นับหนึ่ง‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ยังขลุกขลัก ‘ย้ายทะเบียนบ้าน’ส่อทำเงินกระจุก

เริ่มแล้ว! อย่างเป็นทางการสำหรับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โครงการ เรือธง ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนวันแรก 1 สิงหาคม 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลต้องฝ่าฟันหลายมรสุมรอบด้าน ทั้งขั้นตอนทางกฎหมาย และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเส้นทางแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาแจกประชาชน หรือเรื่องการได้ไม่คุ้มเสีย หลายฝ่ายหวั่นเรื่องการเพิ่มภาระหนี้ล้น แต่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวไม่ได้ จนถึงขั้นมองกันว่าโครงการอาจจะล่มก็เป็นได้

แต่ทว่ามาถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลแจกแน่ 10,000 บาทเข้ากระเป๋าประชาชนแน่นอน โดยก่อนเริ่มวันแรกให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ นายเศรษฐา ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงได้พูดคุยกลางดึกกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้กำชับดูแลเรื่องระบบให้ดี และเน้นย้ำเรื่องการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึงว่ามีการเปิดระบบให้ลงทะเบียนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว

และถึงแม้ในวันแรกจะมีความขลุกขลักในเรื่องระบบล่มตั้งแต่เริ่มต้น แม้จะมีการเซตระบบเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมก่อนแล้วก็ตาม แต่พบว่าวันลงทะเบียนแอปพลิเคชันทางรัฐยังมีปัญหาโหลดช้า ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือระบบไม่สามารถใช้งานได้ชั่วขณะ เพราะประชาชนแห่ลงทะเบียนพร้อมกัน เพียงแค่ 1 ชั่วโมงแรก ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่เริ่มคิกออฟเปิดให้กลุ่มประชาชนที่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนรับสิทธิ์ พบมีผู้ลงทะเบียนแล้วถึงประมาณ 4 ล้านคน ส่วนยอดลงทะเบียนจนถึงเวลา 14.00 น.ของวันที่ 1 สิงหาคม มียอดลงทะเบียนรวมแล้วกว่า 10.5 ล้านคน

ทั้งนี้ได้รับการยืนยันจากขุนคลังอย่าง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ว่า ที่ประชาชนลงทะเบียนไม่สำเร็จ ระบบไม่ได้ล่ม แอปทางรัฐสามารถเข้าใช้ได้ตลอด แต่เพราะมีคนเข้าลงทะเบียนทำให้มีการโหลดพร้อมๆ กันทำให้มีอาการสะดุด แต่แอปทางรัฐไม่ได้ล่มแน่นอน

โดยในช่วงเปิดลงทะเบียนระหว่าง 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2567 กระทรวงการคลังยังได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามปัญหาของประชาชน อีกทั้งยังมีศูนย์บริการ ศูนย์ไอทีของชุมชนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทั่วประเทศ และเบอร์สายด่วน 1111 ให้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้หากพบปัญหาในการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล

และสำหรับการลงทะเบียนวันแรกของโครงการ ต้องยอมรับว่ารัฐบาลได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งการลงทะเบียนจะเปิดไปต่อเนื่องรวม 45 วัน จนถึงวันที่ 15 กันยายน เป็นวันสุดท้ายในกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน

แต่ทว่าระหว่างทางจากนี้ปัญหาและข้อสงสัยต่างๆ ของประชาชนได้เริ่มผุดขึ้นมาเรื่อยๆ โดยอีกปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ การใช้เงินดิจิทัลข้ามจังหวัด หลังรัฐกำหนดให้ใช้จ่ายในรัศมีอำเภอที่ประชาชนมีชื่อในทะเบียนบ้าน

ทำให้เกิดปัญหาในกลุ่มประชาชน เช่น ปัจจุบันพำนักในกรุงเทพฯ แต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านต่างจังหวัด ทำให้เมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว ไม่สะดวกไปใช้เงินดิจิทัลจับจ่ายสินค้าที่บ้านเกิดได้ ซึ่งในกรณีนี้รัฐไม่ปิดกั้น เปิดให้ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ์เงินดิจิทัลสามารถ “ย้ายทะเบียนบ้าน” ได้

แต่ปัญหายังไม่จบเมื่อมีการตั้งคำถามตามมาว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาทำงานในเมืองกรุงหรือเมืองใหญ่ๆ หากแห่กันย้ายทะเบียนมาอยู่ในเมืองเพื่อต้องการใช้จ่ายเงินดิจิทัล นั่นจะทำให้การกระจายรายได้ในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนมากระจุกและเงินสะพัดแค่ในเมืองใหญ่ๆ หรือไม่

แล้วในเมืองเล็กๆ ในชนบทจะไม่เกิดการกระจายรายได้ ไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง นั่นจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใช่หรือไม่?

ล่าสุดได้รับคำตอบจากนายกฯ ที่มองว่า “อยากให้คนที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ เช่น หนองบัวลำภูได้ไปใช้จ่ายที่หนองบัวลำภูเลยดีกว่า เพราะโครงการนี้ออกแบบมาให้เป็นแบบนั้น ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะมากระจุกตัวใช้ในเมืองใหญ่ๆ อย่างเมืองที่มีแหล่งแรงงานสูง เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ก็เป็นเมืองที่ได้รับความเจริญอยู่แล้ว ซึ่งจุดประสงค์ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือจะกระจายความเจริญไปสู่ทุกๆ ภูมิภาค”

เช่นเดียวกับ นายจุลพันธ์ ที่ระบุว่า การย้ายทะเบียนบ้านเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่คิดว่าต้องทำ เพราะรัฐบาลจะเปิดให้มีระยะเวลาที่สามารถใช้จ่ายได้ถึง 6 เดือน ซึ่งครอบคลุมช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ประชาชนที่ทำงานอยู่ต่างพื้นที่ทะเบียนบ้าน ก็สามารถกลับมาใช้สิทธิ์ในจังหวัดของตัวเองตามภูมิลำเนาได้

ขณะเดียวกัน หลังจากเปิดลงทะเบียนวันแรกก็เริ่มมีการพูดถึง การนำเงินดิจิทัลไปแลกเป็นเงินสด ซึ่งรัฐบาลออกตัวดักคอแล้วว่า ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งในระบบจะถูกบันทึกไว้และสามารถตรวจสอบได้ หากพบจะถูกดำเนินคดีอาญา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเปิดให้ประชาชนกลุ่มแรกที่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนแล้ว จากนั้นในระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2567 รัฐบาลจะเปิดแถลงข่าวรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นครั้งที่ 2 โดยจะเปิดเผยรายละเอียดการลงทะเบียนสำหรับกลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ก่อนวันที่ 16 กันยายน จะเปิดให้กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนเริ่มลงทะเบียน

ส่วนจากนี้ไปต้องจับตาในเรื่องฟีดแบ็กหลังเปิดลงทะเบียนในกลุ่มแรกว่าจะถูกใจ หรือจะถูกด่า รวมถึงในระยะต่อไปก่อนจะถึงวันเงินจะเข้ากระเป๋า จะมีการปรับหลักเกณฑ์ใดๆ เพื่อให้โครงการเรือธงของรัฐบาลออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถโกยคะแนนจากประชาชนได้มากที่สุดหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตีปี๊บลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต วันแรกกว่า 16.2 ล้านราย เห็นภาพกำลังซื้อขั้นต่ำ 1.62 แสนล้านบาท

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาพรวมการลงทะเบียนโครงการ Digital Wallet วันที่ 1 สิงหาคม ว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 19.30 น. มียอดผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 16.2 ล้านราย ซึ่งหมายความว่า จะเกิดพายุหมุนลูกแรกที่เป็นกำลังซื้อสูงถึงระดับ 162,000 ล้านบาท ไหลเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในไม่ช้านี้

อึ้ง! เศรษฐาประชุมความปลอดภัยท้องถนนแต่โอ่เรื่องไทยเป็นเจ้าภาพแข่งรถยนต์ไฟฟ้า

นายกฯ ประชุมหารือการป้องกันความปลอดภัยบนท้องถนน ร่วมงานกับ UN ในโครงการ Road Safety รณรงค์สวมหมวกนิรภัยลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน

แกนนำแดงอีสาน บอกคนขอนแก่นเหมือนถูกหวย ลงทะเบียนรอรับเงินหมื่นง่ายนิดเดียว

นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และอดีตแกนนำคนเสื้อแดงและแนวร่วม นปช.ขอนแก่น นำคณะทำงาน รศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตั้งจุดบริการประชาชนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่สำหรับกา