ยังต้องลุ้นต่อไป สำหรับการประกาศรายชื่อ”คณะรัฐมนตรี”รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร หรือ”ครม.อุ๊งอิ๊งค์1”
เพราะถึงตอนนี้ ผ่านมาร่วมสองสัปดาห์เศษแล้ว นับแต่หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โหวตเห็นชอบ ให้ แพทองธาร ขึ้นเป็นนายกฯ แต่ถึงตอนนี้ ผ่านมาถึงวันที่ 2 ก.ย. นายกฯแพทองธาร ก็ยังไม่สามารถเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเป็นทางการได้ ต้องรอให้มีการนำโผครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ -รอการโปรดเกล้ารายชื่อครม.-นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ และการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา
เบื้องต้น แกนนำรัฐบาลเพื่อไทย”ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ”ที่มีข่าวว่าจะไปเป็น”รองนายกฯควบรมว.กลาโหม”ในรัฐบาลแพทองธาร บอกว่าต้องการให้ทุกอย่างเสร็จภายใน 15 ก.ย. บวกลบ ไม่เกิน3 วัน
และมีข่าวบางกระแสอ้างว่า แพทองธาร จะนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯวันพุธที่ 4 ก.ย.นี้ เลยด้วยซ้ำ เพราะกระบวนการตรวจสอบ”คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี”ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 โดยเฉพาะ(4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข่าวว่า มีการส่งรายชื่อรมต.ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐ-องค์กรอิสระ เช่น สำนักงานป.ป.ช. -องค์กรศาล ทั้งศาลยุติธรรม ศาลปกครองในการตรวจสอบไปเกือบครบหมดและมีการตอบกลับมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไทม์ไลน์การนำชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ที่ก่อนหน้านี้ ลือกันว่าจะดำเนินการช้าสุดภายในไม่เกิน 7 ก.ย. ถึงตอนนี้ ยังต้องลุ้นว่าจะเป็นไปได้หรือไม่?
หลังล่าสุด “สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา -อดีตแกนนำกลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นคำร้องต่อศาลรธน.จนสอย เศรษฐา ทวีสิน ร่วงตกจากเก้าอี้นายกฯ” โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า
“ข่าวดี!ครม.อิ๊ง1 ตรวจละเอียดยิบ รมต.ต้องสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข่าวลืออื้ออึงว่า ติดปมตั้ง11 ทั้งคดีใน ปปช อัยการ ศาล ฯลฯ จะกล้าลุยตั้งก่อน ไปตายเอาดาบหน้า? #นักการเมืองดีหายากนักหรือไง”
ก็ไม่รู้ว่า อดีตสว.สมชาย ซึ่งอยู่ในวงการสภาสูง-อดีตสนช.มาร่วม 17 ปี ติดต่อกัน และเป็นที่รู้กันว่ามีเครือข่าย-คอนเน็กชั่นหลายวงการโดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐ-องค์กรอิสระ ไปได้ข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งใด และที่บอกว่ามี 11 รายชื่อส่ออาจมีปัญหา มีชื่อใดบ้าง แต่เรื่องแบบนี้ หากอดีตสว.สมชาย ไม่มั่นใจใจข้อมูลที่ได้มาจริง ก็คงไม่กล้าให้ข้อมูลออกมาสู่สาธารณชน
ดังนั้น เป็นเรื่องน่าติดตามไม่น้อยเพราะหากเป็นไปตามนี้ อาจทำให้ ไทม์ไลน์การนำโผครม.ขึ้นทูลเกล้าฯและการตั้งรัฐบาล ล่าช้าออกไปอีกหลายวันเลยก็เป็นได้
เว้นเสียแต่ “อุ๊งอิ๊ง-ทักษิณ”จะยอมเสี่ยง ลุยไฟ เพื่อหวังตั้งรัฐบาล-ปิดดีลเร็ว แล้วไปวัดดวงเอาภายหน้า หากมีการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีคนไหน ก็ให้ไปแก้ปัญหา-สู้คดีกันภายหลัง
กระนั้นประเมินแล้ว “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย”คงไม่ยอมเสี่ยงรีบเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จโดยเร็วบนความเสี่ยงที่ต้องไปลุ้นในภายภาคหน้า เพราะหากพบว่า ชื่อไหนมีปัญหา หรือไม่ชัวร์จริงๆ ถ้าจำเป็นต้องรอเคลียร์ให้ชัดเจน หมดทุกข้อสงสัย จะได้ไม่เปิดช่องให้มีการร้องเอาผิดในภายหลังได้ ฝ่ายทักษิณ คงให้ เพื่อไทย รอไปก่อน ช้าไปบ้างก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไปตกม้าตายในภายหน้า เพราะหากมีอะไรพลาดขึ้นมา อุ๊งอิ๊ง อาจไม่ใช่แค่ต้องหลุดจากนายกฯ แต่อาจหลุดจากการเมืองไปอีกหลายปีหรือตลอดชีวิตก็ได้ ถ้าโดนศาลรธน.ตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งโทษฐานฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ตั้งรัฐมนตรีที่มีปัญหาจริยธรรมฯ
โดยเบื้องต้น ดักทางการเมืองไว้ว่า “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย”ก็ต้องหาหน่วยงานรัฐ มาช่วยรองรับความปลอดภัยทางการเมือง และการันตีการตรวจสอบคุณสมบัติให้รัดกุมกว่าเคสของ”เศรษฐา-พิชิต ชื่นบาน”เช่นหนังสือรับรองจากหน่วยงานต่างๆ อย่างเป็นทางการว่า รัฐบาล-สำนักเลขาธิการครม.ได้ขอให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นรมต.โดยละเอียดแล้ว และมีผลการตรวจสอบแจ้งกลับมาอย่างไร ไม่ใช่แค่อิงเฉพาะสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เท่านั้น
เพราะเคสของ เศรษฐา ก็อ้างอิง กระบวนการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่นกัน ก็ยังไม่รอด เพราะทั้งสองหน่วยงาน ก็มี”ข้อจำกัดทางกฎหมาย”ในการตรวจสอบคุณสมบัติฯเช่นกัน
โดยเฉพาะ”คณะกรรมการกฤษฎีกา” ที่ก็เชื่อว่า แม้จะให้ความเห็นใดๆ ไปกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ก็ยังมีความเห็นแนบท้ายว่า เป็นเพียงความเห็นของกฤษฎีกาฯที่ตอบข้อหารือ แต่สุดท้าย การพิจารณาว่า เคสไหน-กรณีใดที่ส่งมา จะมีปัญหาเรื่องเข้าข่าย”ฝ่าฝืนจริยธรรมฯ และอาจมีปัญหาเรื่อง มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”หรือไม่ กฤษฎีกา ก็อาจตอบว่า”ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย”
เช่น เป็นไปได้ที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อาจสอบถามความเห็น-มีบันทึกข้อหารือว่า รายชื่อรัฐมนตรี ที่มีชื่ออยู่ในแฟ้มคดีของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ -สำนักงานตำรวจแห่งชาติ -อัยการ หรือศาลยุติธรรม รวมถึงองค์กรอิสระเช่น สำนักงานป.ป.ช. แต่”คดียังไม่ถึงที่สุดในชั้นศาลฎีกา”หรือยังไม่ถูกชี้มูลความผิดหรือมีความเห็นให้ดำเนินคดีโดยองค์กรอิสระหรือถูกสั่งฟ้องในคดีอาญา-คดีทุจริต โดยตำรวจ-ดีเอสไอ-อัยการ หรือตกเป็นจำเลยในชั้นศาล แต่คดียังไม่จบในชั้นศาลฎีกาฯ ยังมีสถานะเป็นจำเลยอยู่ ลักษณะดังกล่าว ถือว่าอาจเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามการเป็นรมต.ตามรธน.มาตรา 160 (4) และ(5) หรือไม่ เป็นต้น
โดยหาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถามความเห็นไป คาดว่า “คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ”ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม ร่วมคณะอยู่ด้วย แม้จะให้ความเห็นใดๆ ไปแต่ก็อาจทำความเห็นเป็นบันทึกไว้ตอนท้ายว่า “ความเห็นดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ผู้ชี้ขาดคือ ศาลรัฐธรรมนูญ” เหมือนที่เคยทำแบบนี้มาแล้วกับกรณี พิชิต ชื่นบาน ที่หากเป็นแบบนี้ ก็ต้องวัดใจ “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย”แล้วว่า จะเอาอย่างไร
ทั้งนี้ ข่าวในทางลับ กระบวนการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเริ่มจาก เมื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รับแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะถูกเสนอชื่อเป็นรมต.มายังสำนักงาน ฯ ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็จะเรียกบุคคลดังกล่าวมารับ”เอกสารแบบแสดงประวัติและแบบแสดงคุณสมบัติ เพื่อให้ไปกรอกและให้เซ็นชื่อรับรองข้อมูล จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำชื่อ-เอกสารไปตรวจสอบ
เช่นตรวจสอบการเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ โดยตรวจจากเว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา ,ข้อมูลคดีแพ่งและอาญา โดยขอความร่วมมือตรวจสอบตรวจจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , รวมถึง สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานป.ป.ช.ว่ารายชื่อว่าที่รมต.มีเรื่องร้องเรียนที่ป.ป.ช.หรือไม่ และคดีสิ้นสุดหรือยัง ,ข้อมูลการถือหุ้น โดยประสานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ซึ่งหากชื่อบุคคลใดมีปัญหา-ข้อสงสัย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเรียกบุคคลดังกล่าว มาสอบถามเบื้องต้นก่อน พร้อมกับแจ้งให้นายกฯ-เลขาธิการนายกฯ ทราบ และหากสำนักเลขาธิการครม.ไม่แน่ใจ ก็จะทำหนังสือขอหารือไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ ต่อไป รวมถึงรอบนี้ ข่าวว่าอาจจะมีการสอบถามบางหน่วยงานเพิ่มเติมด้วย เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด -ศาลปกครอง-กรมบังคับคดี เป็นต้น
ดังนั้น สัปดาห์นี้รอดูว่า โผครม.จะนิ่งและเคลียร์หมดทุกชื่อ จนนายกฯนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่ หรือว่าต้องขยับออกไปอีก จนทำให้การตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
พลิก!สยามผบช.น. สันติไปปส.น้องเสธ.หิคุมไซเบอร์/ประสบการณ์ใหม่‘อิ๊งค์’
"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร. ลากยาว 4 ชม. ถกแต่งตั้ง 41 นายพลสีกากีระดับรอง
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
นายกฯอิ๊งค์ แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 100 วัน 12 ธ.ค.นี้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 100 วันจะเป็นช่วงใด ว่า ประมาณเดือน ธ.ค.
ครม.ไร้วาระโต้ง ชื่อยังไม่ถึงคลัง ผวาขัดกฎหมาย
นายกฯ เมินเสียงวิจารณ์ "กิตติรัตน์" นั่ง ปธ.บอร์ด ธปท.
‘อิ๊งค์’ตีปี๊บผลงาน100วัน
“นายกฯ อิ๊งค์” ต่อสายยินดี “ทรัมป์” พร้อมชวนมาเมืองไทย นายกฯ