นาทีนี้ขุนพลเพื่อไทยอาจกำลังตื่นเต้น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใคร? ตัวเลือกคงมีให้เลือกอยู่ไม่กี่แนวทาง 1.ควานหาในตะกร้า พิจารณาจาก ส.ส.แกนนำในพรรค ใครพอมีแววดันขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ
2.คนนอก เลือกเฟ้นคนนอกที่มีคุณสมบัติเก่งเศรษฐกิจ มีภาวะผู้นำ โน้มน้าวให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แล้วดันเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
3.กลุ่มชินวัตรแฟมิลี่ มองซ้ายมองขวา ใครตอบโจทย์ตลาดการเมืองทั้งในพรรค นอกพรรค ดันขึ้นมาเลย
สัปดาห์ที่ผ่านมา งานเลี้ยง เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดหมู่บ้านเกศิณี ย่านเหม่งจ๋าย จัดงานเลี้ยงกลุ่ม ส.ส.เพื่อไทย งานนี้ว่ากันว่า แกนนำพรรค ส.ส.เพื่อไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มภาคอีสาน เดินทางไปร่วมงานจำนวนมาก
ในงาน เฮียเกรียง-เกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำกลุ่ม ส.ส.อุบลราชธานี-หนองบัวลำภู จุดพลุเสนอชื่อ หญิงอ้อ-คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค
ระบบบริหารงานพรรคเพื่อไทยแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น ที่จะแยกกลุ่มบริหารออกจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นคนละคน คนละชุด ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมี 3 รายชื่อ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ‘นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ‘นายชัยเกษม นิติสิริ’
เพื่อไทยเลือกที่จะแยกงานบริหาร ออกจากงานการเมือง เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุการเมือง จึงได้แยกหัวหน้าพรรคไม่ให้เป็นคนคนเดียวกับแคนดิเดตนายกฯ แต่ในรายชื่อของกลุ่มแคนดิเดตนายกฯ ณ เวลานั้น ขยับไปนั่งเป็น คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ถูกเปรียบเทียบเป็น โปลิตบูโร ที่มีอำนาจบริหารจัดการเหนือพรรค ในเวลาต่อมาแม้จะมีการปรับโครงสร้างบ้าง ปรากฏชื่อคุณหญิงอ้อ และคนสนิทเจ๊ ‘จ.’ ที่คนในพรรคต่างรับรู้กันว่าเป็นคนของคุณหญิงส่งมา
การประชุมครั้งสำคัญๆ อาทิ การกำหนดยุทธศาสตร์ชี้เป็นชี้ตายต่อทิศทางพรรค ถ้าไม่ปรากฏชื่อหญิงอ้อมาประชุมที่อาคารโอเอไอ ที่ทำการพรรค ก็จะมีเจ๊ จ.เข้าร่วมประชุมด้วยแทบทุกครั้ง และอาจด้วยเหตุนี้เองที่คนภายในต่างรับรู้กันเป็นอย่างดีว่า พรรคใคร เงินใคร ตึกใคร หากจะขยับบทบาท ‘จากข้างหลัง’ เอามาไว้ ‘ข้างหน้าเต็มตัว’ ก็ไม่เห็นแปลก
“เมื่อเสนอไปก็หวังให้เป็นเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นจะเสนอไปทำไม ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้ถูกเสนอชื่อและสมาชิกพรรคจะเลือกหรือไม่ เรื่องนี้นายทักษิณไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้เลือก เพราะตอนนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค” เฮียเกรียงออกมาย้ำอย่างหนักแน่น หลังปรากฏข่าวออกไป ที่เสนอไม่ใช่ กลอนพาไป แต่เอาจริง
ทว่าในแวดวงคนที่สัมผัสชินวัตรแฟมิลี่ ในการดันพจมานมากุมบังเหียนพรรค ไม่ว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โอกาสเป็นไปได้เป็นศูนย์ ปมการจุดพลุเสนอชื่อหญิงอ้อมาเป็นหัวหน้าพรรค หรือดันเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่ไม่เคยมี ในสมัยพรรคพลังประชาชน ที่อยู่ในช่วงการควานหาตัวหัวหน้าพรรค คุณหญิงพจมานเคยถูกหยิบยกกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งตอนนั้นหญิงอ้อไม่เอาเด็ดขาด
อาจจะถนัดในบทบาท ‘ควบคุมอยู่ข้างหลัง’ มากกว่า ‘ออกมานำพรรคเอง’
เมื่อลองมองลึกลงไป ทักษิณในฐานะนักธุรกิจการเมือง ย่อมมองขาดด้วยปัจจัยการเลือกตั้งครั้งหน้า ตัวเลือกที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยต้องตอบโจทย์ 3-4 ประการที่สำคัญ 1.สายตรง ไว้ใจได้ 2.เก่งเศรษฐกิจ 3.หน้าใหม่ในแวดวงนักเลือกตั้ง 4.ตอบโจทย์การตลาด การเลือกตั้งทั้งในพรรค นอกพรรค สามารถนำไปต่อยอด สร้างกระแสนิยมในตลาดการเมืองได้
เหมือนที่เคยผลักดัน น้องสาว ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาหาเสียงจนชนะเลือกตั้ง ในเวลาเพียง 49 วัน
ตัวเลือกในกลุ่มแรกควานหาจากตะกร้าคนในพรรค นาทีนี้คงมีเพียง ชัยเกษม นิติสิริ ที่คุณสมบัติดูดีมีภาษีกว่าคนอื่น ขณะเดียวกัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ยังเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงให้วกกลับมาได้ หากพ่ายแพ้เลือกตั้งในสนามผู้ว่าฯ กทม.
ในส่วนของแวดวงชินวัตรแฟมิลี่ว่ากันว่า หากลองแบ่งกลุ่มกองเชียร์ หญิงอ้อ-คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อาจจะสนับสนุน พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ลูกเขย หรือ บิ๊กอ๊อบ-พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มองต่างมุม สัมผัสถึงบรรยากาศผู้ถูกกระทำตั้งแต่ในยุคพี่ชายตัวเองให้ภาษีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ดูจะเหมาะสมกว่า
ในส่วนของ เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ คงอยากจะดัน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่นาทีนี้ไม่มีมลทินทางการเมือง สานฝันให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
ขุนพลเพื่อไทยเริ่มแพลมๆ แย้มไต๋กันออกมา สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เพื่อไทย ออกมาบอกว่า ‘หากเปิดมาเซอร์ไพรส์แน่’ ล่าสุด เฮียเสริฐ-ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ‘ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เราอยากจะรอเปิดเผยรายชื่อในช่วงใกล้วันเลือกตั้งทีเดียว รับรองว่าเป็นคนหน้าใหม่ถูกใจทั้งคนในพรรคและถูกใจประชาชนแน่นอน’
นายทักษิณบอกว่า “ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล
แต่ถ้าหวังบิ๊กเซอร์ไพรส์ เป็นทั้งคนหน้าใหม่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในพรรค นอกพรรค แถมยังมีดีเอ็นเอหัวก้าวหน้าแบบพ่อ เด็ดขาดเหมือนแม่ อาจต้องหวังพึ่ง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นพดล' ฟังทางนี้! 'หมอวรงค์' จับโป๊ะ คำชี้แจง 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ถึงนพดล ปัทมะ" โดยระบุว่า คำพูดของนายนพดล ปัทมะ ที่ชี้แจงพันธมิตรฯ เรื่อง MOU 44
พ่อบงการ ลูกตามสั่ง
“พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ผ่าน “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” คงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มีคำบัญชาผ่านเวทีต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ก็สนองนโยบายทันที โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะขาดความน่าเชื่อถือ และยำเกรงต่อกฎหมายมิให้คนนอกเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด”.
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
เทวดาแม้วของขึ้น! เปิดศึกขาประจำกว่า 10 คน รวม ‘แก้วสรร-แฝดน้อง‘
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “ทวีไอพี” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการ