แม้พรรคแดงกับพรรคส้มจะปะทะกันทางความคิดอย่างเข้มข้น แต่ก็ไม่ได้แตกแยกทางอุดมการณ์ เพียงแต่มียุทธศาสตร์แตกต่างกัน
ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตญัตติในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง ทำให้ น.ส.แพทองธารทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป
วันรุ่งขึ้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย ทันที
การเร่งผลักดันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-กาสิโนถูกกฎหมาย ให้ทันสมัยการประชุมนี้ ทั้งที่่มีการท้วงติง คัดค้านของหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายการเมือง นักวิชาการ และภาคประชาชนมาโดยตลอด ว่าการมีบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายจะสร้างความหายนะแก่สังคมไทย
แสดงว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่แคร์เสียงคัดค้าน พร้อมเร่งเดินหน้าจะเอาให้ได้ หลังจากเสียงโหวตไว้วางใจนายกฯ อย่างท่วมท้น แถมมีงูเห่าโผล่อีก 7 เสียง คงทำให้มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาลว่ามีความมั่นคง ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลคนไหนแตกแถว มีการแบ่งเค้กเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว
ส่วนม็อบข้างทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), ศปปส., กองทัพธรรม ที่่ชุมนุมคัดค้านบ่อนกาสิโน หลังแกนนำม็อบประกาศยกระดับขับไล่รัฐบาล ก็คงประเมินว่าไม่สามารถปลุกมวลชนลงถนนนับแสนๆ คน สั่นคลอนรัฐบาลแบบม็อบเสื้อสีในอดีตได้อีก
ส่วนตัวแปรอื่นๆ เช่น กรณีราชทัณฑ์ส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร บิดานายกฯ อิ๊งค์ ไปรักษาตัวบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่มีการยื่นเรื่องให้แพทยสภาสอบจริยธรรมแพทย์ และยื่น ป.ป.ช.เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง 12 คน นายกฯ อิ๊งค์ ได้ตอบฝ่ายค้านอย่างมั่นใจว่า "ผลสรุปออกมาได้ อีกไม่นานนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะยอมรับ"
จากท่าทีของนายกฯ อิ๊งค์ และแกนนำรัฐบาล เสมือนว่าไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคสำหรับการเดินหน้าผลักดันโครงการสำคัญๆ ของรัฐบาล หรือทำให้รัฐบาลสะดุดล้มได้
แต่ นายกฯ อิ๊งค์ ยังมีชนักปักหลังจากตรวจสอบของหน่วยงานที่้เกี่ยวข้อง และจะถูกยื่นตรวจสอบเพิ่มอีกหลายเรื่อง ซึ่งประเด็นร้อนที่สุดคือกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดโปง น.ส.แพทองธาร ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋ว P/N) ในการซื้อหุ้นจากคนในครอบครัว 4.4 พันล้านบาท เข้าข่ายทำนิติกรรมอำพราง หลบเลี่ยงหรือหลีกเลี่ยงภาษีที่ผิดกฎหมาย เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีการรับให้ 218 ล้านบาท
การชี้แจงว่าคนอื่นก็ทำ เท่ากับภาษีรับให้ไร้ความหมาย จะไม่สามารถเก็บภาษีมรดกได้อีกต่อไป จึงต้องดูที่เจตนา หากหลบเลี่ยงภาษี เท่ากับความผิดสำเร็จแล้ว
พรรคประชาชนได้เดินหน้า ยุทธการโรยเกลือ หลังศึกซักฟอก ดำเนินการเอาผิดตามช่องทางต่างๆ โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เข้าร้องกรมสรรพากรให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร กรณีการใช้ตั๋ว P/N ในการซื้อหุ้น เข้าข่ายทำนิติกรรมอำพราง
จากนั้น นายวิโรจน์ และ นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ยื่นหนังสือที่กรมที่ดิน เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและชี้แจงการออกเอกสารสิทธิที่ดินของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่
จึงต้องจับตาต่อไปว่า พรรคประชาชนจะเดินหน้า ยุทธการโรยเกลือ ไปไกลถึงแค่ไหน
ทางด้าน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) สิ้นสุดลง เพราะขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตาม รธน.มาตรา 160 (4) (5) ได้ชี้ช่องว่า หลังเสร็จการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว สส.พรรคฝ่ายค้านควรเข้าชื่อ สส. 1 ใน 10 หรือไม่น้อยกว่า 50 คน เสนอคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตาม รธน.มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
ด้วยเหตุที่ น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
เพราะพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจและตรวจสอบพบการกระทำของ น.ส.แพทองธาร ที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่อาจทำให้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ดังนี้
1.การทำตั๋วสัญญาการใช้เงิน (Promissory Note) ในการกู้ยืมเงินจากคนในครอบครัววงเงิน 4,434 ล้านบาท โดยไม่มีการกำหนดเวลาชำระคืนและไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเป็นการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ตั๋วสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2559 แต่ไม่มีการชำระเงินและดอกเบี้ย ไม่ระบุในสัญญาว่าจะชำระเมื่อใด ผ่านมานานถึง 9 ปี ยังไม่มีการชำระหนี้ใดๆ อาจเข้าข่ายการทำนิติกรรมอำพราง หรือหลบเลี่ยงการชำระภาษี และอาจแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ
ถือเป็นกรณีที่เป็นรัฐมนตรีมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริต และประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
2.การถือหุ้นเป็นกรรมการบริษัทและกรรมการบริหาร บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544-4 กันยายน 2568 ซึ่งมีปัญหาเป็นที่ธรณีสงฆ์ เป็นการหาประโยชน์มิควรได้จากที่ดินธรณีสงฆ์อันเป็นที่ดินของรัฐดังกล่าว เช่นเดียวกันกับที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงและตัดสิทธิทางการเมืองอดีต รมช.ศึกษาธิการ (กนกวรรณ วิลาวัลย์) กรณีครอบครองที่ดินป่าสงวนเขาใหญ่ และคดีให้ สส.พ้นจากตำแหน่ง (ปารีณา ไกรคุปต์) ตัดสิทธิการเมืองกรณีครอบครองที่ดินป่าสงวนราชบุรี
ถือเป็นบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาเคยวางเรื่องการประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองไว้แล้ว
3.พิจารณาดูให้ชัดเจนในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ.2564 ข้อ 6 (2) ข้าราชการการเมืองต้องยึดมั่นในกฎหมาย และไม่ใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น นายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการการเมืองที่ต้องปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม ขณะนี้เข้าข่ายต้องสงสัยว่ามีความผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองด้วยการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายอันเป็นการผิดตามประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองข้อ 6 (2) หรือไม่
นายสมชายกล่าวย้ำว่า น่าจะเป็นโอกาสดีที่ สส.พรรคฝ่ายค้าน หรือ สว. จะได้เร่งดำเนินการรวบรวมรายชื่อ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในแนวทางเดียวกัน
แต่เมื่อนักข่าวถาม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้าน ได้กล่าวแบบแทงกั๊กว่า “เป็นจุดยืนของเรามาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม รวมถึงกระบวนการที่สืบถอดมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการกลั่นแกล้งทางการเมือง ดังนั้น ที่ยังไม่ลงรายละเอียดมาก เพราะกำลังดูช่องทางที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ใช้กลไกที่เราไม่เห็นด้วย จึงต้องดูในรายละเอียดก่อน"
ถ้าอ้างว่ายื่นองค์กรอิสระตรวจสอบเป็นการสืบทอด คสช. แล้วรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็สืบทอดมาจาก คสช.ด้วย สส. สว.ชุดนี้ก็ต้องเป็นผลิตผลของ คสช.เช่นกัน ตรรกะดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น เพราะหากนายกฯ ทำผิด ก็ต้องเอาผิด ตามกฎหมาย ให้ได้
ทำให้เกิดคำถามว่า พรรคส้ม ต้องรอการตัดสินใจจากผู้นำจิตวิญญาณของพรรคก่อนหรือไม่ เพราะในช่วงจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า บินไปฮ่องกงเพื่อเจรจากับ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย หรือเรียกว่า ดีลฮ่องกง แต่ล่มเสียก่อน
ในช่วงท้ายการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ อิ๊งค์ ได้ตอบ นายณัฐพงษ์ ตอนหนึ่งว่า “ที่จริงไม่ใช่แค่ดิฉันที่ถูกกล่าวหาเรื่องการถูกครอบงำ ท่านเองก็ถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำเช่นกัน แต่ว่าต่างกันตรงที่ดิฉันถูกกล่าวหาถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ของท่านถูกครอบงำโดยคนที่ไม่ใช่พ่อ!"
"ในวันนี้เพื่อความชัดเจน และสร้างการเมืองแบบใหม่ ท่านก็ควรประกาศให้ชัดไปเลยว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พูดให้ชัดตั้งแต่วันนี้ ประชาชนก็จะได้เกิดความสบายใจ” นายกฯ อิ๊งค์กล่าวทิ้งท้าย
การทิ้งทวนของ นายกฯ อิ๊งค์-หัวหน้าพรรคแดง เท่ากับท้าทาย ณัฐพงศ์-หัวหน้าพรรคส้ม แต่ นายณัฐพงษ์ กล่าวสรุปอภิปราย กลับไม่กล้าเอ่ยถึงคำท้าทายของผู้นำพรรคแดงแต่อย่างใด?
ทั้งที่การยื่นญัตติซักฟอกครั้งนี้ ตอนแรกมีรายงานว่าจะยื่นซักฟอก รมต. 10 คน แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแผนยื่นซักฟอกล็อกเป้านายกฯ เพียงคนเดียว ชนิดถอนรากถอนโคน หวังผลให้นำไปสู่การยุบสภาเลือกตั้งใหม่
โดยตีตราเพื่อไทยผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับ กลุ่มอนุรักษนิยม กลายเป็น พลังเก่า เป็นกลไกเหนี่ยวรั้งความก้าวหน้าของสังคม สกัดการเปลี่ยนแปลง แล้วปลุกให้ประชาชนเลือกพรรคส้มแบบถล่มทลาย จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
ดังนั้นหากต้องการช่วงชิงมวลชนมาเลือกข้างพรรคส้มแบบถล่มทลาย ก็ต้องรุกฆาตนายกฯ-พรรคแดง ให้สุดซอย มิเช่นนั้นที่เคยโจมตีว่าเพื่อไทยมีดีลแลกประเทศ ดีลกับ ปีศาจ จะย้อนเข้าตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แม้พรรคแดงกับพรรคส้มจะปะทะกันทางความคิดอย่างเข้มข้น แต่ก็ไม่ได้แตกแยกทางอุดมการณ์ เพียงแต่มี ยุทธศาสตร์ แตกต่างกัน พรรคแดงมองว่า เดินตรงไปติดหล่ม ขอเดินอ้อมเพื่อให้ถึงเป้าหมาย ไม่ใช่ฝันถึงดวงดาว แต่ไปได้ไกลแค่ยอดมะพร้าว ขณะที่ พรรคส้ม เชื่อว่า ไม่มีอะไรฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงได้ กาลเวลายืนข้างพวกเรา
ยุทธการโรยเกลือ จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า ผู้บริหารพรรคส้ม จะเดินตามยุทธศาสตร์ของตัวเอง ไม่แอบดีลกับ ปีศาจ ยั้งมือรอฮั้วกับพรรคแดง ในสถานการณ์และเงื่อนไขทางการเมืองที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งรีบ ดันกม.เปิดบ่อน วางบิล-หาทุน ก่อนเลือกตั้ง?
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล จากพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดหลายรอบในช่วงหลายวันที่ผ่านมา วิปรัฐบาลพร้อมเปิดไฟเขียว ดัน ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่ให้มีกาสิโน เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาในสัปดาห์หน้า วันที่ 9 เม.ย. เพื่อให้ทันสภาเห็นชอบวาระแรกขั้นรับหลักการ ก่อนปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 11 เม.ย.
ปชน. ส่ง 'ณัฐกิตต์' ชิงเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ คาใจเคาะวันเลือกตั้งกระชั้นชิด
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 8 แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2-6 เมษายน และกำหนดวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 ว่า พรรคประชาชนจะส่ง
เสือปืนไว! ปชน. ชิงตั้งคณะทำงานสางปมแผ่นดินไหว จัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล
พรรคประชาชน ตั้ง 6 ทีมภารกิจย่อยติดตาม-ตรวจสอบเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นผู้ประสบภัย 'เท้ง' มองรัฐบาลเปิดให้ตรวจสอบเหตุอาคาร สตง. ถล่ม เป็นก้าวแรกที่ดี
ปชน. หวังรัฐบาลให้อภิปรายเรื่องแผ่นดินไหว ข้องใจเร่งผลักดันกม.กาสิโนเข้าสภาฯ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลเตรียมดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex เข้าสู่สภา
วิปฝ่ายค้าน ขวางรัฐบาลดันทุรัง นำกม.กาสิโนเข้าสภาฯ ชี้เร่งรีบผิดปกติ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประชุมเรื่อง