แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
กระนั้น ชนักติดหลัง-คดีความทางการเมือง ของทักษิณก็ยังมีอยู่ เช่น การที่ปัจจุบันทักษิณมีสถานะตกเป็นจำเลยในคดีที่ถูกอัยการสูงสุดยื่นฟ้องเอาผิดมาตรา 112 จากกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ ขณะหนีคดีอยู่ต่างประเทศ
พบว่าคดีดังกล่าว ศาลอาญาได้นัดสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย รวม 7 นัด โดยฝ่ายโจทก์ (อัยการ) ในวันที่ 1, 2 และ 3 ก.ค.2568 จากนั้น นัดสืบพยานฝ่ายจำเลย (ทักษิณ) ในวันที่ 15, 16, 22 และ 23 ก.ค.2568 และมีการคาดหมายว่า ศาลอาญาอาจจะนัดอ่านคำพิพากษาหลังเสร็จสิ้นการสืบพยาน 7 นัดรวด ในช่วงไม่เกินสิ้นปี 2568 หรือช้าสุดคงไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2569
ผลจากคดี 112 ดังกล่าว ที่เห็นผลเลยตอนนี้ก็คือ ทำให้ทักษิณเดินทางไปต่างประเทศได้ยากลำบาก เพราะต้องยื่นขออนุญาตต่อศาลอาญาทุกครั้ง
อย่างก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทักษิณเคยยื่นขอเดินทางไปดูไบ-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาแล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต โดยตอนนั้นลือกันว่า ทักษิณน่าจะต้องการบินไปเจอกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ขณะเดียวกันก็ยากที่พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยพ่วงให้ล้างผิดคดี 112 ที่จะทำให้ทักษิณได้รับอานิสงส์ด้วย เพราะอาจสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดกระแสต่อต้าน จนเกิดม็อบมาขับไล่-กดดันรัฐบาลลูกสาวตัวเอง แพทองธาร ชินวัตร ซ้ำรอย รัฐบาลน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ทักษิณคงไม่อยากเสี่ยง แล้วไปใช้วิธีสู้คดี 112 ไปจนถึงที่สุด
แล้วก็ยังมีเรื่อง ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ของทักษิณ ชินวัตร ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าจะสร้างความกังวลใจ-ความรำคาญใจให้กับทักษิณ ที่บางฝ่ายยังคงไม่เลิกรา ยังคงเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการที่มีข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พยายามเร่งการพิจารณาเรื่อง ที่มีคนหลายกลุ่มร้องให้ไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เรื่องทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว โดยเฉพาะการไปอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจนานถึง 6 เดือน ท่ามกลางข่าวว่า อย่างน้อยที่สุดมีกรรมการ ป.ป.ช.บางคนพยายามจะเร่งให้มีการชงผลตรวจสอบเบื้องต้น ให้ที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเรื่องดังกล่าวให้ทันก่อนสิ้นปีนี้ ก่อนที่กรรมการ ป.ป.ช. 2 คน จะพ้นจากตำแหน่ง เพราะอยู่ครบวาระคือ วิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธาน ป.ป.ช. และสุวณา สุวรรณจูฑะ
ลือกันมาก่อนหน้านี้ว่า กรรมการ ป.ป.ช.บางส่วนเกรงว่า หลังกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 2 คนพ้นวาระไปในช่วง 30 ธ.ค.นี้ โดยต้องพ้นจากตำแหน่งทันที ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ป.ป.ช.คนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน แล้วมีการเลือก ป.ป.ช.ใหม่มา 2 คน ที่คณะกรรมการสรรหาที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ซึ่งแม้กรรมการสรรหาจะเลือกรายชื่อมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องส่งชื่อไปให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบันเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ที่ส่วนใหญ่เป็น สว.สีน้ำเงิน ซึ่งอาจทำให้มีการเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบของ สว.ต้องโหวตตามที่ฝ่ายการเมืองส่งสัญญาณมา จนทำให้ สามารถกำหนดตัวบุคคลมาทำหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ แล้วสุดท้ายจะได้ ป.ป.ช.ใหม่ 2 คน ที่เป็นคนของฝ่ายการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ จนไปช่วยปัดตกการตรวจสอบเรื่องชั้น 14 ไม่ให้มีการขยายผลหรือชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อตัดตอนไม่ให้โยงถึงทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้คนในตึก ป.ป.ช.ตอนนี้ยังหวังว่า อย่างน้อยก็ให้มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ ให้ได้ภายในก่อนสิ้นปีนี้ก็ยังดี
ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านโดย พรรคประชาชน ก็ปรากฏว่าออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจในช่วงนี้ ทั้งที่เรื่องผ่านมานานแล้ว โดยเคลื่อนไหวผ่านคณะกรรมาธิการความมั่นคง ที่มีรังสิมันต์ โรม แกนนำพรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ. รับบทหัวหอกในเรื่องนี้ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า พรรคประชาชนทำเรื่องนี้จริงหรือไม่ หรือว่าเพียงแค่สร้างกระแสในช่วงก่อนการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.อุดรธานี ที่ทักษิณเข้าไปช่วยพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มตัว พอเลือกตั้งที่อุดรธานีจบ ก็ผ่อนเกียร์ลง แต่ก็มีการประเมินว่า สาเหตุที่พรรคประชาชนมารุกไล่ตรวจสอบ-ขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวโยงกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องชั้น 14 น่าจะเป็นเพราะพรรคประชาชนต้องการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปสู่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในสมัยประชุมหน้าที่จะเปิดสมัยประชุมตั้งแต่ 12 ธ.ค.2567 โดยอาจพุ่งเป้าอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แล้วกระทบชิ่งไปถึง แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ-ทักษิณ ชินวัตร
อีกทั้งยังมีกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการออกข่าวว่า กกต.มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้นกรณีมีผู้ร้องให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องทักษิณเข้าครอบงำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดตั้งรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวของ กกต.ที่ออกมาในช่วงหลังธีรยุทธไปยื่นศาล รธน.และช่วงก่อน ศาล รธน.จะไม่รับคำร้องคดีดังกล่าวเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อศาล รธน.ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ก็อาจทำให้ กกต.ก็อาจยุติเรื่อง ไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
กระนั้นล่าสุด ท่าทีจากฝ่าย กกต.ยังคงขึงขังจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป แม้ต่อให้ศาล รธน.จะไม่รับคำร้องคดีนายธีรยุทธ ที่มีการร้องประเด็นว่า ทักษิณเข้าครอบงำพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็ตาม
โดย แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง-นายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการใช้เสรีภาพ เฉพาะมาตรา 49 ที่เขียนว่าการใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างทำไม่ได้ เสรีภาพถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ นั่นคืออำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ นายทะเบียนหรือ กกต.พิจารณาสิ่งที่กฎหมายห้ามกระทำของพรรคการเมือง จะต่างกัน
“จึงไม่เกี่ยวกันเลยทั้ง 2 เรื่อง ข้อมูล ข้อเท็จจริงอาจเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ว่าเราถือกฎหมายคนละฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญว่า การใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเพื่อเป็นการล้มล้าง แต่ กกต.หรือนายทะเบียนจะพิจารณาว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคหรือไม่
ผมยกตัวอย่างครั้งที่แล้ว ที่นายทะเบียนไม่รับเรื่องของพรรคก้าวไกลไว้พิจารณา กฎหมายบอกว่าไม่รับไปดำเนินการ แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้ มีนักข่าวมาถามว่าทำไม กกต.ไม่รับ เพราะกรณีนั้นเป็นกรณีใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ กกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปพิจารณาเรื่องเหล่านั้น เกินขอบอำนาจของ กกต. กกต.ไม่ได้เข้าไปพิจารณาในเนื้อหา แต่ไม่รับไว้ดำเนินการเพราะไม่อยู่ในเขตอำนาจเรา แต่กรณีหลังมีคนมาร้องว่า มีพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมือง นายทะเบียนก็รับไว้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จะเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน” เลขาธิการ กกต.ระบุ
ทั้งหมดข้างต้นคือชนักติดหลังการเมือง-คำร้อง-คดีความ ที่เหลืออยู่ของทักษิณ ที่โยงถึงพรรคเพื่อไทยในบางเรื่อง มันก็เลยทำให้ทักษิณยังหายใจไม่ทั่วท้องได้เต็มที่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
'นันทเดช' ลั่น! อย่ากลัว 'ทักษิณ' จะใหญ่โตไปกว่านี้
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ อย่ากลั
'ทวี' ยันให้ข้อมูลความจริงที่ไม่มีกฎหมายห้าม ใครเห็นต่างก็หาหลักฐานมาหักล้าง ปมทักษิณชั้น 14
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
'เด็จพี่' ได้ทีจวกเหล่านักร้อง ทำให้เกิดความปั่นป่วน ขู่เมื่อร้องผิดคีย์ต้องโดนลงโทษ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยอ้างว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้าง
'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง
ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ