'พรรคประชาชน' ถอด 'พิษณุโลกโมเดล' วางเกมยาวสู้ 'กลุ่มชนชั้นนำ' เลือกตั้งปี 70

ภายหลังการเลือกตั้งซ่อม จ.พิษณุโลก เขต 1 สิ้นสุดลง ผลปรากฏว่า นายจเด็ศ จันทรา หมายเลข 2 จากพรรคเพื่อไทย เอาชนะ นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หมายเลข 1 จากพรรคประชาชน ไปด้วยคะแนนที่ห่างกันมากถึง 6,569 คะแนน

ส่งผลให้ พรรคประชาชน ไม่สามารถนำ สส.กลับเข้ามาเติมเสียง 'ฝ่ายค้าน' ดั่งที่เคยลั่นวาจาไว้ได้

ดังนั้นบรรดาเหล่าแกนนำต่างจำต้องออกมายอมรับความพ่ายแพ้ แสดงความยินดีกับผู้ชนะ แต่ก็ยังไม่วายทิ้งท้ายปลอบใจโหวตเตอร์ โดยการสรรหาคำแก้ต่างมากมาย

อย่าง นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า มองว่า "เวลาแพ้ก็ดี จะได้ลดอีโก้ หรือลดความรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว การพ่ายแพ้เป็นการกดดันตัวเองได้มากยิ่งขึ้น และทำให้พรรคประชาชนต้องทำงานหนัก เพราะ 250 เสียง เป็นเป้าหมายที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากหลายคนก็พูดว่า นี่อาจจะเป็นโมเดลที่พรรคประชาชนต้องเจอในการเลือกตั้งปี 70"

เปรียบเทียบการเลือกตั้ง 2 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ตามสภาพการณ์ทางการเมืองว่า 2 พื้นที่นี้แตกต่างกันมาก เป็นสองด้านของสเปกตรัม เนื่องจากราชบุรีเป็นพื้นที่ที่เราไม่เคยมี สส.เขต และเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม แต่พิษณุโลกเขตหนึ่ง เป็นฐานที่มั่นแบบส้มเข้ม เพราะ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พรรคก้าวไกล ชนะอย่างถล่มทลายในคราวที่แล้ว

พร้อมยกตัวอย่าง การเติบโตของคะแนน โดยยืนยันว่า "ไม่ใช่การแก้ตัว แต่มองตามคณิตศาสตร์ความเป็นจริง ว่าในพื้นที่พิษณุโลกอาจไม่ใช่การขยายฐานเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ เพราะใกล้เต็มแล้ว แต่ยอมรับว่า ยังมีประชาชนที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เลือกพวกเราอยู่จริง และเหนียวแน่นกับฝั่งอนุรักษนิยม โจทย์ของพื้นที่นี้คือ ไม่ได้ดูว่าได้เพิ่มเท่าไหร่ แต่ต้องดูว่ารักษาฐานได้หรือไม่"

รวมถึงกรณีที่ไม่ได้ต่อสู้แค่พรรคเพื่อไทย แต่คือการต่อสู้ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคการเมืองที่เหลือทั้งหมด หากพิจารณาด้วยการเทียบสัดส่วนกันแล้ว นายณฐชนนได้คะแนนเพิ่มจากนายปดิพัทธ์อยู่ 4% ซึ่งแสดงว่าคะแนนไม่ได้หายไป แต่กลับเพิ่มขึ้น และไม่ได้แพ้เพราะคะแนนนิยมของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า คะแนนเลือกตั้งนอกเขตเป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะคะแนนของนายปดิพัทธ์ก็มาจากส่วนนี้ถึง 7,000 คะแนน

แต่คำพูดสวยหรูเหล่านี้กลับเสมือนการยอมรับกลายๆ ว่า ในขณะนี้ ทุกพรรคการเมือง ต่างกำลังผนึกกำลังกันเพื่อเขี่ย "พรรคประชาชน" ออกจากสมการอยู่หรือไม่

ประกอบ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุถึง "การถอดบทเรียน เตรียมพร้อมต่อสู้กับการสนธิกำลังของ "ชนชั้นนำ 3 ฝ่าย : ชนชั้นนำดั้งเดิมจารีต ชนชั้นนำการเมืองจากทุกพรรค ทุกค่าย ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ" ที่จะนำ "พิษณุโลกโมเดล" ไปขยายผลในการเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศ

ต้องช่วยกันต่อสู้ ยืนหยัดยืนยันต่อไปว่า ประเทศไทยยังมีความหวัง ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ด้วยพลังทางการเมืองใหม่"

ตอกย้ำว่า พรรคประชาชนต้องเริ่มยอมรับความจริงแล้วว่า แนว เล่นการเมืองแบบโดดเดี่ยวตัวเอง นั้นอาจไม่ได้ปูทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งหวังไว้ได้ จนไม่สามารถทะนงตนเหมือนเดิมแล้วหรือไม่

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า "สำหรับผม สิ่งเดียวที่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้บอกกับพวกเราก็คือ หนทางในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่อทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนนั้นไม่ง่าย และเป็นการต่อสู้ระยะยาว ที่พวกเราต้องเดินหน้ากันต่อไป ซึ่งผมมั่นใจในตัวโฟล์คและเพื่อนที่ร่วมเดินทางกันมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ณ วันนั้นเราตัดสินใจมาทำงานการเมือง เพราะไม่ได้คาดหวังในชัยชนะที่จะได้มาในระยะสั้นๆ

แต่เราต้องการเข้ามาทำงานการเมืองระยะยาว เก็บชัยชนะทีละเล็กทีละน้อย แพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่ทำอย่างไรให้ทุกๆ การแพ้ คือชัยชนะย่อมๆ ที่เรารุกคืบเข้าไปอยู่ในใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้มากขึ้นทีละขั้น เดินหน้าทำงานรับใช้ประชาชน สร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงกันต่อ"

ทำได้เพียงรับบทบาท เป็นผู้สร้างความหวัง เตรียมพร้อมสำหรับ เกมยาว เท่านั้น ไม่ได้แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถ "คว้าชัยในสนามย่อย" อีกต่อไป

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า "พรรคประชาชน" จะยังคงยืนหยัดใน "อุดมการณ์" เดิม หรือ ต้องปรับนโยบาย เปลี่ยนวิธีเดิน กำหนดท่าทีวางตัวในเกมใหม่ เพื่อประคองตัวไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการเลือกตั้ง 70 อย่างไรบ้าง?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน

ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

'ปิยบุตร' ปักธงอุดรธานีเมืองสีส้ม ปชน. ขนแกนนำหาเสียงบุกฐานที่มั่นเพื่อไทย

แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง นายคณิศร ขุริรัง หมายเลข 1 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.อุดรธานีในการเลือกตั้งครั้งนี้ 

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

รองเลขาฯเพื่อไทย ฟาดกลับ 'ไอซ์ รักชนก' แซะแจกเงินหมื่นช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ใจเย็นๆ นิดนะคะ รัฐบาลตั้งใจส่งเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือกลุ่มเป้าหมายให้เร็วที่สุด

'ไอติม-กมธ.การเมือง' รุดขอความชัดเจนศาลธรน. หวังได้คำตอบปมทำประชามติ 2 ครั้ง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการการเมืองการมีส่วนร่วม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมหารือกับประธานศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า อย่างที่เราทราบกันดีว่าการ

กมธ.มั่นคงฯ ขอดูลาดเลาปม MOU44 ให้รอบด้าน

'กมธ.มั่นคง' ขอฟังข้อมูลปม MOU 44 รอบด้าน หลังหลายฝ่ายมีความเห็นต่าง 'โรม' ยันยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก เล็งใช้กลไกสภาเดินหน้าตรวสอบ เหตุเรื่องรื้อรังมานาน