สภาฮั้วค่าย 'สีน้ำเงิน' ยึดสว. วงจรอุบาทว์การเมืองไทย

“การออกแบบเลือก สว.แบบพิสดารที่ต้องการตัวแทนกลุ่มอาชีพที่หลากหลายจึงไม่มีความหมาย เพราะได้ สว.ไม่ตรงปก ไม่ได้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ตรงกับกลุ่มอาชีพของตนเอง แต่ละคนไม่มีความผูกพันกับกลุ่มอาชีพของตนอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่ตัวแทนกลุ่มอาชีพ และก็ไม่ใช่ผู้แทนปวงชนชาวไทย” 

ผลการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รายชื่อว่าที่ สว.จำนวน 200 คน และสำรอง 100 คน ครบแล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรองนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.นี้

แต่เมื่อเห็นรายชื่อว่าที่ สว.ทั้งหมด ก็ตรงกับข้อสังเกตที่มีการเปิดโปงในช่วงกระบวนการคัดเลือกตั้งแต่แรกว่ามีการจัดฮั้ว-บล็อกโหวตอย่างชัดเจน          

เนื่องจากรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกที่มีผู้คนรู้จักอย่างกว้างขวางแบบ ดี เด่น ดัง มีคุณสมบัติตรงกับกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม ผ่านการคัดเลือกเพียงไม่กี่คน

แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกโนเนม ม้ามืด คุณสมบัติก็ไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพที่ลงสมัครในกลุ่มตัวเองแต่อย่างใด

เช่น กลุ่ม 16 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา ปรากฏชื่อ นายปราณีต เกรัมย์ เขียนข้อมูลแนะนำตัวแค่ครึ่งบรรทัดว่า "เป็นนักกีฬาฟุตบอลอาวุโส พ.ศ.2527-2547"

เมื่อสืบคันประวัติพบว่า นายปราณีต หรือที่นักข่าวเรียกกันว่า พี่ดำ เป็นอดีตคนขับรถ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภาผู้ล่วงลับ บิดาของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย

ส่วนรายชื่อกลุ่มอื่นก็มีลักษณะคล้ายกัน กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นางคอดียะฮ์ ทรงงาม อายุ 64 ปี จ.อ่างทอง อาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ที่มีประวัติทำงานประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน นางอารีย์ บรรจงธุระการ อายุ 65 ปี จ.สตูล อาชีพ พยาบาล มีประสบการณ์เคยเป็นพิธีกรงานแต่ง

ส่วนกลุ่มอื่นๆ เขียนข้อมูลแนะนำตัว อาทิ ก่อสร้าง ขับสิบล้อ-แบ็กโฮ เลี้ยงปลาในกระชัง รับจ้างวิ่งน้ำ เลี้ยงวัว ขายหมู ขายกล้วยทอด ขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ฯลฯ ร่วมขบวน สว.ชุดใหม่

การได้มาซึ่งรายชื่อ สว.ในลักษณะดังกล่าว เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน

กำหนดให้ สว. จำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่ง มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางานหรือเคยทํางานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม และให้ดำเนินการตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยในระดับประเทศ

ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 กำหนดกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม มีวิธีการคัดเลือกที่ซับซ้อน โดยในระดับอำเภอให้เลือกกันเอง ผู้ได้คะแนนเรียงลำดับ 5 คนแรกเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกในแต่ละกลุ่ม โดยผู้สมัครจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้     

จากนั้นให้มีการ เลือกไขว้ โดยแบ่งออกเป็น 4 สาย แต่ละกลุ่มจับฉลากว่ากลุ่มตัวเองจะอยู่ในสายใด แล้วให้ผู้สมัครเลือกกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน ส่วนในระดับจังหวัดและระดับประเทศก็เลือกกันเองในลักษณะเดียวกัน โดยขั้นสุดท้ายผู้ผ่านการคัดเลือกเรียงลำดับ 1-10 เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกในแต่ละกลุ่ม จึงถูกมองว่าเป็นวิธีเลือกแบบพิสดาร

ที่น่าแปลกใจพบว่า มีผู้สมัครที่ได้ 0 คะแนนจำนวนมาก โดย นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่ตรวจสอบการเลือก สว.ครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ระบุว่า จะมีผลการเลือกฮั้ว 0 คะแนน นับหมื่นคน

จึงขัดกับธรรมชาติของผู้สมัครที่ลงทุนเสียเงินค่าสมัคร 2,500 บาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ นับหมื่นบาท แต่กลับไม่เลือกตัวเอง

ในทางปฏิบัติ การเลือกกันเองในกลุ่มทำให้ผู้สมัครทุกคนแสดง สัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ออกมา ที่จะไม่ให้คน ดี เด่น ดัง กว่าตัวเองในกลุ่ม ได้คะแนนมากว่าตนเอง จึงต้องเลือกคนที่มีคุณสมบัติด้อยกว่าตัวเอง เพื่อยกตัวเองให้เหนือผู้สมัครคนอื่นจึงจะได้มีโอกาสเข้ารอบ และต้องมีการหักหลังกันเอง เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่่มีข่าวว่าถูกวางตัวให้เป็นประธาน สว. ก็ถูกเตะตัดขาเสียก่อน

ส่วนการเลือกไขว้ ผู้สมัครแต่ละกลุ่มก็แทบไม่รู้จักประวัติของผู้สมัครกลุ่มอื่นเลย โดยเฉพาะในรอบประเทศ หลังจากจับฉลากแบ่งกลุ่มแล้ว ผู้สมัครแต่ละคนมีเวลาอ่านข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร หรือ สว.3 จาก 77 จังหวัด จังหวัดละคน รวม 153 คน (ไม่รวมตัวเอง) ที่กำหนดไม่เกิน 5 บรรทัด เพียงแค่ชั่วโมงเดียว

จากกระบวนการเลือก สว.ดังกล่าว จึงเข้าทางกลุ่มการเมืองทำการจัดฮั้ว บล็อตโหวต จนสำเร็จ

โดยพบว่ามีการเกาะกลุ่มคะแนนตั้งแต่ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-6 รวม 18 กลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่ 1-13 กลุ่มที่ 15-17 และกลุ่มที่ 19-20 เกาะกลุ่มลำดับที่ 1-7 ในกลุ่มที่ 18 เกาะกลุ่มลำดับที่ 1-5 ในกลุ่มที่ 14

ทั้งหมดมีคะแนนตั้งแต่ 46-77 คะแนน เฉลี่ยแล้วในลำดับที่ 1-6 อยู่ที่ 55-60 คะแนน ทิ้งห่างผู้ที่ได้คะแนนลำดับที่ 7-10 ทั้ง 20 กลุ่ม ที่มีฐานคะแนนเฉลี่ย 22-25 คะแนน

และที่น่าสนใจพบว่า ผู้สมัคร สว.บุรีรัมย์ ได้รับเลือกเป็น สว.จำนวน 14 คน ใน 11 กลุ่ม จากทั้งหมด 20 กลุ่ม ขณะที่กรุงเทพมหานคร ที่มีประชากรมากที่สุด มี สว.9 คน และมี 12 จังหวัดที่ไม่มี สว.แม้แต่คนเดียว

ว่ากันว่า กลุ่มการเมืองที่ เชี่ยวชาญการจัดการการเลือกตั้ง นำบรรดา โหวตเตอร์ ไปเข้าค่ายซักซ้อม จัดเลี้ยงที่โรงแรมอยุธยา รีเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วใส่เสื้อสีเหลืองเหมือนกัน เพื่อบ่งบอกว่าเป็นพวกเดียวกันในการลงคะแนน และก็เข้าเป้าทั้งหมดตามผลคะแนนที่ออกมา ได้รับ กล้วยคนละ 2 แสน กลับบ้านอย่างสบายใจโดยไม่สนใจผลคะแนนด้วยซ้ำ ทำให้ กลุ่มบ้านใหญ่-ค่ายสีน้ำเงิน เข้ายึดสภาสูงอย่างเบ็ดเสร็จมากกว่ากึ่งหนึ่ง

ส่วนกลุ่มการเมือง ค่ายสีแดง ก็พยายามจัดฮั้วเหมือนกัน แต่ไม่เข้าเป้า สำหรับ ค่ายสีส้ม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ออกตัวตั้งแต่แรก ปลุกพวกตัวเองที่เรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยให้เสียสละเงิน 2,500 ไปสมัคร สว.เพื่อไปแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ไม่ได้ลงทุนจ่ายค่าสมัครให้ ไม่ได้แจก กล้วย จึงไม่เข้าเป้า

การออกแบบเลือก สว.แบบพิสดาร ที่ต้องการตัวแทนกลุ่มอาชีพที่หลากหลายจึงไม่มีความหมาย เพราะได้ สว.ไม่ตรงปก ไม่ได้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ตรงกับกลุ่มอาชีพของตนเอง แต่ละคนไม่มีความผูกพันกับกลุ่มอาชีพของตนอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่ตัวแทนกลุ่มอาชีพ และก็ไม่ใช่ผู้แทนปวงชนชาวไทย 

ด้านกลุ่มผู้สมัคร สว.ที่ไม่ผ่านการคัดเลือก ออกมาแฉกระบวนการบล็อตโหวต และยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ นำโดย นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร สว.กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบการบล็อกโหวต เพราะทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพยเป็นการทำลายประชาธิปไตย นอกจากนี้คุณสมบัติก็ยังไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ นักวิทยาศาสตร์จบ ป.4 สื่อมวลชนเป็นคนพูดเสียงตามสาย มันผิดตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครในครั้งแรกแล้ว

นางกุสุมาลวตีกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะขณะที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นอดีตคณะทำงานของ นายชัย ชิดชอบ และพี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ​ โดยการสนับสนุนของคนบางคน และคนบางพรรค การกระทำเยี่ยงนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น  

ต้องรอดูว่า กกต.จะมีน้ำยาแค่ไหน เพราะตั้งแต่กระบวนการเลือกระดับอำเภอ ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการฮั้วแล้ว แต่ กกต.ก็ทำอะไรไม่ได้ จนปล่อยถึงระดับประเทศ และได้ สว.ฮั้วอย่างที่เห็น

ล่าสุดมีการคาดการณ์ถึงตัวเต็งประธาน สว.ไว้แล้วคือ พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือ บิ๊กเกรียง และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันเป็นประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล) และเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. ว่าที่ สว.61 ของนายอนุทินจากกลุ่มที่ 1 ได้คะแนนสูงถึง 74 คะแนน

หากประธาน สว.เป็นไปตามคาด เท่ากับ กลุ่มสีน้ำเงิน ยึดสภาสูงเบ็ดเสร็จ ก็ไม่ต่างจาก สภาผัวเมีย ที่มาจากการเลือกตั้ง ถูกครอบงำโดยกลุ่มการเมือง ส่วน สภาลากตั้ง ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร คสช. ก็เป็นพวกพ้องกลุ่มตัวเองเช่นกัน 

บทบาทหน้าที่ สว.นอกจากกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังมีหน้าที่่ให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีกจำนวนมาก จึงต้องมี สว.ที่เป็นอิสระ เพื่อเลือกองค์กรอิสระ แต่เมื่อ สว.มาจากกลุ่มการเมือง ก็เชื่อว่าการยกมือโหวตลงมติในเรื่องต่างๆ จะเป็นไปตามใบสั่ง และจะมีการ แจกกล้วย กันสนั่นแน่

เมื่อกรรมการในองค์กรอิสระเป็นบุคคลที่แนบชิดหรือสังกัดกลุ่มการเมือง เจตนารมณ์ที่จะให้ถ่วงดุลคานอำนาจกันก็จะบิดเบี้ยวไป ระบอบประชาธิปไตยของไทยก็จะอ่อนแอ การเมืองไทยจะวนอยู่ในวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

สว.สีน้ำเงินขยับแล้ว จับตา 2 แคนดิเดตชิงรองประธานวุฒิฯ  

สว.สีน้ำเงินเตรียมขยับแล้ว รอเปิดเซฟเฮ้าส์พบปะหลังวันพุธ 3 ก.ค. หึ่งแคนดิเดตชิงรองประธานวุฒิฯ หลายชื่อเริ่มโผล่ “สรชาติ อดีตส.ส.หนองบัวลำภู” –“บุญส่ง อดีตกกต.”ส่วน”บิ๊กเกรียง”ยังแรง คั่วประมุขสภาสูง เปิดข้อบังคับฯ แคนดิเดต ต้องแสดงวิสัยทัศน์ก่อนโหวต

‘ดิเรกฤทธิ์’ เหนื่อยใจ ‘กกต.’ ทำมึนไม่ฟังเสียงทักท้วง ฮั้วเลือก สว.

กกต.ทำมึน มองไม่เห็นข้อบกพร่องตนเอง สุดท้ายตรวจอะไรไม่ได้ หาคนผิดไม่เจอ สามารถประกาศรายชื่อ สว.200 คน  ได้ตามเป้าหมายโดยสมบูรณ์

มีหนาว! ‘ชวน’ เชื่อในอนาคต ก๊วนดีลลับช่วยนักโทษเทวดา จะโดนเช็คบิลย้อนหลังแน่

ก๊วนดีลลับ-ช่วยนักโทษเทวดามีหนาว “อดีตนายกฯชวน”เชื่อ ในอนาคตจะมีการรื้อฟื้นสอบสวน เช็คบิลย้อนหลัง

'สมชาย' หลุดขบวน สว.ไม่เกี่ยวความนิยมเพื่อไทย ชี้กติกาถูกเซตมาแล้ว

นายกฯ บอก “สมชาย” หลุดวงสว.ไม่เชื่อมโยงความนิยมเพื่อไทย ระบุ กติกาถูกเซตมาแล้ว ชี้มีผิดหวังสมหวัง ใครเห็นช่องโหว่ควรปรับปรุงต้องตั้ง สสร.แก้ในสภ