หลังมีข่าวมาร่วมเดือนว่า สปก.-ตำรวจ รวมถึง ปปง.จะมีการดำเนินคดี เซเลบคนดัง-หวานใจบิ๊กการเมือง แต่ที่ผ่านมาก็เป็นแค่กระแสข่าวที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าออกมา จนถูกมองว่าเหมือนกับการออกข่าวเพื่อขู่ทางการเมืองว่าจะมีการ ทุบกล่องดวงใจ บิ๊กเนมการเมือง อดีตรองนายกรัฐมนตรี
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะฝ่ายการเมืองต้องการรอดูผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีที่มีการร้องว่า ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง เพื่อรอดูจังหวะทางการเมืองก่อน และเมื่อผลออกมา ศาล รธน.ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา กระแสข่าวเตรียมเช็กบิลหวานใจบิ๊กการเมืองก็กลับมาอีกระลอก และรอบนี้ถึงขั้นมีการการันตีจากบิ๊กตำรวจมือสอบสวนคนดังของวงการสีกากีเสียด้วย ว่ากำลังมีการสอบสวนเตรียมเอาผิดหวานใจบิ๊กการเมืองจริง
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาตอกย้ำเรื่องนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงกระแสข่าว หวานใจอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตรุกที่ดิน ส.ป.ก.ว่า เรื่องนี้ตำรวจได้ทำร่วมกับ ป.ป.ช.และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) รวมถึง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะทำงาน ทีมงานฝ่ายการเมืองของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ไปสืบสวนกรณีไร่ภูนับดาว จังหวัดสระบุรี
“ตรวจสอบดูแล้ว พบว่ามีการทุจริตในหน้าที่จริง ในการออกเอกสารสิทธิ โดยมีข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงเริ่มตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังทราบว่าบริษัทที่ตรวจสอบ มีเส้นเงินไปถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่งประมาณ 10 ล้านบาท เส้นเงินนี้เชื่อมไปถึงบุคคลใกล้ชิด ที่เรียกว่า หวานใจ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สนิทสนมกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ด้วย
จะต้องออกหมายเรียกมาสอบสวน หรือออกหมายจับ หรือออกหมายจับเพื่อให้มาชี้แจงว่าเส้นเงินนี้ เป็นเงินเกี่ยวกับเรื่องอะไร เพราะการตรวจสอบมีการโอนไปครั้งละ 5 ล้านบาท จนครบ 10 ล้านบาท ตอนที่เงินไหลออกไป เป็นช่วงที่พรรคการเมืองที่มีชื่อบุคคลท่านนี้กำลังมีอำนาจ ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้ง หรือทำร้ายกัน” บิ๊กเต่าระบุ
สำหรับการตรวจสอบรีสอร์ตหรู-ไร่ภูนับดาว จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 29 พ.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
โดยวันดังกล่าว “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์-ทีมงานการเมืองหน้าห้องธรรมนัส ที่สวมหมวกประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน” นำเจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงาน คือ ส.ป.ก.สระบุรี-ดีเอสไอ-ปปง.-ปปท.และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) บุกตรวจ “ไร่ภูนับดาว” ที่อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี โดยทีมเข้าตรวจสอบอ้างว่า พบมีการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีการเปิดเป็นรีสอร์ตที่พักทำลานกางเต็นท์ สร้างร้านอาหารและทำคาเฟ่หรู จากนั้นก็มีการสั่งให้เพิกถอน แล้วเรื่องก็เงียบไป
จนต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มาเป็นรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร แต่กลุ่มธรรมนัสยังมีบทบาทในรัฐบาลหลังแตกหักกับกลุ่มป่ารอยต่อของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยกลุ่มธรรมนัสได้โควตารัฐมนตรีคุม ก.เกษตรฯ ทั้งหมด จนส่งคนของตัวเองไปเป็นรัฐมนตรี ก.เกษตรฯ ถึง 3 คน โดยมี ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.เกษตรฯ
ท่ามกลางกระแสข่าวรอยแค้น-การเอาคืนทางการเมือง ระหว่างฝ่ายทักษิณกับกลุ่มธรรมนัส กับขั้วอำนาจเก่า 3 ป.ยังไม่จบ เพียงแค่เตะพรรคพลังประชารัฐออกไปเป็นฝ่ายค้าน
แล้วจากนั้นก็มีข่าวลือ-กระแสข่าวเตรียมเช็กบิลหวานใจบิ๊กเนมการเมืองออกมาเป็นระยะ จนเมื่อสุดท้าย ทักษิณ-เพื่อไทยติดปีก ไม่มีคดีที่ศาล รธน. มันก็เริ่มเกิดกระแสข่าวเรื่องเตรียมเช็กบิลหวานใจบิ๊กเนมการเมืองเกิดขึ้นมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ความเคลื่อนไหวและการให้สัมภาษณ์ของ “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-ประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนักเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบอกว่า หลังมีการเข้าตรวจไร่ภูนับดาว ต่อมาปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรีขอย้ายตัวเองไปอยู่พื้นที่อื่น อ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ต่อมา ปฏิรูปที่ดินคนใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทนแล้ว ยังมีการให้รีสอร์ตทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดิน แทนที่จะดำเนินคดี จึงได้นำเรื่องแจ้ง รมว.เกษตรฯ จนมีคำสั่งย้ายปฏิรูปที่ดินคนดังกล่าวออกจากพื้นที่
“การตรวจสอบรีสอร์ตแห่งนี้อย่างละเอียด จนไปพบว่ามีการเปิดบริษัทเป็นทางการ มีกรรมการบริษัท 1 คน 1 ใน 3 คนนั้นคือนักธุรกิจชื่อดัง เป็นผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวกับการเงิน และพบว่ามีเงินจากบริษัทภูนับดาวโอนเข้านักธุรกิจชื่อดังคนนี้ จึงเชื่อว่าเป็นตัวการหลักในการทำรีสอร์ตดังกล่าว และที่สำคัญในการตรวจสอบทางลับ พบว่ามีหญิงสาวคนสนิทกับอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งเข้าๆ ออกๆ บริษัทแห่งนี้บ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้อง จนไปพบเส้นทางการเงินที่ถูกโอนจากบริษัทของนักธุรกิจผู้บริหารรีสอร์ต เข้าบัญชีของหญิงคนสนิทอดีตรองนายกฯ เป็นจำนวน 5 ครั้งในวันเดียวกัน ครั้งละ 2 ล้าน รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท ส่งข้อมูลไปให้กับ ปปง.เพื่อดำเนินการต่อไป เชื่อว่าในเดือนหน้าจะมีข่าวใหญ่ระดับบิ๊กแน่นอน” ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวพีพีทีวีไว้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยแม้ตัวธนดลจะยืนกรานว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเอาคืนทางการเมือง แต่ในทางการเมือง มันก็ยากที่จะไม่ให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เป็นทีมงานการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส สมัยเป็น รมว.เกษตรฯ โดยไปช่วยงานการเมือง มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรฯ-รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาคราช โฆษกหน่วยเฉพาะกิจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยบทบาทที่ผ่านมา เวลามีใครให้สัมภาษณ์หรือเคลื่อนไหวพาดพิงธรรมนัส ตัวธนดลก็จะออกมาชี้แจง และเป็นคนไปลงบันทึกประจำวัน-แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาททันที
ส่วนว่าหวานใจบิ๊กเนมการเมืองคนดังกล่าวคือใคร เรื่องนี้ รู้กันในแวดวงการเมืองมาเป็นเดือนแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเอ่ยชื่ออะไรออกมา
แต่ที่น่าสนใจคือ คำให้สัมภาษณ์ของ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ-หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่ก็คือ พรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มธรรมนัส” โดยตัว ดร.นฤมลนั้นเป็นอดีตแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ร่วมตั้งแต่ก่อตั้งพรรค และเคยมีบทบาทเป็นอดีตเหรัญญิกพรรค ที่คุมเรื่องการเงินทั้งหมดของพรรค
ปรากฏว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนเอาเรื่องนี้ไปถาม “ดร.นฤมล-รมว.เกษตรฯ” ซึ่งก็ตามสไตล์ เพราะเป็นของร้อน ทำให้ รมว.เกษตรฯ พยายามชิ่ง โดยบอกว่ายังไม่ได้รับรายงาน และไม่ได้รับผิดชอบสำนักงาน ส.ป.ก. เพราะมอบให้ อิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตฯ รับผิดชอบ
จากนั้นสื่อก็แย็บหมัดตรงถามชัดๆ ว่า รองนายกรัฐมนตรีที่มีการพูดถึงอาจเชื่อมโยงไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ งานนี้ทำเอา อดีตวีไอพีบ้านป่าฯ คงอึ้ง ที่เจอถามแบบนี้ เลยชิ่งบอกว่า "ยังไม่เห็นรายงาน และไม่ได้ดูอะไรเลยด้วย"
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าหากใช่ พล.อ.ประวิตรจริงๆ มีความกังวลหรือไม่ เพราะเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน รมว.เกษตรฯ ตอบว่า “ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ เพราะยังไม่ได้รับรายงาน”
ฉากไคลแมกซ์ของเรื่องนี้ จะออกมาเมื่อใดและจบแบบไหน ต้องติดตาม แต่ดูแล้วหากมีการทุบกล่องดวงใจบิ๊กการเมืองคนดังกล่าวแบบหนักๆ มันคงยิ่งตอกย้ำ แค้นฝังลึก ฟอเรสต์ โฮม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ม็อบการเมืองจุดติด-ไม่ติด อยู่ที่พฤติกรรม การกระทำ ผู้นำประเทศ-พรรคร่วมรัฐบาล
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อศุกร์ที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีการตั้ง คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ไทย-กัมพูชา
คดีฉ้อโกงพุ่งรายวัน จนท.รัฐอืด! เปิดหลุมเหลือบเรียกรับผลประโยชน์
หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนรัฐบาลคือ “เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว
ปักหมุด‘ครม.สัญจร’เชียงใหม่ กู้ศก.-ฟื้นท่องเที่ยวหลังภัยพิบัติ
ประเดิมนัดแรก “ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่” หรือ “ครม.สัญจร” ของรัฐบาล “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดตระกูลชินวัตร
ตั้งแท่นงบฯเรือฟริเกตทร. จับตาเกมเตะถ่วง"เรือดำน้ำ"
แม้กระแสข่าวเล็กๆ ที่สร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้กับกองทัพเรือ (ทร.) ว่ารัฐบาลอาจจะไฟเขียวเดินหน้า “เรือดำน้ำจีน” ต่อไป หลังจาก “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม
ติดสลักกม.ประชามติ รธน.ใหม่ส่อลากยาว
สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ที่จะใช้สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย โดยให้ยึดเสียงข้างมาก 2 ชั้น กล่าวคือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และ 2.ต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา