ย้อนรอยสปิริต‘เพื่อไทย’ สู่กรณี‘ชาญ พวงเพ็ชร์’

กรณี “ชาญ พวงเพ็ชร์” จากพรรคเพื่อไทย หลังชนะเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เหมือน “มีบุญ แต่กรรมบัง” เพราะใช้พลังและทรัพยากรณ์สุดความสามารถ

อีกทั้ง นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนาย พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของทักษิณ ลงแรงไปช่วยหาเสียง ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ “บิ๊กแจ๊ส” แต่ชนะแบบฉิวเฉียดไป 1,800 คะแนนเท่านั้น 

แม้ชนะเลือกตั้ง แต่สุดท้ายติดปัญหาบ่วงกรรมในอดีต หลังเคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2564 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี 2555 และสำนวนถูกส่งฟ้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 โดยศาลนัดสืบพยานในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้

ส่งให้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือเวียนไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจังหวัดปทุมธานี

โดยอ้างคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาขึ้นมาตีความว่า “ชาญ” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 91 ประกอบมาตรา 98 โดยไม่ต้องรอให้ศาลชี้ซ้ำ หาก กกต.รับรองผลการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ปทุมธานีแล้ว 

ทั้งนี้หาก “ชาญ” ไม่เชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบหากเห็นว่าผิดจริง ก็รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งล่าสุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ก็ยืนตามแนวทางของคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขณะที่พรรคเพื่อไทย เริ่มตั้งแต่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย “สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ประสานเสียงปกป้องว่าต้องรอให้ศาลอาญาฯ มีคำสั่งออกมาก่อน ขณะที่คำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นแค่ความเห็น ไม่มีสภาพบังคับ

อย่างไรก็ตาม ผลของกฎหมาย หลังจากนี้คงต้องรอให้ กกต.รับรองผลนายก อบจ.ปทุมธานีอย่างเป็นทางการ

 “ชาญ” ก็จะมีสิทธิต่อสู้หลายแนวทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น หากไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่และรอให้กระทรวงมหาดไทยสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ก็สามารถอุทธรณ์คำสั่ง ก่อนไปจบที่ศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด 

หรือจะเลือกเดินตามแนวทางของคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” เพื่อรอศาลอาญาฯ พิพากษาตัดสิน ซึ่งอาจจะรอด และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ 

แต่สิ่งที่เสียหายคือชาวปทุมธานีจะเสียโอกาสที่ได้จะได้ นายก อบจ.ที่มาจากการเลือกตั้ง แก้ปัญหาตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เพราะเชื่อว่าคดีดังกล่าวศาลอาญาฯ ต้องใช้เวลาตัดสินอีกหลายปี และ “ชาญ” ก็ยังไม่สามารถแต่งตั้งรองนายก อบจ.ทำหน้าที่แทนได้ด้วย แต่จะมีปลัด อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นข้าราชการประจำทำงาน และไม่ตอบสนองงานการเมืองได้

ขณะที่ อีกแนวทางหนึ่งก็คือแสดงสปิริตลาออก เพื่อลดความเสียหาย ทั้งตัว “ชาญ” รวมทั้ง “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ไม่ให้ถูกขยายผลทางการเมือง หลังนำคนที่มีมลทินมารับเลือกตั้งโดยไม่เห็นหัวประชาชน และยังเป็นการรักษาบรรทัดฐานทางการเมืองควบคู่จิตสำนึกเอาไว้ได้บ้าง

ซึ่งในอดีตก็มีนักการเมืองเคยกระทำและได้รับคำชื่นชมมาแล้ว กรณี “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่ 2 ในวันที่ 5 ต.ค.2551 เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีรถดับเพลิง โดยยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

 “อภิรักษ์” ก็ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทันที ในวันที่ 19 พ.ย.2551 ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นในสมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต่อมาศาลฎีกาฯ ก็ตัดสินว่า “อภิรักษ์” ไม่มีความผิด ทำให้สามารถยืดอกได้อย่างสง่างาม

ขณะที่ ก่อนหน้านี้คนพรรคเพื่อไทยในสมัยเป็นฝ่ายค้าน ก็เคยเรียกร้องรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แสดงสปิริตทางการเมืองด้วยการลาออกหรือยุบสภา โดยไม่ต้องรอผลทางกฎหมายหรือศาลตัดสินมาแล้วเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ประเด็นวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เคยเรียกร้อง ให้ “บิ๊กตู่” ลาออกเพื่อความสวยงามรัฐธรรมนูญ หยุดผลักภาระให้ศาลรัฐธรรมนูญ

 “เราไม่ต้องการแสดงท่าทีกดดันศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ทุกอย่างก็จบ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องรับภาระ และก็จะเป็นความสวยงามของรัฐธรรมนูญ ผมเชื่อว่าประชาชนก็จะชื่นชอบ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2565

เช่นเดียวกับ นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เคยเรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีมีคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจาก รมช.แรงงาน

“พล.อ.ประยุทธ์ลาออกมากกว่า แต่ทำไมไปให้คนอื่นออกแทน เพราะฝ่ายค้านไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งสองคนนั้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ต่อทุกวิธีการ และครั้งนี้ก็ใช้วิธีการเลือกรัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องออก” สุทิน กล่าวไว้ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 

ขณะที่ก่อนหน้านั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต สส.น่าน พรรค พท.

ร่วมกันแถลงถึงความล้มเหลวในการปราบทุจริตคอร์รัปชันของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกดดันให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลาออก หลังจากไม่สามารถตรวจสอบและเอาผิดนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ 

 “ขอฝากประธาน ป.ป.ช.ที่เคยเป็นนายตำรวจ นักวิชาการที่มีเกียรติยศ เกียรติภูมิ แต่สิ่งที่ท่านทำวันนี้ต้องมาเกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาเดิมจนเกิดข้อคลางแคลงต่อสังคม ไม่อยากเห็นท่านหม่นหมองจากความกตัญญู ไม่อยากให้นำเกียรติภูมิที่ท่านมี ถูกทำลายจากเรื่องดังกล่าว ไม่อยากให้ฝืนทำสิ่งที่ผิด แค่ถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้คงไม่พอ แต่ท่านต้องถอนตัวจากการเป็นเครื่องมือฟอกขาวให้คนผิด” นายภูมิธรรมกล่าวไว้เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561

เมื่อดูสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยเรียกร้องไว้ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะสั่งให้ “ชาญ” แสดงสปิริตลาออก และพรรคเพื่อไทยยอมขอโทษประชาชน อย่างน้อยไม่กลืนน้ำลายตัวเอง และยังเรียกศรัทธาให้พรรคสีแดงคืนมาได้บ้าง!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว! 'แกนนำ คปท.' เผยเรื่องใหญ่งานนี้อยู่ดีๆ ความจริงก็ปรากฏ ปมทักษิณชั้น 14

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ชั้น 14 พล.ต.อ.เสริพิศุทธ์ เตมียเวส ให้สัมภาษณ์สื่อ pptv ว่า ได้ไปเยี่ยม นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ ร.พ.ตำรวจ

จับตา กกต.เลื่อนรับรอง สว. เตรียมปล่อยผีสอยทีหลัง

นับได้ว่าขณะนี้ ถนนการเมืองได้คลอดว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และสำรอง 100 คน ที่เตรียมพร้อมจะเข้าทำงานในสภาเพื่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'อนุทิน' รับไม่ขอเสี่ยงปม 'ลุงชาญ' ยึดความเห็นเลขาฯกฤษฎีกา ชี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจ​ไทย​ กล่าวถึงกรณีนายชาญ​ พวงเพ็ชร์​ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด​ หรือ อบจ.จังหวัดปทุมธานี​ จะขัดกฎหมายตามม.​157 หรือไม่

'ปิยบุตร' แนะ 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ใช้สปิริตลาออก เหตุระบบกฎหมายตอนนี้มันลักลั่น

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ว่า ตัวเลขออกมาแล้ว ไม่ว่าจะชนะมากหรือน้อย จะขาดหรือไม่ขาด ก็เป็นผลการเลือกตั้งที่ประชาชนตัดสินใจมา

'ชูศักดิ์' เผยรอศาลสั่ง 'ชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เห็นแย้งเลขาฯ ป.ป.ช. โยนมหาดไทย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจ.ปทุมธานี ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ในความเห็นตนคิดว่าเรื่องที่กฤษฎีการะบุว่า

ปชป.บี้ 'ลุงชาญ' แสดงสปิริต หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง ยก 'อภิรักษ์' เป็นตัวอย่าง

นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นว่า