“เคยพูดครั้งหนึ่งว่าถ้านายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เคยพูดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้ว ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แน่นอนที่สุด ใครก็ตามทำอะไรไม่ถูกต้องกับบ้านเมืองจะมีปัญหา”
มีหลายส่วนในสังคม คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พ้นโทษออกมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
แต่ทำตัวเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของรัฐบาล อยู่เหนือกฎหมาย แม้จะมีกติกาข้อห้ามไว้ แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน เดินหน้าอย่างไม่เกรงกลัวใคร หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ในเรื่องล้มล้างการปกครองฯ และครอบงำพรรค ไม่ว่าจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ผ่านเวทีต่างๆ การกำหนดนโยบายที่สร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง และผลักดันนโยบายสุ่มเสี่ยงเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุน รวมทั้งยังแทรกแซงอำนาจปรับ ครม.
โดยเฉพาะการปราศรัยหาเสียงนายก อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาของ ทักษิณ ที่สะท้อนว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงเสียงจริง ทุกถนนการเมืองต้องมาจากตัวเอง
อาทิ ปราศรัยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ให้ความมั่นใจว่าปีหน้าปี 2568 เศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นการขายฝันให้ประชาชนแทนรัฐบาล เหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีเอง
เรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค. พอเสร็จแล้วจะโอนเงินให้คนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค.นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่หลายฝ่ายมองว่าหวังผลตกเขียวไปถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศในวันที่ 1 ก.พ. รวมถึงจะให้คนหนุ่มสาวเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่านดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด
ยังบอกว่า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่ เห็นตัวเลขแล้วทุบได้
ประกาศแก้ปัญหาค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่าง ทั้งที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบยังไม่ได้พูดอะไรเลย
นอกจากนี้ยังแถลงแผนงานรัฐบาลว่า ปีนี้ต้องทำงานหนัก เช่น ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง ปัญหา Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง และการผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 2568 รวมถึงการนำพนันใต้ดินให้ถูกกฎหมาย
นอกจากนี้ยังตอบคำถามเรื่องข่าวการปรับ ครม.ว่ายังไม่ปรับตอนนี้ หลังกระแสข่าวจะปรับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออก
"ทักษิณ" ก็ตอบกับสื่อว่า ยังทำงานกันได้ ยังไม่มีการปรับ ครม. ทั้งที่ก่อนหน้าเพิ่งออกมาบลัฟเรื่องลดราคาค่าไฟอยู่เลย ที่รัฐมนตรีพลังงานทำได้หน่วยละ 4.15 บาท รวมถึงพยายามกดดันให้ลาออกหลังออกมาด่ากราดเรื่อง “อีแอบ” หลังถือหางนายทุนพลังงานที่มีข่าวแตกหักกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
แต่อาจได้รับสัญญาณลับจากผู้มีอำนาจหนุนหลัง พีระพันธุ์ จึงทำให้ท่าที นายใหญ่ อ่อนลง ถือว่าเป็นการเสียมวยทางการเมืองมิใช่น้อย เพราะสุดท้ายได้แค่ขู่ฟอดๆ เท่านั้น
ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร ที่มีอำนาจบริหารแผ่นดินตามกฎหมาย ออกมาขานรับทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรัฐบาล และเรื่องการเมือง
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก แพทองธาร เปรียบดัง มะม่วงบ่มแก๊ส ถูกผลักดันมาขึ้นเพราะสถานการณ์การเมืองบีบบังคับ
ทั้งที่ความพร้อมในการทำงาน ความรู้ ความสามารถ และวุฒิภาวะ ยังตามมาไม่ทัน อย่างเช่นเรื่องการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมทั้งในโซนภาคเหนือและ ภาคใต้ ที่ล่าช้า ไม่กล้าตัดสินใจ จนกระทั่งเกิดดรามา สามีเป็นคนใต้ในที่สุด หลังถูกมองว่าไม่ใช่พื้นที่ของพรรคเพื่อไทย
หรือการแสดงวิสัยทัศน์ ตอบคำถามต่างๆ ก็อาจไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่สุดท้ายมักได้รับกระแสติดลบทุกครั้ง
รวมถึงผลโพล “นายกฯ” ก็แพ้พรรคส้ม แม้แต่ฟุตบอลระดับอาเซียน ทีมชาติไทยแพ้เวียดนาม ในโซเชียลยังโทษว่าเพราะนายกฯ เดินทางไปเชียร์ที่ขอบสนาม
จึงเป็นเหตุผลให้ “พ่อนายกฯ” ต้องออกโรงทำหน้าที่ สทร. หรือ “เสือกทุกเรื่อง” เพราะตัวเองถือว่ากระแสดีที่สุดในค่ายแดงแล้ว หวังฟื้นกระแสมวลชนและพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่เช่นพรรคไทยรักไทยในอดีต
ขณะที่ แพทองธาร ก็ยอมรับสภาพ เดินตามธงที่พ่อนายกฯ กำหนดไว้ หลังถูกถามรู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่พูดทั้งเรื่องนโยบายและเรื่องการเมือง มองเป็นการบดบังรัศมีหรือไม่ ว่า เข้าใจว่าทุกท่านเวลาที่พูดกันว่านายกฯ ตัวจริงบ้าง นายกฯ กี่คนบ้าง อะไรก็ตามที่แปลว่าหลายๆ นายกฯ ทุกอย่างที่ผ่านมาคือมันต่างตรงที่ว่า พอดีตนเองเป็นลูก ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน โตขึ้นมาในบ้านที่ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว
“นั่นก็คือการคุยกันหลังไมค์ก่อน และตัวดิฉันก็กำหนดไว้ว่าการให้สัมภาษณ์คือวันอังคารหลัง ครม.เท่านั้น พอนายทักษิณออกไปพูดคุยก่อนก็เป็นรอบที่ท่านได้พูดก่อน ก็ไม่เป็นไร เพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง และดิฉันไม่ได้กระทบอะไร ไม่ได้รู้สึกว่านายกฯ สองคน สามคน แล้วต้องเสียใจหรืออะไร” นายกฯ แพทองธารเปิดใจ
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลนี้จะมั่นใจด้วยจำนวน 320 เสียงของรัฐบาล ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่สามารถขึ้นเป็นคู่แข่งได้ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านก็มีสภาพอ่อนแอ จึงเชื่อว่าจะอยู่ครบเทอม
แต่ก็ต้องไม่ลืมปัจจัยภายนอก ทั้งอำนาจแฝงต่างๆ และกระแสจากประชาชนจะยินยอมให้ ทักษิณ ลุอำนาจเช่นนี้ต่อไปหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมของทักษิณ ที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว รวมถึงในเดือนเมษายนนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะได้กลับประเทศ บนคำถามจะติดคุกหรือไม่ แม้กฎหมายคุมขังนอกเรือนจำ รัฐมนตรียุติธรรมจะระบุว่า อดีตนายกฯ หญิงที่หนีคดีเพราะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการทุจริตจำนำข้าว จะไม่เข้าเกณฑ์ก็ตาม เพราะถูกสั่งจำคุก 5 ปี สุดท้ายจะมีอภินิหารอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
รวมถึงการปราศัยหาเสียง อบจ.ของนายใหญ่ ที่นำนโยบายรัฐบาลไปหาเสียงท้องถิ่น ที่ประธาน กกต.ออกมาเตือนว่ามีลักษณะ “ก้ำกึ่ง” ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะ ทักษิณ ไม่มีหน้าที่ อาจเข้าข่ายหลอกลวงให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 65 (5) โดยมีโทษอาญา และใบเหลืองหรือใบแดง
รวมถึงการปราศรัยสั่งรัฐมนตรี สั่ง ครม. ชี้นำได้ ก็มีโทษครอบงำพรรค ผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 มีโทษอาญา และยุบพรรคอีกด้วย ถือเป็นระเบิดเวลาอีกลูกหนึ่งเข้าไปเสริมคำร้องต่างๆ อีกมากมายที่อยู่ในมือองค์กรอิสระ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการออกนโยบายต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยงจะเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและกลุ่มทุนมากมายที่ ครม.แพทองธารจะต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการแก้สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน, การแก้ พ.ร.บ.ระบบราง หรือผลักดันกาสิโนถูกกฎหมาย แต่ใช้ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... บังหน้า ล้วนเป็นของร้อนที่อาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกไปก่อน หรือล้มไปทั้งกระดานทั้งหมด หากไม่ฟังความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอดรับกับ ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาเตือนว่า ไม่เคยอาฆาตแค้นนายทักษิณ
“เคยพูดครั้งหนึ่งว่าถ้านายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เคยพูดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้ว ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แน่นอนที่สุด ใครก็ตามทำอะไรไม่ถูกต้องกับบ้านเมืองจะมีปัญหา” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาเตือน
ด้วยการยอมรับสภาพของ “นายกฯ” เช่นนี้ ที่พร้อมเดินตามคำสั่งพ่อทุกฝีก้าว โดยที่ตัวเองไม่มีความสามารถที่จะคัดค้าน ดังนั้น หากสัญญาณการเมืองเปลี่ยน หรือประชาชนหมดความอดทน ก็อาจมีชะตากรรมไม่แตกต่างจากนายกฯ ตระกูลชิน และนอมินีคนอื่นๆ ในระบอบทักษิณ ที่จบไม่สวยสักราย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วรชัย' พูดเต็มปาก! 'ชวน' ไม่ควรว่าทักษิณ ถ้ายังกวาดบ้านตัวเองไม่สะอาด
นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำนองว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง
'พิธา' ให้สัมภาษณ์งานแต่งข้ามขั้ว ครม.ครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมงานพิธีสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปางพรรคเพื่อไทย และนางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง พรรคประชาชน
ชื่นมื่น! 'ทักษิณ-พิธา' ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง เพื่อไทย-ประชาชน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร
ประธาน กกต. ไม่ฟังธง 'ทักษิณ' ช่วยหาเสียงชูนโยบายรัฐบาลเกินอำนาจ อบจ. ผิดหรือไม่
"อิทธิพร" เผยบัตรเลือกตั้งอบจ. เตรียมส่งถึงทั่วประเทศ เตือนผู้สมัคร หลีกเลี่ยงให้เงินแตะเอีย-สิ่งของในช่วงตรุษจีน
'สุริยะ' ชี้ 'วิโรจน์' พูดให้ดูดี ไม่สนนามสกุลเดียวกับ 'ธนาธร' ก็จะตรวจสอบ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่าเตรียมจองคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจกระทรวงคมนาคมว่า เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบรัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องปกติ
'ครูหยุย' แนะรัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ เป็นของขวัญวันเด็ก แทนให้คำขวัญ
'ครูหยุย' แนะรัฐบาลเปลี่ยนจากให้คำขวัญวันเด็ก เป็นมอบของขวัญที่มีค่า ประกาศเจตนารมณ์ 'ไม่โกง-ซื่อสัตย์สุจริต-ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเด็ก'