แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

ทำสมรภูมิช่วงนี้ร้อนระอุ ไม่ว่าจะพรรคสีส้มหรือพรรคฝ่ายรัฐบาล ต้องงัดทุกกลยุทธ์ทุกรูปแบบออกมาเพื่อช่วงชิงคะแนนให้ได้มากที่สุด ประจวบเหมาะรัฐบาลเพื่อไทยของ นายกฯ อิ๊งค์”-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปล่อยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในช่วงนี้ และจะมีผลพอดีในห้วงเวลาวันประชาชนเข้าคูหาเลือกนายก อบจ.

โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุม นัดแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบ แจกเงินสด 10,000 บาท เฟส 2 โดยรอบนี้จะแจกให้เฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ได้เป็นผู้ที่รับเงินหมื่นในเฟสแรก และได้ลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชันทางรัฐ สำเร็จ

มีการตรวจสอบสิทธิ์ครบถ้วน รวมทั้งหมด 4 ล้านคน ใช้งบดำเนินการ 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายได้ไม่เกินช่วงตรุษจีนปี 2568 หรือไม่เกินวันที่ 29 มกราคม 2568

ส่วนเฟส 3 สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ที่ไม่ใช่อายุ 60 ปี รัฐบาลโปรยยาหอมแล้ว จะแจกแน่เป็นเงินดิจิทัล คาดแจกได้ช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 หรือเดือนเมษายน-มิถุนายน สอดคล้องกับแอปทางรัฐที่จะใช้งานได้ในช่วงดังกล่าว ขณะที่กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนร่วมโครงการได้เร็วๆ นี้

จากมาตรการดังกล่าวทำให้มีเสียงวิจารณ์และการตั้งคำถามเกิดขึ้นว่า มาตรการแจกเงินที่ออกมาใกล้วันเลือกตั้งนายก อบจ. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือแค่เรียกคะแนนนิยมกันแน่?

โดย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคำถามถึงนโยบายนี้ว่า

การแจกเงินในช่วงตรุษจีนแบบนี้แทนที่จะเป็นนโยบายเพื่อช่วยผู้สูงอายุ กลับกลายเป็นนโยบายที่มุ่งสร้างอานิสงส์ทางการเมือง เพราะเพียงอีกไม่กี่วันก็ถึงการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้สมัครในนามรัฐบาลหรือมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลย่อมได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันคู่แข่งกลับไม่มีทรัพยากรในระดับเดียวกันที่จะสร้างความได้เปรียบเช่นนี้

นอกจากนี้ยังมีเสียงติงและเสียงเตือนจากฝ่ายวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ ที่มองว่าการแจกเงินหมื่นในกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี อาจผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เช่น มาตรา 9 คณะรัฐมนตรีต้องรักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัดในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายการคลัง การจัดทำงบประมาณ การจัดหารายได้ การใช้จ่าย การบริหารเงิน การคลัง และการก่อหนี้

คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่เงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ

อีกทั้งโครงการดังกล่าวต่างจากโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่โครงการตามที่หาเสียงไว้ แต่เป็นการเฉไฉเป็นแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความนิยม และเฟส 2 นี้ไม่ใช่แจกในกลุ่มเปราะบาง ทั้งยังต้องระวังผลเป็นการมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ขณะเดียวกันรัฐบาลยังเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหา หนี้ครัวเรือนผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ โดยพักชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลูกหนี้ที่มีหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี นาน 3 ปี โดยจะครอบคลุมลูกหนี้กลุ่มสำคัญ คือ กลุ่มที่มีหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ และหนี้จากการบริโภค คิดเป็นมูลหนี้รวม 1.2-1.3 ล้านล้านบาท ส่วนเงินต้นอาจพิจารณาให้ลดการจ่ายเงินต้น เพื่อให้ลูกหนี้มีระยะเวลาการจ่ายหนี้ให้นานขึ้น ถือเป็นการเพิ่มกำลังซื้อในแต่ละเดือนให้มากขึ้น

และยังมีมาตรการช่วยชาวนา หลังมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแจกเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท โดยได้เห็นชอบหลักการช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านโครงการ จ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงการคลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปต่อไป โดยเรื่องนี้คาดว่าจะทำให้ทันเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่

ส่วนมาตรการระยะยาวต่อเนื่องที่วาดฝันไว้ ภายในปี 2568 รัฐบาลจะหาทางปรับโครงสร้างการเกษตรทั้งระบบใหม่ให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น พร้อมการจัด Zoning การเกษตร และมาตรการยกระดับการเกษตรให้ทันสมัยผ่านเทคโนโลยีด้านการเกษตร นำมาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์

ท่ามกลางเสียงเตือนในทุกมาตรการที่รัฐออกมาในห้วงของศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.ครั้งนี้ ไม่ว่าจะด้วยความประจวบเหมาะ หรือแฝงนัยโกยคะแนนแบบแนบเนียนก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่แม่ทัพหญิงอย่างนายกฯ อิ๊งค์ต้องพึงระวังผลลัพธ์ให้มากที่สุด!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน

ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด

นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย