหักล้าง-ชี้แจงจากฝ่ายรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี" ชี้แจงกลางที่ประชุมสภา ตอนหนึ่งว่า อะไรที่ต้องนำไปแก้ไขก็จะดำเนินการ รัฐบาลพยายามดำเนินการมาตลอด ทุกประเด็นชี้แจงได้หมด ทั้งเศรษฐกิจ-วัคซีน-โรคระบาด-ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด-ความคืบหน้าการปฏิรูปการเมือง การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

"เรื่องการบริหารที่ส่อทุจริต อย่าพูดคำนี้กับผมหากไม่มีหลักฐาน ยืนยันผมจะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาดทั้งด้านนโยบายและตัวผม"

ขณะที่ประเด็นเรื่องที่ฝ่ายค้านพยายามชี้ว่ามีรัฐมนตรีหรือคนในรัฐบาลมีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ที่น่าสนใจก็มี เช่น การอภิปรายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ติดตามตรวจสอบเรื่อง ที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ของตระกูลชิดชอบ-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย มาตลอด รอบนี้พรรคประชาชาติก็ใช้เวทีนี้อภิปรายประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยเน้นไปที่การที่ยังไม่มีความคืบหน้าในการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน เนื้อที่ 5,083 ไร่ แม้ศาลฎีกาจะตัดสินแล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ก็มีการทำให้ปมปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อออกไปอีก เพราะการรถไฟฯ ไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ทั้งที่คดีดังกล่าวศาลฎีกาได้ตัดสินไปแล้ว

"ขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเพราะในที่ดินดังกล่าว นายศักดิ์สยามที่ยอมรับว่าเป็นที่ที่ตัวเองและญาติพี่น้องอยู่ อีกทั้งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอลช้างอารีน่า และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้ว่าฯ การรถไฟจึงไม่กล้าฟ้องเจ้านายของตัวเอง"

อย่างไรก็ตาม ขณะที่การอภิปรายของฝ่ายค้านดำเนินไปเรื่อยๆ มีเข้มข้นบางช่วง มีฉายหนังซ้ำบ้างหลายคน ก็ปรากฏว่าในช่วงเย็น บรรยากาศก็กลับมาเป็นที่สนใจของคนในห้องประชุม และคนที่ติดตามการอภิปราย

เมื่อปรากฏว่า มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ตอนเลือกตั้งปี 2562 มิ่งขวัญฉายเดี่ยว พา ส.ส.เศรษฐกิจใหม่เข้าสภารวมกันถึง 6 คน โดยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด แต่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล มิ่งขวัญไม่ยอมเอาพรรคเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่แรก แม้จะมีข่าวว่าพลังประชารัฐเสนอโควตา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ ทำให้ ส.ส. 5 คนของพรรคเศรษฐกิจใหม่และคนในพรรคไม่พอใจ เลยจัดการ ยึดอำนาจทั้งหมดในพรรคจากมิ่งขวัญ แล้วลอยแพ มิ่งขวัญ จนมิ่งขวัญกับพรรคเศรษฐกิจใหม่แยกทางกันเดินมาร่วม 2 ปีเศษ

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ออกมาตลอดก่อนหน้านี้ว่า มิ่งขวัญจะไปทำการเมืองกับพรรคการเมืองใหม่ หลังมีคนมาทาบทามหลายกลุ่ม เช่น พรรคสร้างอนาคตไทยของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, ไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, พรรครวมไทยยูไนเต็ดของวินท์ สุธีรชัย หลังลาออกจากพรรคก้าวไกล เมื่อปีที่แล้ว แม้แต่กับ พรรคก้าวไกลก็เคยมีข่าวลือว่า มีคนโยนชื่อมิ่งขวัญให้ส่งลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลมาแล้ว

สุดท้าย มิ่งขวัญ ก็มาแย่งซีนการอภิปรายเมื่อ 17 ก.พ.ในตอนเย็น เมื่อประกาศลาออกจาก ส.ส.กลางสภา แบบหลายคนคาดไม่ถึง เพราะไม่มีข่าวใดๆ ออกมาก่อน

"พรรคเศรษฐกิจใหม่เราเคยประกาศจุดยืนไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดศัพท์ขึ้นมาสองคำ คือคำว่างูเห่า และลิงกินกล้วย พล.อ.ประยุทธ์ว่า ท่านไปทำอะไร พวกเขาเหล่านั้นจึงเปลี่ยนจุดยืน สองปีกว่าผมไม่มีความสุขกับการทำงาน ขอลาออกตั้งแต่วันนี้ ให้มันจบ ผมยังคงทำกิจกรรมทางการเมือง จะออกไปเตรียมตัวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป" มิ่งขวัญประกาศกลางสภา

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคการเมืองใหม่-กลุ่มการเมืองใหม่ที่มิ่งขวัญจะไปอยู่ด้วย ขณะนี้มีการคุยกันเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังรอความชัดเจนบางอย่างเพื่อเปิดตัวต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ 

  ทั้งหมดคือซีนการเมืองในห้องประชุมสภาที่ผ่านไปแล้วสำหรับแมตช์แรกของการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่จะสิ้นสุดศุกร์ที่ 18 ก.พ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา กกต.เลื่อนรับรอง สว. เตรียมปล่อยผีสอยทีหลัง

นับได้ว่าขณะนี้ ถนนการเมืองได้คลอดว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และสำรอง 100 คน ที่เตรียมพร้อมจะเข้าทำงานในสภาเพื่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไทม์ไลน์เคาะเครื่องบินรบ แง้มเส้นทางเรือดำน้ำเข้าครม.

เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนที่กองทัพอากาศจะคัดเลือกแบบเครื่องบินรบฝูงใหม่ทดแทน เพื่อนำเข้าประจำการแทนเครื่องที่กำลังปลดประจำการ

พท.ไม่สิ้นมนตร์ขลังแต่ชนะแค่1.8พัน ปิดตำนาน"บิ๊กแจ๊ส-มีวันนี้เพราะพี่ให้”

เสร็จศึกแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกฯ อบจ.ปทุมธานี ที่ล่าสุดผลคะแนนออกมาแล้วเป็นทางการ ผลปรากฏว่า “นายชาญ พวงเพ็ชร์” ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย มีดีกรีเป็นอดีตนายกฯ อบจ.ปทุมธานี 3 สมัย ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,032 คะแนน

สว.สีน้ำเงินเปิดเซฟเฮาส์ ทำโผ-วางขุมกำลังคุมสภาสูง

การเมืองสัปดาห์นี้ ไฮไลต์สำคัญก็คือ ต้องรอดูว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองรายชื่อ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ทั้ง 200 คนในช่วงกลางสัปดาห์นี้ พุธที่ 3 ก.ค. ตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่ หรือจะเลื่อนออกไป หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

สภาฮั้วค่าย 'สีน้ำเงิน' ยึดสว. วงจรอุบาทว์การเมืองไทย

ผลการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รายชื่อว่าที่ สว.จำนวน 200 คน และสำรอง 100 คน ครบแล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ค่าย 'สีน้ำเงิน 'คุมสภาสูง จับตาประธานสว.คนใหม่

ประเทศไทยมีรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 200 คน อย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค หลังจากใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ลากยาวไปถึงเช้ามืดวันถัดไป ทำเอาผู้สมัครสว. ผู้ติดตาม รวมถึงผู้สื่อข้าวที่ตามเกาะติดชิดห้องประชุมตาคล้ำราวกับหมีแพนด้า