โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้

นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า ผลการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.อุดรธานี ที่จะเลือกตั้งกันวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ใครจะเข้าวินกำชัยชนะ หลังการขับเคี่ยวหาเสียงกันมาแบบดุเดือดเข้มข้นมาร่วมเดือนเศษ ระหว่าง

 “ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกฯ อบจ.พรรคเพื่อไทย” กับ "คณิศร ขุริรัง" ผู้สมัครนายกฯ อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน”
 ลำพังแค่การแข่งขันในพื้นที่ก็เข้มข้น-ดุเดือดอยู่แล้ว แต่เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยกทัพใหญ่ไปช่วยหาเสียงให้ศราวุธเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ยกทัพหลวง ที่มีทั้งอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล-พรรคอนาคตใหม่ รวมถึงแกนนำพรรคประชาชน ไปตรึงพื้นที่เรียกคะแนนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศุกร์-อาทิตย์ 15-17 พ.ย.

มันก็ยิ่งทำให้ศึกเลือกตั้งนายกฯ อบจ.อุดรธานีที่เป็นการเมืองท้องถิ่น เลยถูกยกระดับกลายเป็น

ศึกศักดิ์ศรี-เดิมพันการเมืองระดับชาติ

 นัดสำคัญระหว่าง ทักษิณ-เพื่อไทย กับพิธา, เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคประชาชน ที่เปิดหน้าแลกกันแบบหมัดต่อหมัด ชนิดอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล ก่อนจะมาเป็นพรรคประชาชนในเวลานี้ จากที่ไม่เคยแตะ-ไม่เคยตรวจสอบทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยแบบดุๆ มาเลยร่วมปี ยังของขึ้น หลังโดนทักษิณเสียบไปหลายดาบ บรรดาแกนนำพรรคส้มเลยฟาดคืน ทั้งตีเข่าและศอกกลับไปจังๆ หลายดอก   

เช่น คำปราศรัยของ “ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล-อดีตผู้นำฝ่ายค้าน” บนเวทีหาเสียงที่อุดรธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พ.ย.

ซึ่งในช่วงหนึ่ง “ชัยธวัช” กล่าวถึงกรณีที่ทักษิณพาดพิงถึงอดีตพรรคก้าวไกลว่า วันนี้ตั้งใจมาหาเสียง ไม่อยากจะมาหาเรื่อง แต่ไม่กี่วันก่อนอดีตนายกฯ ให้เกียรติพูดถึงพวกผมหลายเรื่อง จึงขอพูดบ้าง

 “ไม่พูดไม่ได้ เพราะฟังนายทักษิณแล้วมันคันหัวใจ ที่บอกว่า “เกลียดพวกพ่อค้ายามาก ถ้าเจอจะเรียกมา” จึงถามว่าเรียกมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ พ่อค้าแป้งยังเป็นรัฐมนตรีได้ นักการเมืองที่อยู่ในพรรคร่วมท่าน ใครที่มีเอี่ยวกับทุนเทา บ่อนพนัน ยาเสพติด จัดการให้หมดเด็ดขาด ทำไมไม่ทำ และยังดูถูกพี่น้องชาวอุดรธานี และน่าสงสัยว่าจะจัดการปัญหายาเสพติด และไว้ใจได้อย่างไร ในเมื่อภรรยาของว่าที่ผู้สมัคร อบจ.ยังมีหุ้นกับนายตู้ห่าวอยู่เลย”

เรียกได้ว่า เป็นคำปราศรัยที่เรียกเสียงซี้ดปากจากแวดวงการเมืองอย่างมาก ที่คนในเครือข่ายพรรคส้มลุกขึ้นมาฟาดปากกับทักษิณ และไถลไปถึงนักการเมืองคนดังภาคเหนือ รวมถึงคำปราศรัยของพิธา และณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่เวทีปราศรัยใหญ่หนองประจักษ์ อำเภอเมือง ก็ทำเอาแวดวงการเมืองครางฮือกันไม่น้อย!

ถึงขนาดบางคนเรียก “นิวเท้ง” เพราะเท้ง-ณัฐพงษ์ เปลี่ยนไป รอบนี้มาดุ

มันเลยยิ่งเพิ่มอุณหภูมิการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.อุดรธานี ให้ร้อนระอุในช่วงต้อนรับลมหนาวได้มันส์ยกร่องจริงๆ 

ว่ากันตามสภาพในพื้นที่ คนส่วนใหญ่มองว่าพรรคเพื่อไทยกุมความได้เปรียบหลายขุม ขณะที่พรรคประชาชนอยู่ในสภาพแบกน้ำหนักขึ้นสู้กับเพื่อไทย

เพราะก่อนหน้านี้คนของเพื่อไทยคือ วิเชียร ขาวขำ อดีต สส.อุดรธานี ก็ชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกฯ อบจ.อุดรธานี มาแล้ว 2 สมัยติดต่อกัน ก่อนที่จะวางมือหลีกทางให้ศราวุธ ลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. ที่คุมพื้นที่เลือกตั้งอุดรธานีให้ทักษิณมาหลายสมัย ดังนั้นตัวศราวุธจึงมี แต้มต่อการเมือง เพราะลงมาเพื่อป้องกันแชมป์ให้เพื่อไทย ที่สามารถเอาผลงานต่างๆ ของวิเชียร ที่เป็นนายกฯ อบจ. 2 สมัย ไปหาเสียงต่อยอดได้ว่าจะเข้าไปสานต่องาน ซึ่งจุดนี้พรรคประชาชนเสียเปรียบ

ผนวกกับศราวุธเป็นอดีต สส.อุดรธานี เขต 1 อำเภอเมือง มาถึง 4 สมัยติดต่อกัน เพิ่งสอบตกครั้งแรกก็เลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2566 ที่คงติดประมาท ไม่คิดว่ากระแสพรรคส้ม ก้าวไกล จะลามมาถึงอำเภอเมือง อุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้อแดงในภาคอีสาน ทำให้ในความเป็นจริง ศราวุธก็มีฐานเสียงในเขตอำเภอเมืองพอสมควร แถมไม่พอน้องสาวแท้ๆ  “หทัยรัตน์ เพชรพนมพร” ก็เป็น สส.อุดรธานี เขต 2 พรรคเพื่อไทย รวมถึงรอบนี้ทักษิณสั่งให้ สส.เขตอุดรธานี เพื่อไทย ที่มีด้วยกัน 7 คน ตลอดจนอดีต สส.เขตอุดรธานี และเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในอุดรธานี-กลุ่มเสื้อแดงอุดรธานี จับมือกันช่วยศราวุธให้เอาชนะพรรคประชาชนให้ได้ มันเลยทำให้คนยังมองว่าศราวุธเป็นต่ออยู่

เพียงแต่ที่ทักษิณ-เพื่อไทยหวั่นใจ คงเพราะเมื่อดูจากคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2566 แม้จะมาอันดับ 1 ได้มา 353,147                คะแนน แต่การที่พรรคก้าวไกลเดิม ที่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ในอุดรธานี มาอันดับ 2 คือ 295,097 คะแนน ถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งที่ได้ สส.เขตมาแค่คนเดียว

 แสดงให้เห็นว่า กระแสพรรคส้มในอุดรธานีก็สูงระดับหนึ่ง อีกทั้งรอบนี้ที่อุดรธานี พรรคประชาชนเตรียมตัวมาดี ทำการบ้านมาเยอะ นำเสนอนโยบายที่แตกต่าง เช่น “น้ำประปาดื่มได้” ผนวกกับมีการขนแกนนำ-สส.ของพรรคประชาชน และพวกอดีตแกนนำพรรคก้าวไกลและอนาคตใหม่ เช่น เท้ง ณัฐพงษ์-เอก ธนาธร-ปิยะบุตร แสงกนกกุล-ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผลัดเปลี่ยนไปช่วยหาเสียงที่อุดรฯ มาร่วมเดือนเศษ

มันก็เลยทำให้ทักษิณ-พท.เกิดอาการหวั่นไหว แม้จะรู้ดีว่าการเลือกตั้งท้องถิ่น ปัจจัยแตกต่างจากการเลือกตั้ง สส. เช่น ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งทำให้กลุ่มฐานเสียงของพรรคประชาชนที่ไปเรียนหรือไปทำงานที่จังหวัดอื่น ไม่สามารถมาโหวตให้พรรคประชาชนได้

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกันว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง การหาเสียงของ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน จะต่อสู้ห้ำหั่นกันแบบไหนอีก และจะมีกลยุทธ์ทั้งบนดิน-ใต้ดิน ออกมาอย่างไร เพราะอย่างที่เห็น ผลเลือกตั้งที่จะออกมามันเป็นเดิมพันการเมือง ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่าง ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย กับพิธา-พรรคประชาชน ที่แพ้ไม่ได้ ไปแล้ว.