ปมร้าวพรรคร่วมรัฐบาล ไม่น่าห่วงเท่า "3 ป.แตก"

ปัญหาสภาฯ ล่มซ้ำซาก ถูกโยงถึงปัญหารัฐบาลแตกหักหรือไม่ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้ 7 รัฐมนตรีสายพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค   

บอยคอตไม่เข้าประชุม ครม. เมื่อวันที่ 8 ก.พ. วาระการพิจารณาแปลงสัญญาสัมปทานเป็นสัญญาร่วมลงทุนในรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

เหตุการณ์นี้ประเมินว่าอาจทำให้รัฐบาลจะอยู่ไม่ครบวาระหรือไม่ เพราะนายกฯ ต้องปรับพรรคภูมิใจไทยออกจาก ครม., ยุบสภาฯ หรือสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยขอถอนตัวจากรัฐบาลก็ตาม เป็นต้น  

แต่เมื่อดูตามความเป็นจริง สถานการณ์คงไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้น เพราะปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ใช่คำขู่หรือเรื่องแตกหักที่จะต้องถอนตัวออกจากรัฐบาล, ไม่ใช่โครงการที่เป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล และนโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย  

ฉะนั้นหากสุดท้าย ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และกทม.ไปเคลียร์ปัญหา ตามที่ค่ายภูมิใจไทยเป็นห่วงทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล ก็เชื่อว่าจะยอมผ่านให้  

อาทิ เรื่องการแปลงสัญญาสัมปทานมาเป็นสัญญาร่วมทุน ถือว่าไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ หลังจะเลือกใช้แทนการเปิดประมูลตามหลักกฎหมายทั่วไป ในช่วงที่สัญญาสายสีเขียวจะหมดในปี 2572, การลดราคาค่าโดยสารให้ถูกกว่า 65 บาทตลอดสายได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพของประชาชน เป็นต้น 

ในทางกลับกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เลือกที่จะเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากกระทรวงคมนาคม ก็สามารถทำได้ในการประชุม ครม.  

แต่พรรคภูมิใจไทยคงไม่ร่วมสังฆกรรม เพราะเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวดำเนินการมาตั้งแต่ยุค คสช.ที่ยังไม่แล้วเสร็จสิ้น และสืบทอดมาให้ ครม.ที่มาจากการเลือกตั้งร่วมรับผิดชอบด้วย จึงไม่ต้องถูกฟ้องดำเนินคดีภายหลัง เข้าทำนอง “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ” 

และต่อมาหาก “บิ๊กตู่” ไม่ปรับพรรคภูมิใจไทยออกจาก ครม. ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะบริหารต่อไป เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมพลังประชาชาติไทย ฯลฯ ก็จะมุ่งหน้าทำงานผ่านกระทรวงที่ตัวเองรับผิดชอบไปให้ยาวนานที่สุด เพราะไม่มีใครอยากยุบสภาฯ ในสถานการณ์แบบนี้ ที่กำลังเจอวิกฤตศรัทธา ปัญหาโควิด และสินค้าราคาแพง   

ในส่วนของ บิ๊กตู่ ก็รับรู้สถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างดี อีกด้านหนึ่งก็อาจมีความเกรงใจ พล.อ.อนุพงษ์ เพราะเป็นโต้โผเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ต้องรีบปิดเกม ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในเดือน พ.ค.นี้ 

ขณะเดียวกันก็ต้องเก็บ พรรคภูมิใจไทย ไว้ทำงานใหญ่ต่อไป ด้วยเอกภาพของพรรค 50-60 เสียง ไม่แตกแถว ที่จะเป็นนั่งร้านสำคัญให้ “บิ๊กตู่” สามารถอยู่ครบวาระ 4 ปี ในต้นปี 2566 และช่วยประคองให้นายกฯ ทำหน้าที่ประธานเอเปกในปลายปี 65 สร้างการยอมรับจากนานาชาติได้สำเร็จ 

ยามที่เสถียรภาพรัฐบาลกลับมาปริ่มน้ำ เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อม ส.ส. 21 คน ถูกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับออกไปสังกัด "พรรคเศรษฐกิจไทย" โดยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร.ยอมไฟเขียวเปิดทางให้ใช่หรือไม่  

ท่ามกลางความหวาดระแวงว่า กำลังเล่นเกมต่อรองอำนาจกับ บิ๊กตู่ หรือต้องการความเปลี่ยนแปลง เช่น กระแสข่าวปรับ ครม. และให้ บิ๊กป้อม นั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย แทนที่ "พล.อนุพงษ์" เพื่อเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้ง ​

แม้ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส จะออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่คนวงในต่างรับรู้ความจริงเป็นเช่นไร และกระแสลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

                    ขณะที่นายกฯ หากไม่ปฏิบัติตามความต้องการ ก็ไม่แน่ว่า ส.ส.ในซุ้มผู้กองธรรมนัสจะออกมาแผลงฤทธิ์หรือไม่ โดยเฉพาะเกมในสภาฯ อาทิ ไม่ยกมือสนับสนุนผ่านกฎหมายสำคัญของรัฐบาล หรือแม้กระทั่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป อย่างที่เคยกระทำและตกเป็นกบฏมาแล้วใช่หรือไม่ 

ในส่วนของ บิ๊กตู่ ก็ใช่ว่าจะยอมจำนน ก็เตรียมการป้องกันอุบัติเหตุ อาทิ กระแสควบรวมพรรคเล็ก หรือดึงเสียงและตัดแต้ม ส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจไทยให้มีจำนวนลดลง  

รวมทั้งทางหนีไฟ หากต้องการเป็นนายกฯ สมัยที่ 3 ก็มีพรรคการเมืองเกิดใหม่ขึ้นมารองรับ อาทิ พรรคการเมืองของกลุ่ม กปปส. หรือล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ “แรมโบ้อีสาน” หรือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ลาออกจาก พปชร. และประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ 

เมื่อดูสถานการณ์การเมือง และสิ่งที่ “บิ๊กตู่” กำลังเผชิญ โดยเฉพาะความขัดแย้งของพี่น้อง 3 ป. ที่ยังไม่มีท่าทียุติ ปัญหาพรรคร่วมที่จะทำให้รัฐบาลแตก คงเป็นเรื่องเล็กในทันที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย

'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.

นโยบายที่“อิ๊งค์”ไม่กล้าพูด เรื่องสำคัญกว่าผลงาน90วัน

บรรดากองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยอาจจะชื่นชม หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เล่นใหญ่ เปิดสตูดิโอ 4 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ยืนเดี่ยวไมโครโฟน

'อนุทิน' ลั่นใครผิดว่าไปตามผิดปมเด็ดชีพ 'สจ.โต้ง'

มท.1 ยังไม่ทราบปม 'สจ.โต้ง' ถูกยิงดับคาบ้าน 'สุนทร วิลาวัลย์' ขอให้ ตร.สืบสวนก่อน ยันทุกอย่างเดินตามกฏหมาย ไม่มีช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นพวกใคร

แถลงผลงาน3เดือน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ โชว์อนาคตประเทศ รอดหรือร่วง?

ได้เวลาตีปี๊บผลงานรัฐบาล 90 วันของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025 Empowering Thais : A Real Possibility) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) พร้อมถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม