กรณีรีโนเวท “พรรคกล้าธรรม” จาก “พรรคเศรษฐกิจไทย ” พรรคสำรองของ “ผู้กองเมืองพะเยา” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คงไม่ใช่เตรียมพร้อมสู้การเลือกตั้งครั้งหน้าเพียงอย่างเดียวเพราะยังเหลือเวลาอีก 3 ปี
แต่อาจเป็นเหตุผลการเมืองเฉพาะหน้าเกี่ยวกับความอยู่รอดในรัฐบาลนี้ของ “ร.อ.ธรรมนัส” และพวก ใช่หรือไม่
โดยมอบหมายให้คู่หู อย่าง“อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรม หลังจากก่อนหน้าตัดขาดกับ“บ้านป่าฯ” และ พรรคพลังประชารัฐในช่วงหลังเลือกตั้งปี 2566 และ เข้ามาทำงานร่วมรัฐบาลเเศรษฐา ในฐานะ ผู้แทนการค้าไทย โดยมีกรรมการบริหารป้ายแดง ล้วนเป็นกลุ่มก๊วนจากเมืองพะเยาทั้งสิ้น
สาเหตุที่ “ผู้กอง”จำเป็นที่ต้องปลุกพรรคนี้ขึ้นเร่งด่วน ประการแรก เพื่อหวังกดดัน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังจมไม่ลง และ ถูกปั่นให้มีความหวังเป็นนายกฯรัฐมนตรีคนที่ 31 ให้ได้อยู่ในความสงบ
หลังก่อนหน้านี้สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองอยู่เบื้องหนุนหลังการวางงานให้กลุ่ม 40 สว. สรรหาจากคสช. ยื่นตรวจสอบการกระทำของนายกฯขัดกรัฐธรรมนูญ และ จริยธรรมหรือไม่ ปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตัดชี้ชะตานายกฯในวันที่ 14 ส.ค. นี้
ประกอบกับกระแสข่าวว่า “ลุงบ้านป่าฯ” เตรียมไล่ซื้อส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึง งูเห่า หาก พรรคก้าวไกลหากถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคในวันที่ 7 ส.ค. นี้ด้วยใช่หรือไม่
จนเป็นเหตุให้ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจตัวจริงพรรคเพื่อไทย และ มีความแนบแท่น กับ “ผู้กองธรรมนัส” เกิดความไม่พอใจ พร้อมความหวาดระแวง ถึงประกาศผ่านสื่อว่า “คนบ้านป่าทำการเมืองวุ่นว่าย”
แต่ฟางเส้นทางสุดท้ายคงเป็นกรณี “ลุงป้อม” อ้าแขนรับ “สองพ่อลูกอยู่บำรุง” มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การดีลของ “ลูกรักลุงคนใหม่” สามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
หลัง “วัน อยู่บำรุง” ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย แสดงความรับผิดชอบ หลัง ปรากฎภาพเดินทางไปให้กำลังใจ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ชิงตำแหน่งนายกฯอบจ.เมืองปทุมธานี
จนเป็นเหตุให้ ร.อ. เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเปิดบ้านริมคลองย่าน บางบอน ออกซัด ”ทักษิณ แค่ชื่อยังไม่อยากได้ยิน“ พร้อมท้าให้ขับออกจากพรรค เพื่อจะไปทำกิจกรรมเป็นหอกข้างแคร่ ร่วมกับ “ลุงป้อม” ใช่หรือไม่
ขณะที่ “นายใหญ่” โต้กลับ ”แบบไม่ให้ราคา ว่า "อย่าไปพูดถึงเขาเลย สงสาร ผมสงสารเขา เขาอายุเยอะแล้ว อย่าไปพูดถึงเขา ผมอายุเยอะแล้ว เขาก็อายุเยอะกว่า"
ว่ากันว่า กรณีดังกล่าว ”ทักษิณ“ ฟิวส์ขาด เพราถูก ”บิ๊กป้อม“ ตีแสกหน้าคืน เพราะกล้ารับ 2 พ่อลูกอยู่บำรุงเข้าคอก ขณะเดียวก็ยังเป็นแก้แค้น หลังถูกนายใหญ่ออกมาต่อว่าก่อนหน้านี้ โดยไม่มีลุูกพรรคพปชร.หน้าไหนออกมาเคลื่อนไหวปกป้องลุง
สถานการณที่เกิดขึ้น คนที่เหยียบเรือสองแคม จมูกไวทางการเมือง อย่าง ”ธรรมนัส“ จะไม่รู้ตัวหรือว่าต้องทำอะไร
ฉะนั้นตัวเองจะอยู่รอดในรัฐบาลนี้ไปแบบตลอดรอดฝั่ง จำเป็นจะต้องเบรกการเคลื่อนไหวของลุงและบริวารให้อยู่แต่ในป่าฯ อย่าออกมาเคลื่อนไหว เซาะกร่อน บ่อนทำลายรัฐบาลนี้
จึงเป็นที่มาของฉากแอคชั่นของ เลขาธิการพรรคพปชร. เล่นใหญ่เกินเบอร์จัดการ ”สามารถ“ เด็กเมื่อวานซืนทางการเมือง ด้วยตัวเอง หลังออกมาตำหนิการทำงานของรัฐบาลเศรษฐา พร้อมขู่จะขับออกจากพรรคพปชร.
ที่มาพร้อมกับกระแสข่าว กดดันว่า “นายใหญ่” เตรียมเขี่ย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น้องชายของลุงป้อม พ้นครม.
ขณะเดียว “ ร.อ. ธรรมนัส” ยังเตรียมความพร้อม หาก “ลุงป้อม”เกิดพยศอีกรอบ ก็เตรียมขนสส.ออกจากพปชร. ไม่ขอสังฆกรรมด้วย เพราะเข้าใจว่าคงยึดพรรคไม่ได้ เพราะ เจ้าป่าฯคงไม่ยอม อย่างเด็ดขาด
เช่นเดียว “ผู้กอง”คำนวณแล้ว คงไม่ยอมย้ายไปสังกัดเป็นของตายในพรรคเพื่อไทย ที่เปรียบเป็นเพียงแค่หางมังกร เท่านั้น และต้องต่อสู้กับกลุ่มก๊วนต่างๆในพรรคแดง ที่รอต่อคิวเป็นรัฐมนตรี สู้เตรียมพรรคสำรองไว้รองรับจะปลอดภัยกว่า
ในทางกลับกัน แต่หาก “ธรรมนัส” ประนีประนอม กับ “ลุงป้อม” ได้ จุดแตกยังก็ไม่เกิดในช่วงนี้ เพราะยังอยากรักษาสายสัมพันธ์เดิมๆ และผลประโยชน์ทางการเมืองเอาไว้หลายๆหน้า
เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ก็ทราบดีว่า สถานการณ์ตอนนี้ สส.อยู่ในมือก็น้อยเต็มที เพราะส่วนใหญ่ก็เลือกไปอยู่ฝั่งรัฐบาลกับผู้กอง
รวมถึงอำนาจในองค์กรอิสระก็ใกล้จะครบวาระ พลังการเมืองก็ไม่มีเหมือนเดิม สว.สรรหาก็พึ่งหมดอำนาจไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา จึงอาจเลือกแนวทางแกล้งตาย และสั่งให้ “สามารถ” หยุดเคลื่อนไหว เพื่อดูจังหวะการเมือง เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ชื่อว่ามี สส. และรัฐมนตรีพปชร.อยู่ในมือ ที่เป็นช่องทางรักษาและแสวงหาอำนาจเอาไว้ ดีกว่าเลือกแตกหัก อาจไม่เหลือใครเดียวดายอยู่ในป่าฯตามลำพัง
แตกต่างจาก“มาดามแหม่ม” หากมีอำนาจตัดสิน คงอยากให้ “ผู้กอง” รีบอพยพขนสส.พปชร. ย้ายเข้ามาซบพรรคป้ายแดงโดยเร็วที่สุด
สอดรับกับ “นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาปูดว่า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งกำลังจะตั้งพรรคใหม่ จึงอยากดึงตัวไปช่วยงาน โดยเสนอจะให้เงินทำพื้นที่ 20-30 ล้านบาท กรณีพรรคก้าวไกลถูกยุบ
หากสมมุติฐานเป็นเช่นนั้นจริง “อ.แหม่ม” ในฐานะหัวหน้า “พรรคกล้าธรรม” จะได้เป็นรัฐมนตรี สมความปรารถนาอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้
นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า
‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’
แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี
รมต.เกษตรฯ ลุยสงขลาติดตามบริหารจัดการน้ำ กำชับสานต่อภารกิจภาคการเกษตรให้บรรลุเป้า
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รมว.เกษตรฯ เคาะเพิ่ม 'โกโก้' พืชเศรษฐกิจ ในกำกับคณะอนุกรรมการพืชสวน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการ
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อไทยฉวยคดีเขากระโดง สบช่องเตะตัดขาภูมิใจไทย
ปมขัดแย้งกรณีที่ดินเขากระโดง แม้แกนนำรัฐบาลของทั้ง 2 พรรคคือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย