จับตาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายกาสิโนในมือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลัง ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎหมาย ว่าจะตรงปกและเป็นไปตามความต้องการของฝ่ายการเมืองหรือไม่ และอีกหนึ่งมติคือ ข้อห่วงใยผลกระทบทางสังคมและปัญหาอบายมุขตามมา
ทั้งที่ก่อนหน้า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งข้อสังเกต 6 ประเด็น อาทิ ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา วัตถุประสงค์ของกฎหมายจะมุ่งท่องเที่ยวหรือแก้การพนัน เพราะมีผลต่อการออกแบบกลไกและโครงสร้างกฎหมาย รวมถึงเรื่องกฎหมายทับซ้อนเฉพาะที่ควบคุมอยู่ของหน่วยงานอื่น
ไม่ต่างกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่เห็นว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจรตามกิจกรรมที่กำหนดในบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่มีความเห็นเพิ่มเติม 4 ข้อ ดังนี้
1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยธุรกิจที่สุ่มเสี่ยง อาทิ กาสิโน ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็นเงินโอน จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.นี้เป็นลำดับแรก หากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ
4.ธุรกิจกาสิโนเป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม กระทรวงการคลังจึงควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจน และระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป
โดยสองหน่วยงานดังกล่าวถือเป็น “รัฐราชการ” ที่ออกมาตั้งข้อสังเกต โดยมี สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา จะต้องปรับปรุงร่างกฎหมาย จะนำความเห็นหน่วยงานต่างๆ มายกร่างกฎหมายให้เกิดประโยชน์กับประเทศสูงสุด ไม่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง และต้องรักษาสมดุลของงานการเมืองตามนโยบายรัฐบาล โดยมีสังคมและประชาชนฝากความหวังเอาไว้อยู่
แต่หัวใจหลักจะทำให้กฎหมายผ่านหรือไม่ น่าจะอยู่ที่ฝ่ายการเมืองว่าจะเห็นชอบ และจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์กันลงตัวหรือไม่
หลังก่อนหน้า พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ร่างกฎหมายยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ก็ผลักดันเรื่องนี้ แต่พรรคภูมิใจไทย แม้จะบอกว่าไม่ขวาง แต่กลับมีข้อสังเกต 4 ข้อไม่เอาด้วย เพราะเห็นว่าไม่สามารถแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ผลประโยชน์ต่อรัฐที่ยังไม่คุ้มค่า ไม่แน่ใจว่าจะกระตุ้นท่องเที่ยว และยังไม่มีเรื่องช่วยการจ้างงานคนไทย
กระทั่งมาสู่ยุครัฐบาล “แพทองธาร” ในหลักการก็ไม่มีพรรคไหนคัดค้าน โดยเฉพาะจากฝั่งพรรคภูมิใจไทย
แต่ได้เปลี่ยนเกมเล่น โดยให้กระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแล เข้าไปมีอำนาจร่วมในกฎหมายดังกล่าวนี้ควบคู่กับนายกฯ ที่ทำหน้าที่รักษาการร่าง พ.ร.บ.นี้
สะท้อนความเห็นตอนหนึ่งที่เสนอต่อที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ระบุว่า ไม่ขัดข้องในหลักการของร่าง พ.ร.บ. แต่สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้กระทบต่อภารกิจของ มท.ค่อนข้างมาก จึงอาจพิจารณาให้ รมว.มหาดไทยทำหน้าที่รักษาการร่วมในร่าง พ.ร.บ.นี้ และคงไว้ซึ่งหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจร
หากตีความเช่นนี้ก็แสดงว่า กระทรวงมหาดไทย ต้องการเข้าไปแชร์อำนาจผ่านกฎหมายฉบับนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า เดิมอำนาจเรื่องการพนันเป็นของกระทรวงมหาดไทย ผ่าน พ.ร.บ.การพนัน 2478 ที่สามารถดำเนินการเรื่องกาสิโนได้ แต่ที่ผ่านมาถูกพรรคเพื่อไทยดึงเอาอำนาจดังกล่าวออกไป
ในทางกลับกัน หากเลือกประนีประนอมอำนาจกัน อย่างเช่นอีกกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับพนันถูกกฎหมาย หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ออกมาส่งสัญญาณว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ครม.เห็นชอบหลักการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงมหาดไทย ไปร่วมกันร่างกฎหมายระดับรองขึ้นมาเพื่อทำการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เช่น การพนันบอลออนไลน์ เป็นต้น ขณะที่ รมต.ดีอีคาดว่าจะพิจารณากฎหมายแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
ฉะนั้นร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ผู้มีอำนาจของทั้งสองพรรคการเมืองตกลงจัดสรรอำนาจกันได้ลงตัวเช่นกฎหมายพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และยอมให้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปทำหน้าที่รักษาการร่วมในร่าง พ.ร.บ.กาสิโนตามที่ให้ความเห็นต่อที่ประชุม ครม.
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับปรุงกฎหมายออกมา และเข้าสู่การพิจารณา ครม.อีกครั้ง ก็เชื่อว่าผ่านฉลุย ไม่มีใครขวาง หรือไม่เข้าประชุม และนำไปสู่ชั้นการพิจารณาของ สส.และ สว.อย่างไม่มีปัญหา
เช่นเดียวกับท่าทีของฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้ขัดขวางตั้งแต่ครั้งที่สภาเห็นชอบ “รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร” เพื่อแก้การพนันผิดกฎหมายเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
แต่หากพรรคแกนนำรัฐบาลจะดึงดันตามความต้องการของตัวเอง โดยไม่ฟังเสียงใคร การพิจารณาร่างกฎหมายกาสิโนในสภาอาจไม่ราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่ถูก สว.สีน้ำเงินคว่ำร่าง และต้องพักการพิจารณาไป 180 วัน กระทบต่อการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปมมาตรฐานจริยธรรม ที่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลขวาง เป็นต้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขนลุก! บันทึกไว้ ครม.อิ๊งค์เห็นชอบ 'บ่อนกาสิโน' ตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 พอดี
กล้าทำต้องกล้ารับ การพนัน เป็นหนึ่งในอบายมุข 6 ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
ถ้าไม่ยอมเข้าคุกก็หนีต่อ! คำพิพากษาศาล ไม่เหนือกว่า พระบรมราชโองการ
คนบางคนคิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้าใหญ่คับบ้านคับเมืองพองตัวเป็นอึ่งอ่าง คุกสักวันก็ไม่ยอมติด
'โรม' แฉ 'จีนเทา' เคยบุกถึงสภาฯ ขายงาน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ห่วงฟอกเงินกาสิโนในไทย
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของฝ่ายค้านหลังจากที่ ครม.มีมติผ่านร่างพระร
เพจดังย้อนอดีต สถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงมองเห็นถึงพิษภัยของการพนัน แต่นักการเมืองทำตรงกันข้าม
เพจ ฤๅ - Lue History ซึ่งมีติดตามนับแสนคน โพสต์ข้อความกรณีรัฐบาลกำลังผลักดันให้มีกาสิโนว่าในขณะที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงมองเห็นถึงพิษภัยของการพนัน ที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ แม้จะสร้างรายได้จำนวนมากให้แ
'ทักษิณ' เร่งดันบ่อน! เชื่อผลสอบแพทยสภาหยุดผีเปรตพนันได้
ครม.เร่งดันบ่อนพนัน จ่อมอมเมาคนไทย ขอ ปชช.ร่วมสามัคคีคัดค้าน หวังแพทยสภา-ปปช.ไต่สวนป่วยทิพย์ชั้น 14 เสร็จเร็ว เชื่อเปลี่ยนการเมือง หยุด
หวั่นเวชระเบียน'ทักษิณ'จุดชนวน รพ.ตำรวจอึมครึม คปท.ยกระดับ!
ขีดเส้น 15 ม.ค.นี้ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ได้ส่งหนังสือถึง พล.ต.ท.นพ.นพศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ จัดส่งเอกสารทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เวชระเบียนการรักษาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กระทั่งออกจาก รพ.ตำรวจ โดยมี นพ.อมร ลีลารัศมี อดีตกรรมการแพทยสภา เป็นประธานอนุกรรมการสอบ