“เซฟทับลาน’ ค้านรุนแรง สะท้อนประชาชนระแวง “รัฐ”

ปัญหาเรื่องประชาชนอยู่มาก่อนประกาศพื้นที่อุทยาน เป็นปัญหายาวนานที่รัฐบาลทุกยุคพยายามแก้ไข โดยเฉพาะการจัดทำวันแมป

แต่มันไม่ได้แก้ง่ายๆ เพราะแม้พยายามมาหลายยุค แต่จนทุกวันนี้เพิ่งจะสำเร็จไม่กี่พื้นที่ และมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง

เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันชาวบ้านออกจากพื้นที่ หรือการเพิกถอนพื้นที่ เพื่อให้ชาวบ้านได้ทำกิน อยู่อาศัย โดยไม่ผิดกฎหมาย

แล้วยังมีปัญหาแทรกซ้อน เรื่องที่ ‘นายทุน’ ไปซื้อที่ต่อจากชาวบ้าน เอามาทำโรงแรม รีสอร์ตหรู กอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองอีก

จึงไม่แปลกที่กรณี ‘เซฟทับลาน’ จะสนั่นโซเชียลมีเดีย หลังรับรู้ว่ามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่องการเพิกถอนพื้นที่ ‘อุทยานแห่งชาติทับลาน’ ร่วม 2.6 แสนไร่

เป็นพลังคัดค้านจากทั่วประเทศ ที่พร้อมใจกันไม่เห็นด้วยกับการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ

อย่างไรก็ดี จริงๆ แล้วประชาชนทั่วประเทศเข้าใจถึงปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ก่อนจะประกาศเป็นอุทยาน แต่แรงคัดค้านที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่ไว้วางใจในภาครัฐ

โดยเฉพาะเรื่องการช่วย หรือการเอื้อประโยชน์ต่อ ‘นายทุน-เจ้าของรีสอร์ต’ ที่ถูกดำเนินคดีจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว

หากการเพิกถอนออกมาแล้ว คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ จะไม่ใช่ชาวบ้าน แต่เป็นพวก ‘นายทุน’ ที่จ้องจะกว้านเอาไปทำรีสอร์ต โรงแรม บ้านพักตากอากาศ

ชาวบ้านจะไม่ได้ประโยชน์จริงๆ!

ลำพังเรื่องการหั่นพื้นที่ป่าในประเทศนี้ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนรับไม่ได้แล้ว การหั่นออกไปโดยมีช่องโหว่ให้ ‘นายทุน’ เข้าไปใช้ประโยชน์ ยิ่งทำให้กระแสคัดค้านทวีคูณ

เห็นได้จากช่องทางที่กรมอุทยานฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กรณีการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-12 ก.ค.2567 ปรากฏว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนเข้าร่วมแสดงความเห็นจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกัน จนทำให้ระบบรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยานฯ ล่มเป็นช่วงๆ และช่วงครึ่งวันของวันที่ 9 ก.ค.ที่กระแสกำลังร้อนแรง มีประชาชนเข้าร่วมแสดงความเห็นแล้วกว่า 1 แสนราย

 ‘เซฟทับลาน’ ไม่ใช่เรื่องของคนในพื้นที่ แต่เป็นเรื่องของคนทั้งประเทศไปแล้ว

ขณะที่ภาครัฐเองก็สัมผัสถึงความร้อนแรงได้ พยายามออกมาชี้แจงว่ายังอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และยังไม่ได้บทสรุป

และกระแส ‘เซฟทับลาน’ ใหญ่มากพอที่จะทำให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ต้องรีบ ‘เซฟตัวเอง’ ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลชุดนี้ แต่เป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว

 ‘เศรษฐา’ ถึงขั้นกับเอ่ยชื่อว่า มันมาจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่มี ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธาน มีมติให้กันพื้นที่ชุมชนออกไปอยู่ในความดูแลสำนักการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน มี.ค.2566 ได้ให้ความเห็นชอบตามที่ คทช.เสนอ

 ‘เศรษฐา’ จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ เพื่อเป็นการเซฟตัวเองว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และดูแล้วรัฐบาลชุดนี้จะไม่กล้าเดินลุยประเด็นอุทยานแห่งชาติทับลานแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแน่

 ‘เศรษฐา’ มองเห็นบทเรียนมาแล้วจากกรณี ‘หมุดเขาใหญ่’ ที่ ส.ป.ก.เอาไปปัก จนมีปัญหากับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ไม่มีใครเข้าข้างรัฐบาล ไม่มีใครเข้าข้าง ส.ป.ก. มีแต่คนเข้าข้างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะ ‘ตัวแทน’ ของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผืนป่าในประเทศนี้

แผลเรื่องความสุ่มเสี่ยงที่จะเอื้อประโยชน์ ‘นายทุน’ จากกรณี ‘หมุด ส.ป.ก.’ ที่เขาใหญ่ ยังคงเป็นความหวาดระแวงที่ประชาชนมีแต่รัฐบาลชุดนี้

กว่า ‘เศรษฐา’ และรัฐบาลจะผ่านเรื่องนั้นมาได้แทบจะหัวหมุน

เรื่อง ‘ที่ดิน-ผืนป่า’ กลายเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนของรัฐบาลชุดนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะดำเนินการเรื่องใดๆ จะถูกระแวงเสมอ

ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวผู้นำเองเป็น ‘ซีอีโอบริษัทอสังหาริมทรัพย์’ มาก่อนด้วย

ดูแล้วเรื่องเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานบางส่วนน่าจะยืดเยื้อต่อ เพราะรัฐบาลคงไม่กล้าเดินลุยไฟ เพราะในประเทศนี้ เรื่อง ‘ป่า-สัตว์’ ถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหว และสร้างอารมณ์ร่วมของคนในประเทศได้ง่าย โดยไม่ต้องมีการจัดตั้งใดๆ

การดำเนินการท่ามกลางความสงสัยในเรื่องนี้ สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อภาพรวมได้

บทเรียนเรื่องจุดจบของรัฐบาลที่พยายามทำใน 2 สิ่งนี้ โดยไม่สนอารมณ์คนในสังคม ลงเอยไม่ดีสักราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด

นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง

จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567

ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!

แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่

โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้

นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า

‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’

แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี