ต่อให้เศรษฐาหลุดตำแหน่งในวันที่ 14 สิงหาคม แต่พรรคเพื่อไทยก็คงไม่ยอมคายเก้าอี้ หรือต่อให้คายก็ยังมีพรรคภูมิใจไทย ที่คงไม่ปล่อยผ่านไปถึงพรรคอันดับ 3 ในพรรคร่วมรัฐบาล
นโยบายเรือธงเพื่อไทย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เริ่มนับหนึ่งกันไปแล้ว หลังเปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และลงทะเบียนกันไปวันแรกเมื่อ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
กระแสตอบรับล้นหลาม เฉพาะวันแรกแห่ลงทะเบียนกันไปถึง 16 ล้านคน โดยรัฐบาลเปิดให้ลงกันยาวๆ 1 สิงหาคม-15 กันยายน สำหรับคนที่มีสมาร์ทโฟน ส่วนใครที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน-15 ตุลาคม
อย่างไรก็ดี การเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิถือเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นรูปธรรมมากที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลพยายามเคลื่อนเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท
เป็นก้าวที่เหมือนเติมความชัดเจนให้กับประชาชนว่า นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยจะเกิดขึ้นได้แน่ หลังก่อนหน้านี้เคว้งคว้าง ลูกผีลูกคน
แล้วการที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 เพื่อใช้ในการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 122,000 ล้านบาท โดยได้เสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลท่วมท้น มันเหมือนเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนว่า โอกาสเกิดตอนนี้มีมากกว่าโอกาสแท้งแล้ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย น่าจะเบาใจไปได้ระดับหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ขายหน้า หรือเสียรังวัดว่า คิดใหญ่ ทำเป็น ก็แค่สโลแกนหรูๆ ในปัจจุบัน ไม่เข้มขลังเหมือนในอดีต
นโยบายเรือธงใกล้จะโล่งไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยนายเศรษฐาก็ทำได้อย่างที่พูดตอนหาเสียง แม้จะไม่ ตรงปก สักเท่าไหร่ก็ตาม
แต่มันก็ยังหายใจได้ไม่เต็มปอดเท่าไหร่ เพราะเรื่องสำคัญอย่างชะตาชีวิตทางการเมืองของ "เศรษฐา" ขณะนี้แขวนไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ หรือราวๆ อีกสัปดาห์กว่าๆ
แม้จะให้สัมภาษณ์เสมือนหนึ่งว่ามั่นใจในความสุจริตใจตอนแต่งตั้ง แต่ตราบใดยังไม่หลุดพ้นก็ยากที่จะไม่ให้คิด ไม่ให้กังวล เพราะมันเดิมพันเส้นทางการเมืองของตัวเอง
แต่ที่ผู้คนโฟกัสมากกว่าคือ ข่าววุ่นๆ ก่อนวันชี้ชะตา "เศรษฐา" ในประเด็น นายกฯ สำรอง เพราะยังไม่ทันรู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด แต่กระแสข่าวลือนี้ว่อนจนดึงความสนใจไปหมด
แล้วข่าวที่ออกมา แทนที่ "นายกฯ สำรอง" จะเป็น "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือนายชัยเกษม นิติสิริ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่กลับกลายเป็น 2 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่มาแรงกว่า นั่นคือ "เสี่ยหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
รายแรก "เสี่ยหนู" ต้องบอกว่าออร่าและราศีจับ ขณะที่อีกราย "ลุงป้อม" เป็นเพราะลูกหาบแถวสองแถวสามเดินแรง เดินโจ๋งครึ่ม ในเรื่องกวาดต้อน สส.และอดีต สส.ไปเป็นกำลังสำรองให้กับทีมงานบ้านป่าฯ
โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นักการเมืองเกรดซีในค่าย และลูกชายเพื่อน "บิ๊กป้อม" ที่เปิดหน้าชนรัฐบาล คานอำนาจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค
มันกลายเป็นการไปตอกย้ำข่าวความวุ่นวายของคนในป่าที่ "ทักษิณ ชินวัตร" นายใหญ่แห่งค่ายเพื่อไทยเคยเหน็บแนม
แต่นายสามารถก็เฮี้ยวได้ไม่นาน เพราะดันไปชกข้ามรุ่น ตอนนี้เสียงอ่อย สงบนิ่งไปแล้ว หลังนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค เอาผ้ายันต์ไปแปะหน้าผากลดความเฮี้ยน
ซึ่งกรณีนี้มันก็สะท้อนให้เห็นโครงสร้างภายในพรรคพลังประชารัฐตอนนี้ว่า คนที่ใหญ่จริงและกุมอำนาจไว้คือ ร.อ.ธรรมนัส กับพวก
อย่างไรก็ตาม เช็กความเคลื่อนไหวในค่ายเพื่อไทย "นายใหญ่" ไม่ยอมง่ายๆ ไม่ให้ปล่อยให้ "เศรษฐา" ร่วงเก้าอี้ด้วยสภาพนี้
อย่างที่เห็นความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการไปออกรอบกับบิ๊กการเมือง โดยเฉพาะนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เขาใหญ่สัปดาห์ก่อน เสมือนผูกมิตร สร้างแนวร่วม เกาะกลุ่มแน่น เพื่อสู้กับอีกฝั่ง
ไม่เว้นแม้แต่การขออนุญาตศาลบินไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าไปพบแพทย์และนัดพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลปิดประตูใส่ ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ไทม์ไลน์ที่ไปนั้น แท้จริงจะไปเจรจาหรือดีลอะไรกับใครทางการเมืองหรือไม่
หรือเป็นเพราะไม่มั่นใจ หรือระแวงอะไรในคดี ม.112 ของตัวเองหรือเปล่า
แต่อย่างไรก็ตาม แม้นายอนุทินจะราศีจับเพียงใด และในใจลึกๆ ย่อมต้องคิดถึงเรื่องส้มหล่นบ้าง แต่อ่านใจ "พรรคภูมิใจไทย" โดยเฉพาะ "ครูใหญ่บุรีรัมย์" สถานการณ์นี้น่าจะทุกขลาภมากกว่าอยู่เย็นเป็นสุขถ้าได้มา
ภูมิใจไทย เป็นพรรคอันดับสองในรัฐบาล มือในสภาล่างห่างกับพรรคเพื่อไทยค่อนข้างเยอะ ถ้าต้องได้เก้าอี้นายกฯ มาก็บริหารประเทศไม่เป็นสุข
ทั้งพรรคเพื่อไทย ทั้ง "นายใหญ่" บีบกดแน่ๆ ตามประสาคนที่เลือก และพรรคที่มี สส.มากที่สุดในรัฐบาล
โฟกัสค่ายสีน้ำเงินตอนนี้น่าจะหวังแค่มีอำนาจต่อรองในรัฐบาลสูง ครองเก้าอี้กระทรวงเกรดเอสมฐานะ ที่มีทั้งมือในสภาล่างและสภาสูง ยังไม่ฝันถึงตำแหน่งนายกฯ ในชั่วโมงนี้
ขณะที่ "ลุงป้อม" แม้จะยังมีความหวังในทางทฤษฎี แต่ทางปฏิบัติต้องยอมรับว่ายาก พละกำลังในวันที่ 3 ป.แยกย้าย หายไปเยอะ
ต่อให้ "เศรษฐา" หลุดตำแหน่งในวันที่ 14 สิงหาคม แต่พรรคเพื่อไทยก็คงไม่ยอมคายเก้าอี้ หรือต่อให้คายก็ยังมีพรรคภูมิใจไทย ที่คงไม่ปล่อยผ่านไปถึงพรรคอันดับ 3 ในพรรคร่วมรัฐบาล
ตรงกันข้าม ถ้า "เศรษฐา" ได้ไปต่อ ทิศทางการเมืองของ "ลุงป้อม" กับพรรคพลังประชารัฐจะถึงจุดพลิกผันทันที อาจได้เห็นอาฟเตอร์ช็อกทางการเมืองจากคดีของ "เศรษฐา" โดยเฉพาะกระแสข่าวลือกระฉ่อนจากศูนย์กลางอำนาจจันทร์ส่องหล้า ที่ว่า "นายใหญ่" ต้องการเลี้ยงไว้แค่ ก๊วนผู้กอง และอาจจะริบเก้าอี้รัฐมนตรีในโควตา "ลุงป้อม" คืน นั่นคือตำแหน่งของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อาจได้เห็นการจัดกระดานอำนาจกันใหม่ และนั่นรวมไปถึงคิว "ปรับ ครม." เติมคนไปใส่ในตำแหน่งที่ว่างอยู่ ตลอดจนเกลี่ยกระทรวงให้ถูกฝาถูกตัวเสียเลย
ขณะที่ในสัปดาห์หน้านี้ ก่อนจะถึงคิวคดีของนายเศรษฐา ยังมีคดีใหญ่ทางการเมืองให้ติดตาม นั่นคือ คดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคม
หลายคนฟันธงว่า "รอดยาก" ในขณะที่พรรคก้าวไกลก็เหมือนจะทราบชะตากรรม มองทำเลตั้งพรรคใหม่ โดยมีข่าวว่าจะใช้ "พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล" เป็นจุดพัก และตั้ง "หนูไหม" น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ มือวิพากษ์เศรษฐกิจรัฐบาล ขึ้นถือธงนำ
ตั้งใจประชันกับ "อุ๊งอิ๊ง" มองการณ์ไกลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว
ส่วนประเด็น สส.งูเห่า ยุคนี้เลื้อยหรือขายกันไม่ง่าย เพราะเห็นบทเรียนกันมาแล้วตอนยุบอนาคตใหม่ ใครโดดหนีไปสอบตกหมด 100 เปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าเป็นเวอร์ชัน "แอบเลี้ยง แอบดูแล" ประเภทนี้มีไม่น้อย เพราะตามข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคต่างเลี้ยงต้อย สส.สีส้มกันเงียบๆ เผื่อสถานการณ์วันข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมีเกมอะไรพลิกหรือไม่
เพราะการเมืองไทยวันนี้คิดแค่ช็อตเดียวไม่ได้ ต้องมองไกลๆ เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้เยอะๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา