แบ่งเค้ก“กาสิโน”ลงตัว เร่งเชื้อไฟ-ท้าทายปชช.

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....หรือร่างกฎหมายกาสิโน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา

หลังวางแผนการเมืองให้ผ่านพ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. มิให้  “นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ตกเป็นเป้าโจมตีในเวทีซักฟอก จากเดิมที่ต้องการนำเข้า ครม.เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม เรื่อง เปิดบ่อนถูกกฎหมาย ผลักดันมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ก่อนมาสานต่อในรัฐบาลแพทองธาร ซึ่งถูกกระแสต้านมาตลอด   

 ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน ประชาสังคม นักวิชาการ รัฐราชการอย่างคณะกรรมการกฤษฎีกา สภาพัฒน์ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย 

โดยมองว่ากฎหมายกาสิโนไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล, ไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ อาจเป็นเพียงภาพลวงตาเศรษฐกิจ, ไม่สร้างงาน, ไม่แก้ปัญการพนัน และยังมีผลกระทบต่อสังคม ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์รวมอบายมุข ฯลฯ 

จึงเป็นเหตุให้ ครม.ต้องเจรจาไปและทบทวนไปด้วย พร้อมมอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตัวแทนของรัฐราชการ เป็นแม่งานรื้อร่างเดิมของกระทรวงการคลัง เพื่อตอบสนองความต้องการของหน่วยงานต่างๆ 

อาทิ เพิ่มอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้คู่กับนายกฯ จากเดิมที่นายกฯ รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้คนเดียว 

โดยมีหน้าที่และอำนาจเสนอแนะการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม.และแนวทางการกำหนดจำนวนใบอนุญาต และกำหนดพื้นที่ของกาสิโน 

เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็วางมาตรการเข้มงวด ป้องกันผลกระทบต่อคนไทย เช่น กำหนดคุณสมบัติผู้เข้ากาสิโนต้องมีบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน / หลักฐานชำระภาษีย้อนหลังไม่น้อยกว่า 3 ปี + ผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่ คกก.บริหารกำหนด

รวมถึงกำหนดกาสิโนมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดิน หรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร   

แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กฎหมายกาสิโนผ่าน คงไม่ใช่แค่ปรับเนื้อหาตามความต้องการของหน่วยงานต่างๆ หากผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้อหลังประเด็นนี้ยังไม่ตกลงลงตัว  

หลัง 4 ผู้มีอำนาจ ทักษิณ ชินวัตรนายกฯ อิ๊งค์ ผู้นำสีแดง และ “อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูใจไทย และ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้นำสีน้ำเงิน พบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา  

ท่ามกลางกระแสข่าว มีการพูดคุยกันเรื่องแบ่งเค้ก เรื่องอำนาจ หน้าที่ และกำหนดสถานที่ของกฎหมายกาสิโนลงตัวแล้วใช่หรือไม่    

มิเพียงเท่านั้น ยังต่อรองระหว่างกัน ให้ฝ่ายสีน้ำเงินได้ประโยชน์ เช่น ต่อสัญญาการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ “โมโตจีพี” ที่เมืองบุรีรัมย์ และมิให้เช็กบิลที่ดินเขากระโดงและปากช่อง  

เช่นเดียวกับที่ดินอัลไพน์ และโรงแรมที่เขาใหญ่ที่พรรคส้มกล่าวหาว่าบุกรุกที่ “ต้นน้ำลำธาร ถือเป็นชนักติดหลัง “ตระกูลชินวัตร ก็อาจไม่ถูกไล่บี้เช่นกัน 

 ฉะนั้นเมื่อ ครม.เห็นชอบแล้ว มิเพียงเท่านั้น ในสัญญาณไฟเขียว ยังส่งไปถึงการพิจารณาในสภาฯ โดยเชื่อว่า พรรคภูมิใจไทย จะยอมถอยหลังเคยแถลง 4 ปม ไม่เอากฎหมายกาสิโน ในยุค รัฐบาลเศรษฐา   

ดังเช่น “อนุทินให้สัมภาษณ์กล่าวกับสื่อ หลังถูกถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะขวางเรื่องนี้ในสภาฯ หรือไม่ ว่า “เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เราก็ได้พูดถึงข้อกังวลของเรา แต่เมื่อไม่ได้เกิดขึ้น มีการปรับรายละเอียดลงเยอะ 

ขณะที่ท่าที “พรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้เงา “ลุงตู่ ก็เป็นอีกพรรคที่สังคมอยากเห็นจุดยืน แม้ยังไม่มีท่าทีจัดเจน แต่ที่ผ่านมา สส.ก็ออกมาสนับสนุนเรื่องนี้    

เมื่อฝ่ายการเมืองเคลียร์กันลงตัวแล้วจะเอา “กาสิโนเกิดขึ้นในแผ่นดินไทยให้ได้         ฉะนั้นใครต้องการคัดค้าน ก็คงหวังพึ่งพลังจากภาคประชาชน ภาคนักวิชาการ ที่อยู่นอกสภาฯ เพื่อสร้างกระแสต่อต้านให้จุดติด 

หลังแกนนำ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โหมโรงปลุกม็อบหน้าทำเนียบฯ ยกระดับไล่รัฐบาล ว่า เหมือนเร่งเชื้อเพลิงให้ติดไฟ มอดไหม้ตัวเอง เพื่อขับไล่อุ๊งอิ๊งออกไป  โดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ ปคท.อ่านแถลงการณ์ว่า "การเร่งผลักดันอบายมุข เท่ากับเป็นการสร้างสิ่งมอมเมาให้ประชาชน มีแต่จะทำลายเกียรติ ทำลายศักดิ์ศรี ระบบนี้หมดตัว ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้บ้านอาศัยมากกว่า ทางกลุ่มจึงจำเป็นที่จะขับไล่รัฐบาลต่อไป..."

รวมถึงฝ่ายแค้นออกมาซัดว่า “ท้าทายประชาชนมากเกินไปแล้ว...แล้วเจอกัน     

เชื่อว่ารัฐบาลก็คงประเมินสถานการณ์เหล่านี้ไว้แล้ว และมั่นใจว่า...“เอาอยู่เช่นกัน!. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

ปชน.ลากไส้ กม.ยุคเพื่อไทยมีมารร้ายอยู่ในรายละเอียด!

'ชัยวัฒน์' โต้ 'เผ่าภูมิ' ยัน พรรคประชาชนอ่านกฎหมายชัดเจนทุกบรรทัด และมองระหว่างบรรทัดด้วย เพราะ 'มารร้ายอยู่ในรายละเอียด' ทุกวันนี้ทุนเทาเข้ายึดไทยเรียบร้อยแล้ว

‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้

คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568

แต่ละอย่าง! ฉก.นย.ตราด เข้าควบคุมพื้นที่บ่อนกาสิโนเขมร พบสิงโต–หมีถูกขังในกรง

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทหารนาวิกโยธินจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและต

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ