พท.ไม่สิ้นมนตร์ขลังแต่ชนะแค่1.8พัน ปิดตำนาน"บิ๊กแจ๊ส-มีวันนี้เพราะพี่ให้”

เสร็จศึกแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกฯ อบจ.ปทุมธานี ที่ล่าสุดผลคะแนนออกมาแล้วเป็นทางการ ผลปรากฏว่า “นายชาญ พวงเพ็ชร์” ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย มีดีกรีเป็นอดีตนายกฯ อบจ.ปทุมธานี 3 สมัย ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,032 คะแนน

ขณะที่ “บิ๊กแจ๊ส”-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 3 ได้คะแนน 201,212 คะแนน ทำให้ “นายชาญ” ชนะ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” แบบสูสีด้วยคะแนนห่าง 1,820 คะแนน ที่ลงป้องกันแชมป์ในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคใด

โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ นายใหญ่ของเพื่อไทย อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ไปที่ จ.ปทุมธานี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียง แต่การปรากฏตัวของ “ทักษิณ” ก็สามารถเรียกกลุ่มคนเสื้อแดงเก่ากลับมาได้บางส่วน เป็นการพลิกสถานการณ์ช่วงเกือบโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง

ประกอบการปรากฏตัวของ “อุ๊งอิ๊ง”-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานีเพื่อช่วย “นายชาญ” หาเสียง พร้อมกับมี สส.หลายคนในนามพรรคเพื่อไทยได้ลงช่วยหาเสียงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว รวมถึงผู้สนับสนุนอีกหลายคน

ในขณะเดียวกัน ด้าน “บิ๊กแจ๊ส” ที่ถึงแม้จะลงในนามอิสระ แต่เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับลูกชายคนโตของ “บิ๊กแจ๊ส” นั่นคือ “ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง” นายกเทศมนตรีนครรังสิต ที่ก่อนหน้านี้ “พรรคก้าวไกล” ประกาศกลับลำกะทันหันไม่ส่งบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. โดยอ้างว่ามติคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ยังไม่ส่งใครลงสมัคร และไม่สนับสนุนใคร เนื่องจากมีการใช้เทคนิคชิงลาออก ฉวยโอกาสได้เปรียบทางการเมือง

แต่อีกด้านหนึ่ง “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เป็นระยะ จึงมีหลายคนมองว่าการลงเลือกตั้งในครั้งนี้ “พรรคก้าวไกล” คอยผลักดัน “บิ๊กแจ๊ส” อยู่เงียบๆ หรือไม่

 การที่ “พรรคก้าวไกล” ไม่ส่งตัวแทนลงในนามพรรค อย่างน้อยนั่นคือการให้เกียรติว่าก่อนที่จะลงมติไม่ส่งตัวแทนในนามพรรค ทั้งที่มีการตั้งชื่อ “ร.ต.อ.ตรีลุพธ์” ไว้แล้ว เพราะในพรรคก้าวไกลเสียงแตกเป็น 2 กลุ่ม ทั้งเห็นด้วยว่าให้ส่ง “ร.ต.อ.ตรีลุพธ์” กับไม่เห็นด้วย เพราะ บ้านธูปกระจ่าง เคยเป็นพันธมิตรกับ “ทักษิณ” มาก่อน และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อ “พรรคก้าวไกล” ประกาศไม่ส่งผู้สมัครในการนามพรรคทั้งที่สามารถทำได้ แต่กลับให้ “บิ๊กแจ๊ส” ไปแข่งกับ “นายชาญ” กันเองแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ

ส่วนเหตุผลที่เลือกไม่ส่งลูกชายของ “บิ๊กแจ๊ส” ลง เป็นเพราะอดีตของ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” เคยพัวพันกับ “ทักษิณ” และจะทำให้ “ก้าวไกล” เสียคะแนนไป

เมื่อดูความสัมพันธ์ของ “บิ๊กแจ๊ส” ที่มีต่อ “ทักษิณ” เรื่องนี้แซ่บไม่แพ้เรื่องเลือกตั้ง เพราะ “บิ๊กแจ๊ส” เคยลั่นวาจาถึงขนาดที่ว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ครั้งยังมีความเจริญในหน้าที่การงาน แต่ต่อมาคู่นี้ก็ขัดแย้งกันจนกลายเป็นศัตรูเลยก็ว่าได้

ทาง “เพื่อไทย” จึงต้องไปดึง “นายชาญ” เพื่อมาแข่งกับ “บิ๊กแจ๊ส” ทั้งขนคนลงไปหาเสียง ขนตระกูล “ชินวัตร” ลงพื้นที่หาเสียงกันกระหน่ำ

แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาจะเห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 949,421 คน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 472,536 คน คิดเป็นร้อยละ 49.77 บัตรดี 428,349 บัตร คิดเป็นร้อยละ 90.65 บัตรเสีย 11,302 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.39 บัตรไม่เลือกผู้ใดหรือโหวตโน 32,885 บัตร คิดเป็นร้อยละ 6.96

ประเด็นสำคัญอยู่ที่จำนวนคนที่ออกมาเลือกตั้ง และบัตรที่ไม่เลือกผู้ใด เพราะอำเภอที่ไม่เลือกผู้ใดเยอะที่สุดคือ เขตที่มีนักศึกษาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้จะลงในนามพรรคหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะประวัติที่เป็นมาต่างหากคือสิ่งที่สำคัญ จึงเลือกที่จะโหวตโน คือไม่เอาทั้งคู่ ให้จบกันไป

การต่อสู้ในตำแหน่งนายกฯ อบจ.ปทุมธานี ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของคนที่เคยอุปถัมภ์ค้ำชูกันแต่วันหนึ่งกลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งเรื่องนี้แน่นอนว่า “ทักษิณ” ไม่ยอมแน่ๆ และพยายามทำทุกทางที่จะชนะ “บิ๊กแจ๊ส” ให้ได้

ถือเป็นการผนึกกำลังของบ้านใหญ่ทั้ง 8 บ้านของปทุมธานี ได้พลิกวิกฤตอย่างแท้จริง แต่ก็น่าคิดว่าขนาดผนึกกำลังทั้ง 8 บ้านรุมแล้ว ยังชนะได้แค่ 1,820 คะแนน หรือยุคทอง มนตร์ขลังของ “ทักษิณ” กำลังจะหมดลงแล้วหรือไม่

รอบหน้าดูแล้วเหมือนจะสู้ลำบาก เพราะไม่มีกระแสเสื้อแดงอยู่แล้ว รอบหน้า 8 บ้านใหญ่ก็อาจจะแตกทัพไปคนละทิศคนละทาง ถือหางคนละขั้ว

แต่การเลือกตั้งในครั้งนี้มีแค่ 2 ขั้วเท่านั้น จึงเลือกได้แค่นี้ รอบต่อไปเลือกตั้งระดับชาติถ้าไม่มีบ้านใหญ่คอยช่วย กระแสคนเสื้อแดงที่มีจะเหลือหรือไม่ ต้องรอติดตามชมว่า “ทักษิณ” ที่ยังหลงอยู่ในกระแส จะใช้ของขลังอะไรเพื่อให้ได้คะแนนกลับคืนมาสู่ “เพื่อไทย”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“กาสิโน”เผือกร้อน“กฤษฎีกา” สมดุลการเมือง-ผลกระทบสังคม

จับตาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายกาสิโนในมือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลัง ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎหมาย ว่าจะตรงปกและเป็นไปตามความต้องการของฝ่ายการเมืองหรือไม่ และอีกหนึ่งมติคือ ข้อห่วงใยผลกระทบทางสังคมและปัญหาอบายมุขตามมา

หวั่นเวชระเบียน'ทักษิณ'จุดชนวน รพ.ตำรวจอึมครึม คปท.ยกระดับ!

ขีดเส้น 15 ม.ค.นี้ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ได้ส่งหนังสือถึง พล.ต.ท.นพ.นพศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ จัดส่งเอกสารทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เวชระเบียนการรักษาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กระทั่งออกจาก รพ.ตำรวจ โดยมี นพ.อมร ลีลารัศมี อดีตกรรมการแพทยสภา เป็นประธานอนุกรรมการสอบ

ลุยเปิดกาสิโนส่อสะดุด กฤษฎีกาโดดขวางเต็มสูบ

แนวคิดการทำให้ พนันออนไลน์ ขึ้นมาอยู่บนดิน ตามที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำรัฐบาลเพื่อไทยตัวจริงส่งสัญญาณมา หลายคนยังมองโมเดลนี้ไม่ออกว่าจะทำได้อย่างไร เพราะน่าจะติดล็อกข้อกฎหมายหลายอย่าง รวมถึงต้องเจอแรงต้านในส่วนของภาคประชาสังคม

1ประเทศ2นายกฯ ระวังจบซ้ำรอยเดิม?

มีหลายส่วนในสังคม คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พ้นโทษออกมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ทำตัวเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของรัฐบาล

เหลี่ยม"ทักษิณ"หาเสียงนายกอบจ. ก้ำกึ่ง สุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพาดพิงคู่ปรับทางการเมืองอย่างดุเดือด

'คุมขังนอกเรือนจำ'ความหวังใหม่ ระบบยุติธรรมหรือประตูสู่ความลำเอียง

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบยุติธรรม โดยในปี 2568 กรมราชทัณฑ์จะเริ่มใช้ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ