"ธรรมนัส" บีบทางเลือก "บิ๊กตู่" ยุบสภาหรือจำยอมปรับ ครม.

พลันที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" พร้อมด้วย ส.ส.ทั้งหมด รวม 21 คน ประกอบด้วย ส.ส.เขต จำนวน 17 คน และบัญชีรายชื่อ จำนวน 4 คน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค  

นาทีแรกดูเสมือนว่าเป็นการลงโทษทางการเมือง หลัง "ร.อ.ธรรมนัส" นำทัพแพ้เลือกตั้งซ่อมจังหวัดชุมพร เขต 1 และจังหวัดสงขลา เขต 6 เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา   

เมื่อถูกคนในพรรคระดับรัฐมนตรีอย่าง "เสี่ยเฮ้ง" นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรรมการบริหารพรรค พปชร. และสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาขย่มซ้ำ

 สาเหตุของความพ่ายแพ้ เพราะความผิดพลาดด้วยการสร้างวาทกรรมเรื่อง "ให้เลือกคนรวย ปฏิเสธคนจน"   

ต่อเนื่อง แชตไลน์หลุด ของ "นายสุชาติ" ระบุให้ทำโพลถึงความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมดังกล่าว เป็นความผิดของเลขาธิการพรรคใช่หรือไม่ โดยมี "แรมโบ้" นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ มือปะฉะดะของ "บิ๊กตู่" ออกมารับลูกด้วย   

คอการเมืองมองว่า เพราะต้องการเปิดประเด็นให้เห็นถึงความตกต่ำของ พปชร.ทั้งหมด เป็นเพราะ "ผู้กองมนัส" และตราบใดที่ยังคุมพรรคอยู่ พรรคจะไม่สามารถขายได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะฐานเสียงในกรุงเทพฯ และภาคใต้    

ส่งผลกระทบต่อ "บิ๊กตู่" หากจะหวังใช้ พปชร.เป็นนั่งร้านรอบ 2 สืบทอดอำนาจเป็นนายกฯ สมัยที่ 3 ในการเลือกตั้งในสมัยหน้า เป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องจำกัด "ผู้กองธรรมนัส" ออกไปให้ได้ 

 ไม่นับระหว่างทางในช่วงรัฐบาลนี้ที่เหลืออีกปีกว่า โดยเฉพาะเกมในสภาฯ หาก "ผู้กองมนัส" ยังอยู่ อาจทำให้นายกฯ ตกเก้าอี้ หากกฎหมายสำคัญต่างๆ ของรัฐบาลไม่ผ่านการพิจารณาในสภาฯ หรือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงกลางปีนี้ เมื่อ ส.ส.พปชร.ในปีก "ผู้กองมนัส" ไม่ออกเสียง  

แต่ด้วยความเขี้ยวทางการเมืองของ "ผู้กอง" กลับเด้งสู้ และไม่ยอมตกที่นั่งลำบาก พร้อมใช้โอกาสที่เป็นรองพลิกกลับมาเป็นผู้คุมเกมชะตากรรมของรัฐบาล และถือไพ่เหนือกว่านายกฯ ใช่หรือไม่       

หลัง "บิ๊กป้อม" พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พปชร.ยอมไฟเขียวให้คณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พปชร.จำนวนทั้งหมด 61 เสียง จากทั้งหมดที่เข้าประชุม 78 เสียง มีมติขับให้ ส.ส.ทั้ง 21 คนออกพ้น พปชร.ด้วยข้ออ้างสร้างความวุ่นวายและทำลายความมั่นคงของพรรค  

ท่ามกลางข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เป็นการจัดฉาก และเขียนสคริปต์ไว้ล่วงหน้า เพื่อปล่อยให้ 21 ส.ส.ซุ้มผู้กองธรรมนัสยังมีสภาพความเป็น ส.ส.ด้วยการออกไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วันตามรัฐธรรมนูญ 101 (9) เปรียบเป็นการ ปล่อยเสือเข้าป่า แทนที่จะจองจำ หรือลดบทบาทให้อยู่ในพรรค หรือปล่อยให้ลาออกไปเองเพื่อให้สิ้นสภาพ ส.ส.

ว่ากันว่าเกมนี้ "ผู้กองธรรมนัส" เตรียมแผนไว้ล่วงหน้าไว้ ก่อนการเลือกตั้งซ่อมภาคใต้หลังจากประเมินอยู่ในพรรค พปชร.ยากลำบาก เพราะ ส.ส.และนักการเมืองอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะ กลุ่มสามมิตร นายสุชาติ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นต้น ที่ไม่ยอมรับ พร้อมด้วยความขัดแย้งระหว่าง "บิ๊กตู่" ตั้งแต่ครั้งเป็นกบฏ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา ที่ยากจะกลับมาดีกันได้ 

ดังนั้นการออกมาเพื่อไปตั้งพรรคการเมืองตามข่าวที่ระบุว่า พรรคเศรษฐกิจไทย หรือไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นๆ ทำให้สถานภาพ 21 ส.ส. ภายใต้ซุ้มผู้กองธรรมนัส เปรียบดังเสือติดปีก และกำหนดความเป็นความตายของรัฐบาลได้ 

 เพราะตัวเลข ส.ส. 21 เสียง สมมุติว่าไปอยู่ฝ่ายค้าน จะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลทันที เพราะเสียงที่ลดลง และย้ายไปอยู่กับฝ่ายค้าน จะทำให้สภาฯ อยู่ในสภาพเสียงปริ่มน้ำ ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามลา อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญของรัฐบาลทุกนัด หรือศึกซักฟอกของฝ่ายค้านในช่วงกลางปีนี้ ท่ามกลางในสภาวะปัจจุบัน แม้ยังไม่พลิกขั้ว สภาฯ ก็ล่มแทบทุกสัปดาห์ 

แต่ในทางกลับกัน หากต้องการให้ 21 ส.ส.ดังกล่าวยังสนับสนุนรัฐบาลต่อไป บิ๊กตู่ อาจจะต้องยอมรับมอบตำแหน่งรัฐมนตรีในระดับที่มีความเหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพรัฐบาลเอาไว้  

ตามข่าวระบุว่า ไม่น้อยกว่า 2-3 ตำแหน่ง และโยงไปที่เก้าอี้ของพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้กระทั่งเก้าอี้ใน พปชร. โดยเฉพาะจากบุคคลที่เป็นคู่ขัดแย้ง   

สอดรับกับกรณี "ส.ส.คนสนิท" ของ ร.อ.ธรรมนัส" รายหนึ่งกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พปชร. เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ระบุว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะปัญหาตำแหน่งรัฐมนตรี ทำไมไม่แต่งตั้ง" แหล่งข่าวระบุ 

 กลับมาที่นายกฯ ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังเกิดกรณี พปชร.ขับ 21 ส.ส.ซุ้มธรรมนัสพ้นพรรค ว่า จะ ไม่ยุบสภา และไม่มีการปรับ ครม.     

ฉะนั้นหากสุดท้าย "บิ๊กตู่" ยังเสียงแข็งเช่นนี้ พร้อมเล่นบท "ยอมหัก ไม่ยอมงอ" กลิ่นยุบสภาฯ อยู่ใกล้แค่เอื้อม. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"

แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน

ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด

นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง

จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567

ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!

แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่