สัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระพิจารณาค้างอยู่ คือ รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะ กมธ.
เมื่อการประชุมคราวที่แล้ว จู่ๆ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 สั่งปิดประชุมกะทันหัน ทำให้สมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมโวยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้มีการลงมติ
แม้ปิดประชุมหนีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็หนีไม่พ้นสัปดาห์นี้ ล่าสุด “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า วันพฤหัสฯ ที่ 24 ต.ค. เปิดประชุมสภาฯ มา โหวตแน่นอน แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
การประชุมสภาครั้งที่แล้ว “สนอง เทพอักษรณรงค์” สส.บุรีรัมย์ อภิปรายแสดงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่า รายงานฉบับนี้ไม่ได้แยกแยะว่าอะไรนิรโทษกรรมได้หรือไม่ได้ คนภูมิใจไทยทุกคนประกาศชัดเจนว่ายอมยกโทษให้ทุกกรณี ยกเว้นกรณีการยกเลิกมาตรา 112 เรายอมรับไม่ได้ การนิรโทษกรรมในประเทศไทยเกิดขึ้นหลายครั้งก็จริง แต่ถามว่ามีครั้งใดบ้างที่ล่วงล้ำก้ำเกินสถาบันสูงสุดเท่าปัจจุบันนี้
“หากมีการผ่านรายงานฉบับนี้ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการตรากฎหมายออกมา โดยอ้างว่าเป็นมติของสภาที่ผ่านการเห็นชอบรายงานฉบับนี้แล้ว จะออกเป็นร่าง พ.ร.บ.เพื่อนิรโทษกรรมในการกระทำที่ล่วงละเมิดสถาบันพระกษัตริย์ โดยเฉพาะมาตรา 110 และมาตรา 112 ยืนยันว่าคนของภูมิใจไทยจะไม่เป็นมิตรและไม่ยินยอมในการกระทำครั้งนี้ เราจะจงรักภักดีต่อและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ถึงที่สุด”
เช่นเดียวกับจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ ก็บอกไว้เหมือนกันว่า “ผลจากรายงานและข้อสังเกตของ กมธ.ฯ หากผ่านสภาจะไปเป็นสารตั้งต้นในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามความผิดในมาตรา 110 และมาตรา 112 ได้ และหากสภาเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ สภาอาจกลายเป็นตราประทับความชอบธรรมในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามมาตรา 110 และมาตรา 112 ในอนาคตได้ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้”
สรุปว่า พรรคร่วมรัฐบาลประสานเสียงไม่เอานิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาตามคดีมาตรา 112 อย่างแน่นอน และมีแนวโน้มสูงที่ผลโหวตเสียงส่วนใหญ่ของสภาจะไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตรายงาน
ส่วนพรรคเพื่อไทยก็อึกอักพูดไม่ออก เพราะคนของพรรคเป็นหัวโต๊ะคณะ กมธ.ชุดนี้ ทว่า “วิสุทธิ์” แก้เกี้ยวเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยระบุว่าไม่เสียหน้าเพราะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ได้มีแต่พรรคเพื่อไทย แต่มีทุกพรรค ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ร่วมกันศึกษา ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว เพราะฉะนั้นอย่าไปว่านายชูศักดิ์ที่เป็นประธานกรรมาธิการ
ความจริงประเด็นนี้ “อ.ชูศักดิ์” มาเป็นประธานได้ ไม่ใช่ว่าโชคช่วย แต่เป็นมติจากพรรคเพื่อไทยไม่ใช่หรือที่ส่งให้มานั่งหัวโต๊ะ ฉะนั้นถ้าจะหาว่าใครเป็นฝ่ายเสียหน้าก็ต้องเป็น “พรรคเพื่อไทย” อยู่แล้ว
แต่พรรคแกนนำรัฐบาลต้องยอมกลืนเลือด เพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ขืนดึงดันทุบโต๊ะจะเดินหน้านิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 มีพัง!!!
นอกจากนี้ หากสภาโหวตคว่ำขึ้นมาจริงๆ จะโทษใครก็ไม่ได้ ในเมื่อคณะ กมธ.ชุดนี้ทำรายงานออกมาไม่ชัดเจน ดันเขียนเปิดช่องว่าการนิรโทษกรรม มาตรา 112 มี 3 แนวทาง หนึ่ง นิรโทษกรรมทั้งหมด นิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข และไม่นิรโทษกรรมเลย
เมื่อเป็นดังนี้ พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ต้องการนิรโทษกรรมจึงต้องป้องกันไว้ก่อน เผื่อ “พรรคเพื่อไทย” จะพลิกลิ้นเหมือนตอนเลือกตั้งที่ประกาศจะไม่จับมือกับลุง แต่สุดท้ายก็เข้าหอลงโรงกับพรรคของ 2 ลุงอยู่ดี
เฉกเช่นเดียวกับเรื่องนิรโทษกรรม เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ความคิดก็เปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อย ในอนาคต “เพื่อไทย” อาจอ้างว่าได้ความชอบธรรมจากสภาแล้ว ผ่านรายงานฉบับนี้ ก็เป็นได้
วิธีการถอยจะเป็นอย่างไร ต้องรอลุ้นช่วงเช้าก่อนวันที่ 24 ต.ค. ก่อนประชุมสภาฯ เพราะพรรคเพื่อไทยนัด สส.ประชุม ซึ่งนาทีนั้นจะได้รับรู้พร้อมกันว่าทางออกของรายงานนิรโทษกรรมจะเป็นอย่างไร “เพื่อไทย” ต้องตัดสินใจให้ดี หากมติพรรคให้ สส.โหวตเห็นชอบก็จะมีภาพว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน (ปชน.) ร่วมมือกัน ไฟเขียวรายงานนิรโทษกรรม ที่มีเนื้อหาเปิดช่องให้สามารถทำนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112
ฉะนั้น ไตร่ตรองให้ดีว่าเพื่อไทยจะให้ใครต่อใครมองพรรคตนเองอย่างไรในเรื่องนี้ หาก สส.เพื่อไทยเดินเกมฟรีโหวต แล้วเกิด สส.พรรคส่วนใหญ่เห็นชอบ และมีส่วนหนึ่งไม่เห็นชอบกับรายงาน อาจถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือ “ทักษิณ ชินวัตร” ให้พ้นผิดในคดีมาตรา 112 หรือไม่ ซึ่งเป็นชนักติดหลังอันสุดท้ายของนายใหญ่เพื่อไทย!!!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ
'จตุพร' ให้จับตา '22พ.ย.' จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า วันที่ 22 พ.ย.นี้จะเป็นปฐมบทของคนรักชาติได้ห
'อดีตบิ๊กศรภ.' ชี้ 'ทักษิณ' ยังมีโอกาสอยู่เกินปีใหม่แน่ แต่ไม่น่าจะเกินต้นปีหน้า
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ทักษิณ