นับถอยหลัง อีกแค่ไม่กี่อึดใจก็ได้รู้ผลกันแล้วว่า “พรรคก้าวไกล” จะเป็นฝายกำชัยชนะหรือจะตกเป็นผู้แพ้คดี ในคำร้องคดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกลาง ในวันพุธที่ 7 ส.ค.นี้
โดยหากก้าวไกล รอด-ไม่ถูกสั่งยุบพรรค มันก็คือการยกภูเขาออกจากอกพรรคก้าวไกล ทำให้ความตึงเครียดภายในใจของแกนนำพรรค โดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรค หายไปทันที ไม่มีใครอยากต้องโดนตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะจะทำให้หายไปจากเวทีการเมืองสิบปี หากศาล รธน.วินิจฉัยยืนตามคำร้องของ กกต.
เชื่อว่า หากพรรคก้าวไกลได้รับข่าวดีพุธนี้ แกนนำพรรค-ด้อมส้มที่นัดหมายเจอกัน ณ ที่ทำการพรรคตั้งแต่บ่ายโมง คงปิดพรรคฉลองกันยกใหญ่
แต่หากผลออกมาตรงกันข้าม คำวินิจฉัยออกมาไม่เป็นคุณ-ก้าวไกลไม่รอด ก็ทำให้ก้าวไกลกลายเป็นพรรคส้มพรรคที่สอง ต่อจากพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องถูกลบชื่อออกจากสารบบพรรคการเมืองของสำนักงาน กกต.
และจะเกิด “ผลกระทบ-โดมิโนทางการเมืองและคดีความที่จะตามมา” ที่ไม่จบแค่ ก้าวไกลถูกยุบพรรค-ตัดสิทธิการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคสิบปี เท่านั้น
เพราะยังจะมีแรงกระเพื่อมการเมือง-คดีความให้ติดตามหลายฉาก นอกเหนือไปจากการติดตามการย้ายบ้านไปอยู่พรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ที่มาแทนก้าวไกลของ สส.-แกนนำพรรค-สมาชิกพรรคก้าวไกล ที่นอกจากต้องดูว่า สส.ก้าวไกลจะไปอยู่พรรคใหม่กันครบหมดทุกคนหรือไม่ หรือจะมีแตกแถว มีงูเห่าเกิดขึ้น
เรื่องที่หลายคนสนใจก็คือ การส่งไม้ต่อให้ผู้นำพรรคส้มแถวที่สาม ต่อจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ชัยธวัช ตุลาธน
ที่ถึงตอนนี้แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเหลือแค่สองชื่อที่ถูกโฟกัสถึง คือ ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล กับเท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สองแกนนำพรรคที่ปรากฏตัวอย่างโดดเด่นในคลิปพรรคก้าวไกล ที่ออกมาสองคลิปในช่วงใกล้วันพิพากษาคดียุบพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้ คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่จะต้องเป็น สส. เพื่อให้ไปเป็น “ผู้นำฝ่ายค้านในสภา” ซึ่งไม่แน่ รัฐสภาไทยอาจได้ “ผู้นำฝ่ายค้านหญิงคนแรก” คือศิริกัญญาก็ได้
ส่วน ศิริกัญญาจะอยู่ไปจนถึงถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคส้มในการเลือกตั้งรอบหน้าหรือไม่ ก็ยังไม่ชัวร์!
เพราะหากสภาอยู่จนใกล้ครบเทอม ที่หมายถึงเหลือเวลาอีกสามปี เธออาจถูก คณะกรรมการ ป.ป.ช. เช็กบิลก่อนก็ได้
เนื่องจากศิริกัญญาเป็น 1 ใน 44 สส.ก้าวไกลสมัยที่ผ่านมา ซึ่งได้ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อประธานสภาฯ จนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นตามคำตัดสินคดีล้มล้างการปกครองฯ ที่ 3/2567ว่า พรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์
“เซาะกร่อนบ่อนทำลาย-ระบอบการปกครองฯ”
ซึ่งเรื่องนี้ ป.ป.ช.ตั้งแท่นรอไต่สวนนานแล้ว หลังเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และธีรยุทธ สุวรรณเกสร ผู้ร้องคดีล้มล้างการปกครองฯ ไปยื่นให้ ป.ป.ช.ฟัน สส.ก้าวไกลตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา เพียงแต่ ป.ป.ช.ไม่ขยับอะไรเพราะรอคำตัดสินศาล รธน.
โดยหากก้าวไกลโดนยุบพรรคและใน “คำวินิจฉัยกลาง” ของศาล รธน.ระบุข้อความว่า สาเหตุที่ตัดสินยุบพรรคก้าวไกล เพราะ สส.ก้าวไกลมีการเสนอแก้ 112 เข้าสภา รวมถึงมีการเอาตำแหน่ง สส.ไปยื่นประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112
หากออกมาแบบนี้ไม่ใช่แค่ศิริกัญญาที่ “คอพาดเขียง” แต่ สส.ก้าวไกล-แกนนำพรรคหลายคนในขณะนี้ที่รวมถึงเท้ง ณัฐพงษ์ และตัวพิธา ตลอดจนแกนนำพรรคก้าวไกลอีกหลายคนที่อยู่ใน 44 คน ซึ่งร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ 112 และไปยื่นประกันตัวคดี 112 แม้จะรอดในคดียุบพรรค ไม่โดนตัดสิทธิการเมืองสิบปี แต่ก็เสี่ยงจะถูก ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดข้อหา “ฝ่าฝืนมาตรฐานประมวลจริยธรรมฯ”
ที่หาก ป.ป.ช.ชี้มูล ต้องส่งสำนวนไปให้ศาลฎีกาพิจารณา ที่กระบวนการอาจจบภายในไม่เกินสามปีก่อนเลือกตั้ง ทำให้หากคนก้าวไกลทั้งหมดไม่รอด โดนศาลฎีกาตัดสินว่าผิดจริยธรรม ก็ต้องลุ้นจะโดนตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิตแบบช่อ-พรรณิการ์ วานิช หรือไม่!
กระนั้น หลายคนเชื่อว่าผลไม่น่าจะรุนแรงขนาดนั้น เพราะแนวคำวินิจฉัย-ตัดสินคดีของศาล รธน. กับศาลฎีกาที่เป็นศาลสูงของระบบศาลยุติธรรมแตกต่างกันมาก
จึงมีการมองกันว่า แม้ต่อให้ ป.ป.ช.เช็กบิล สส.-แกนนำก้าวไกลในข้อหาฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมฯ แต่ก็มีโอกาสรอดในชั้นศาลฎีกาได้ เพราะเคสของช่อ พรรณิการ์ ความแรงของรูปคดีแตกต่างจากการที่ สส.ก้าวไกลเสนอแก้ 112 หรือการไปประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 มาก
นั่นคือการเมือง ฉากในอนาคต แต่หากเอาเฉพาะหน้า ถ้าก้าวไกลโดนยุบพรรคสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีก็คือ จะทำให้พรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้งปี 2566 ได้ สส.มา 151 คน แต่ต่อมามีการขับออกจากพรรคไปสองคน คือ สส.กทม.และปราจีนบุรี จากกรณีถูกร้องเรียนเรื่องการคุกคามทางเพศ รวมถึงยังได้มีมติขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เพื่อให้นายปดิพัทธ์ได้รักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯ ไว้ต่อไป จนต่อมาปดิพัทธ์ไปอยู่กับพรรคเป็นธรรม
ทำให้พรรคก้าวไกลปัจจุบันเหลือ สส. 148 คน ซึ่งหากพรรคก้าวไกลโดนยุบจะทำให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน คือ พิธา-ชัยธวัช-เบญจา แสงจันทร์-อภิชาต ศิริสุนทร-สุเทพ อู่อ้น ต้องพ้นจากการเป็น สส.ไปด้วย และทำให้เก้าอี้ สส.ของพรรคก้าวไกลในสภาจะเหลือ 143 คน เพราะเมื่อถูกยุบพรรค จะไม่สามารถเลื่อนผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์เมื่อปี 2566 ของก้าวไกลขึ้นมาแทนได้ เก้าอี้ สส.ปาร์ตี้ลิสต์หายไป 5 คนทันที
ขณะเดียวกัน หากพรรคก้าวไกลโดนยุบพรรค ก็ต้องเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 พิษณุโลก แทนนายปดิพัทธ์ ซึ่งเป็น สส.มาสองสมัยแล้ว และเลือกตั้งปี 2566 ชนะคู่แข่งขันอย่างขาดลอย ห่างถึงกว่า 2 หมื่นคะแนน
อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่พรรคใหม่ที่พรรคก้าวไกลจะตั้งขึ้นมาอาจส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อมไม่ทัน จนต้องส่งคนไปลงในนามพรรคเป็นธรรมไปก่อน รวมถึงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ที่ปดิพัทธ์นั่งอยู่จะว่างลง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยคงเจรจาขอโควตาจากพรรคเพื่อไทย
ทั้งหมดคือโดมิโนการเมืองที่จะตามมาหากก้าวไกลโดนยุบพรรค แต่ถ้ารอด ไม่ถูกยุบพรรค ก็เฮกันหมดทั้งพรรค และด้อมส้มสะใจกันไปเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่
‘พิธา’อ้อนให้รอ9ปี พร้อมเป็นนายกฯดีกว่าเดิม/‘พท.’มั่นใจ‘ทักษิณ’ยังขายได้
"แกนนำพรรคส้ม" เดินสายหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ ต่อเนื่อง "ชัยธวัช" ลั่นนโยบายที่ท้องถิ่นในอดีตไม่พร้อมทำ "ปชน." พร้อมทำให้ดู