การเมืองสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ 17-18 ก.พ.นี้ ที่จะมีการประชุมสภาตามญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 173 คน เข้าชื่อกันเพื่ออภิปรายทั่วไปรัฐบาลในประเด็นต่างๆ เช่น ความผิดพลาดในการบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
โดยแม้การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายทั่วไป ไม่มีการลงมติไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ อีกทั้งไม่ใช่ศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นดีกรีความเข้มข้นในห้องประชุมและการเคลื่อนไหวนอกห้องประชุมสภาจึงยังเทียบกับศึกซักฟอกไม่ได้ แต่ก็คาดว่าคงเข้มข้นระดับหนึ่ง โดยฝ่ายค้านมีเวลาในการอภิปราย 22 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลมีเวลาในการชี้แจง-หักล้างการอภิปรายของฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง ถือเป็นไฮไลต์สำคัญการเมืองในสภาอีกหนึ่งฉาก ก่อนปิดสมัยประชุมสภา 28 ก.พ.นี้
ซึ่งสัปดาห์นี้ สภาจะงดการประชุมในวันพุธที่ 16 ก.พ. เพื่อมาประชุมพฤหัสบดีกับศุกร์สองวันติด ทำให้ฝ่ายค้านและรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ ก็จะได้มีเวลาในการเตรียมพร้อมทั้งเรื่องข้อมูล-เอกสารการอภิปรายต่างๆ
อย่างในส่วนของ พรรคเพื่อไทย พบว่ามี ส.ส.เข้าชื่อขออภิปรายร่วม 50 คน และได้เวลาในการอภิปรายทั้งสิ้นประมาณ 12 ชั่วโมงเศษ ขณะที่ พรรคก้าวไกล มีข่าวว่ามีการเปิดห้องติวเข้ม ส.ส.ของพรรคที่จะอภิปรายกันอย่างเข้มข้น หลังพรรคได้เวลาในการอภิปราย 5 ชั่วโมง และมี ส.ส.ก้าวไกลขออภิปรายร่วม 18 คน
สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวไว้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมเต็มที่ เรื่องเวลาได้จัดสรรปันส่วนลงตัวแล้วทั้งในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านและภายในพรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยได้เวลาอภิปราย 760 นาที เรื่องเนื้อหาพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมและแบ่งเนื้อหาให้แต่ละพรรคไปแล้วว่าใครจะพูดเรื่องอะไร มุมใด ในพรรคเพื่อไทยก็มีการแบ่งแล้วเช่นเดียวกัน เหลือเพียงการขัดเกลาและฝึกซ้อมเพื่อให้แม่นยำในเนื้อหาของตัวเอง
"เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความศรัทธาของรัฐบาลที่เสื่อมลงทุกอย่าง คนจะได้เห็นข้อบกพร่องของรัฐบาลอย่างชัดเจน แม้เขาจะทำงานต่อได้ แต่เข้าสู่การนับถอยหลัง เพราะประชาชนหมดศรัทธาแล้ว คิดว่าหากอยู่ต่อได้ก็คงอยู่ต่อได้อีกไม่นาน" ประธานวิปฝ่ายค้านโหมโรงเรียกน้ำย่อย ก่อนลงทำศึกลับฝีปากกับรัฐบาล
ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า ประเด็นในการอภิปรายจะชี้ให้เห็นว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปต่อไม่ไหวแล้ว ถ้ายังบริหารประเทศอยู่ มันเดินหน้าไม่ได้ เช่นในเรื่องเศรษฐกิจ และย้ำว่ากรอบการอภิปรายจะเทน้ำหนักไปที่เนื้อหา 4 เรื่องคือ 1.เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับปากท้องประชาชน 2.โรคระบาด ทั้งโควิดและอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 3.การทุจริตคอร์รัปชัน และ 4.การบริหารราชการแผ่นดิน
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องเหมืองทองอัครา ตอนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจปีที่แล้วจนได้รับการพูดถึงอย่างมาก บอกไว้เช่นกันว่า จะเป็น ส.ส.เพื่อไทยคนหนึ่งที่ลุกขึ้นอภิปรายรอบนี้ โดยที่ผ่านมาเพื่อไทยมีการเตรียมการมานานพอสมควร เช่นในเรื่องของการ เตรียมข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปราย มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อสนับสนุนในเรื่องของข้อมูลที่จะให้ ส.ส.ของพรรคนำไปใช้ในการอภิปราย ส่วนประเด็นเรื่อง การทุจริต จะเป็นประเด็นที่ค่อนข้าง ปิดลับ สักเล็กน้อย เพราะพรรคเพื่อไทยจะมีคณะทำงานในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
"คิดว่าจะเป็นการเปิดแผลด้วยการนำเสนอข้อมูลที่ประชาชนอยากรับรู้รับทราบ อะไรที่รัฐบาลซุกไว้ใต้พรมก็อาจจะสามารถนำมาเปิดเผยในครั้งนี้ และอาจจะสั่นคลอนรัฐบาลได้ในระดับหนึ่งเหมือนกัน เพราะขณะนี้รัฐบาลเองก็ค่อนข้างจะมีปัญหาความขัดแย้งภายใน"
โดย จิราพร-ส.ส.ร้อยเอ็ด เพื่อไทย ย้ำว่า อภิปรายรอบนี้จะมีการอภิปรายประเด็นเรื่องเหมืองทองอัคราด้วยแน่นอน หลังเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเลื่อนการชี้ขาดคดีข้อพิพาทระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ดฯ กับรัฐบาลไทยออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งฝ่ายค้านพบความผิดปกติตรงที่ว่า คดีดังกล่าวยังไม่จบ แต่ทางรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกตฯ ได้มีการเจรจาระหว่างกัน และระหว่างที่ข้อพิพาทอยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ ก็พบว่ามีการนำพื้นที่ 4 แสนไร่ให้กับบริษัท คิงส์เกตฯ เพื่อที่จะเข้ามาสำรวจแร่ทองคำเพิ่มเติม ทั้งที่ยังไม่มีคำชี้ขาดออกมาว่าการที่ออกคำสั่งปิดเหมืองดังกล่าวถูกหรือผิด ใครเป็นฝ่ายถูก ใครเป็นฝ่ายผิด แต่มีการเริ่มให้สัมปทานเพิ่ม มีการให้สิทธิพิเศษในการสำรวจเพิ่ม และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ายังเหลือที่ดินอีกประมาณ 6 แสนไร่ในอีกหลายจังหวัด ที่ทางบริษัท คิงส์เกตฯ ประกาศไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทว่า เขาได้ขอมายังประเทศไทยว่าจะอนุญาตให้บริษัทสำรวจเพิ่มเติม ซึ่งบริษัท คิงส์เกตฯ ระบุด้วยว่าผลการเจรจาเป็นไปในทางบวก น่าจะได้ตามที่ขอทั้งหมด โดยหากรวม 4 แสนไร่กับ 6 แสนไร่ ก็เท่ากับจะได้รวมประมาณเกือบ 1 ล้านไร่ในการได้สิทธิพิเศษเข้ามาสำรวจแร่ในประเทศไทย
"เรื่องเหมืองทองอัครา การอภิปรายทั่วไปที่จะมีขึ้นจะมีการอภิปรายย้ำอีกครั้งหนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลไม่เคยตอบคำถามกับประชาชนเลย และจะมีการเปิดประเด็นใหม่ที่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับประชาชนด้วย" จิราพรระบุไว้
ขณะที่ฝ่ายพลเอกประยุทธ์ นายกฯ ก็มีการให้ทีมงานในตึกไทยคู่ฟ้าเตรียมประเด็นในการชี้แจงและประสานข้อมูลกับกระทรวงต่างๆ เพื่อขอข้อมูลไว้เตรียมพร้อมชนกับฝ่ายค้านไว้แล้ว และคาดว่าประชุม ครม.อังคารที่ 15 ก.พ.นี้ คงมีการหารือพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเช็กความพร้อมของแต่ละกระทรวงก่อนขึ้นเวทีดวลกับฝ่ายค้านต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อบงการ ลูกตามสั่ง
“พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ผ่าน “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” คงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มีคำบัญชาผ่านเวทีต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ก็สนองนโยบายทันที โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะขาดความน่าเชื่อถือ และยำเกรงต่อกฎหมายมิให้คนนอกเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด”.
กมธ.คุ้มครองผู้บริโภครับลูกเร่งผลักดัน 3 กม.ของภาคประชาชน
'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' รับหนังสือแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เร่งสภาผลักดัน แก้ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก - ติดฉลาก -ให้ข้อมูลโภชนาการไม่สมบูรณ์
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
'อิ๊งค์' เปิดตัว 9 ผู้สมัครนายก อบจ. ดีเอ็นเอเพื่อไทยชัด นามสกุลเดียวกับ สส.เพียบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค และ สส.สระแก้ว , นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี